เชื่อหรือไม่ คอนเสิร์ตทำโดยคนไทย คือ วงคาราบาว
เมื่อ: เสาร์ ก.ค. 14, 2007 23:00คอนเสิร์ตทำโดยคนไทย
คอนเสิร์ตทำโดยคนไทย คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของคาราบาว เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 ณ สนามเวลโลโดม ในสนามกีฬาหัวหมาก นับเป็นคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ของวงการดนตรีไทยครั้งหนึ่ง ด้วยเป็น การจัดแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินไทยครั้งแรกที่จัดในสนามกีฬา, เป็นคอนเสิร์ตของศิลปินไทยที่มีคนดูมากที่สุดครั้งหนึ่งตราบจนปัจจุบัน, เป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกของศิลปินไทยที่ใช้เทคโนโลยีเครื่องเสียงเทียบเท่าศิลปินต่างประเทศด้วยทีมงานที่เป็นคนไทยเองทั้งหมด, เป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกทั้งยังเป็นคอนเสิร์ตที่แสดงไม่จบอีกด้วย
ทำโดยคนไทย จัดโดย ทีมงาน นินจา รีเทิร์น โดย ชนินทร์ โปสาภิวัฒน์ และ สมชาย ชีวสุทธานนท์ มีนักดนตรีที่มีชื่อเสียงคนอื่น ๆ เช่น สุรสีห์ อิทธิกุล และ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ร่วมแสดง การตั้งเวทีเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม ถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ การซ้อมใหญ่เกิดขึ้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ก่อนการแสดงจริงเพียงหนึ่งวัน
การแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากโค้ก ประตูเปิดตั้งแต่เวลา 15.00 น. แต่แฟนเพลงแออัดตั้งแต่ก่อนเวลาประตูเปิด จนทำให้เกิดการจราจรติดขัดไปตั้งแต่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงเลยทีเดียว และเปิดประตูเปิด แฟนเพลงต่างพากันวิ่งไปจับจองที่นั่งเพื่อให้ได้ที่ใกล้เวทีมากที่สุด เมื่อสนามเต็มแล้ว แฟนเพลงบางกลุ่มได้ขึ้นไปนั่งบนอัฒจรรย์ที่อยู่ข้างขวาของเวที ซึ่งทางผู้จัดได้เอาป้ายโฆษณาโค้กขนาดใหญ่ขึ้นไปวางขึ้นเพื่อไม่ให้ใครขึ้นไป แต่กระนั้นก็ยังมีหลายคนฝ่าฝืนขึ้นไป ประมาณคนดูแล้วทั้งหมด 60,000 คน
เมื่อเวลาแสดงมาถึง เริ่มขึ้นด้วยเพลง มนต์เพลงคาราบาว แฟนเพลงที่อยู่หน้าเวทีได้ลุกขึ้นและเต้นด้วยความสนุกสนาน สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนเพลงที่อยู่ข้างหลังเนื่องจากมองไม่เห็น บางคนได้ขว้างปาด้วยขวดน้ำและก้อนอิฐ เมื่อเพลงแรกจบลง แอ๊ด คาราบาว นักร้องนำและหัวหน้าวงขอให้แฟนเพลงที่อยู่หน้าเวทีนั่งลงเพื่อให้คนข้างหลังได้เห็น และได้เตือนแฟนเพลงบางกลุ่มที่ขึ้นไปนั่งดูบนอัฒจรรย์ด้วยว่าให้ระวังอัฒจรรย์ถล่มเพราะไม่อาจรับน้ำหนักคนจำนวนมากได้ไหว
การแสดงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนพระอาทิตย์ตกดิน ช่อง 7ได้เริ่มการถ่ายทอดสด โดยขึ้นตัวหนังสือด้านล่างจอว่า " คาราบาว อินคอนเสิร์ท " แอ๊ด ได้เตือนแฟนเพลงเป็นระยะ ๆ ถึงเรื่องอัฒจรรย์และขอให้กลุ่มที่อยู่ด้านหน้าเวทีนั่งลง เพราะได้เกิดเหตุวิวาทกันอยู่เป็นพัก ๆ และกลุ่ม ๆ เนื่องจากไม่สามารถดูได้เต็มที่
ที่สุด หลังจากเพลง เดือนเพ็ญ ได้จบลง เหลือเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมง เพลงอีก 3 เพลง การแสดงก็จบลงตามคิว ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น เมื่ออัฒจรรย์ได้ถล่มลง มีหลายคนบาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย ทางทีมงานได้หยุดการแสดงทันที และหารือกัน ได้ข้อยุติว่า หยุดการแสดงแต่บัดนี้ ซึ่ง แอ๊ด ได้บอกแฟนเพลงด้วยน้ำตานองหน้า และขอให้แฟนเพลงทั้งหมดหันหลังเดินออกไปด้วยความสงบ และได้ร้องเพลง รอยไถแปร ซึ่งไม่มีอยู่ในคิวการแสดง ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งแฟนเพลงทั้งหมดได้ออกไป ซึ่งศิลปินคาราบาวทั้งหมดอยู่ในสภาพที่เสียใจ ผิดหวัง ที่ไม่อาจแสดงได้จบลงได้ด้วยดี และหลังการแสดง ต้องใช้กำลังของตำรวจและสารวัตรทหารคุ้มกันนักดนตรีทั้งหมดออกจากสนามด้วย และทางช่อง 7 ในฐานะที่เป็นสถานีที่ถ่ายทอดได้สัมภาษณ์สด แอ๊ด คาราบาว ถึงความรู้สึกแต่แอ๊ดพูดไม่ออกและได้ก้มหน้า
คอนเสิร์ตทำโดยคนไทย ครั้งนี้ นับเป็นปรากฎการณ์ครั้งสำคัญครั้งหนึ่งของวงการดนตรีไทย เป็นประวัติศาสตร์ที่ยังเล่าขานมาตราบจนปัจจุบันนี้ ด้วยมีหลายแง่มุมที่เกิดขึ้น ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2547 คาราบาว ก็ได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อวันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม ที่อิมแพ็ค อารีน่า ในเมืองทองธานี ในชื่อ " เมด อิน ไทยแลนด์ ภาค 2546 สังคายนา " เสมือนการแก้ตัวจากคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วย ซึ่งโปสเตอร์และบัตรคอนเสิร์ตก็เป็นรูปจากการแสดงคอนเสิร์ตทำโดยคนไทยด้วย และการแสดงก็จบลงได้ด้วยดี
คอนเสิร์ตทำโดยคนไทย คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของคาราบาว เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 ณ สนามเวลโลโดม ในสนามกีฬาหัวหมาก นับเป็นคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ของวงการดนตรีไทยครั้งหนึ่ง ด้วยเป็น การจัดแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินไทยครั้งแรกที่จัดในสนามกีฬา, เป็นคอนเสิร์ตของศิลปินไทยที่มีคนดูมากที่สุดครั้งหนึ่งตราบจนปัจจุบัน, เป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกของศิลปินไทยที่ใช้เทคโนโลยีเครื่องเสียงเทียบเท่าศิลปินต่างประเทศด้วยทีมงานที่เป็นคนไทยเองทั้งหมด, เป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกทั้งยังเป็นคอนเสิร์ตที่แสดงไม่จบอีกด้วย
ทำโดยคนไทย จัดโดย ทีมงาน นินจา รีเทิร์น โดย ชนินทร์ โปสาภิวัฒน์ และ สมชาย ชีวสุทธานนท์ มีนักดนตรีที่มีชื่อเสียงคนอื่น ๆ เช่น สุรสีห์ อิทธิกุล และ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ร่วมแสดง การตั้งเวทีเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม ถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ การซ้อมใหญ่เกิดขึ้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ก่อนการแสดงจริงเพียงหนึ่งวัน
การแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากโค้ก ประตูเปิดตั้งแต่เวลา 15.00 น. แต่แฟนเพลงแออัดตั้งแต่ก่อนเวลาประตูเปิด จนทำให้เกิดการจราจรติดขัดไปตั้งแต่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงเลยทีเดียว และเปิดประตูเปิด แฟนเพลงต่างพากันวิ่งไปจับจองที่นั่งเพื่อให้ได้ที่ใกล้เวทีมากที่สุด เมื่อสนามเต็มแล้ว แฟนเพลงบางกลุ่มได้ขึ้นไปนั่งบนอัฒจรรย์ที่อยู่ข้างขวาของเวที ซึ่งทางผู้จัดได้เอาป้ายโฆษณาโค้กขนาดใหญ่ขึ้นไปวางขึ้นเพื่อไม่ให้ใครขึ้นไป แต่กระนั้นก็ยังมีหลายคนฝ่าฝืนขึ้นไป ประมาณคนดูแล้วทั้งหมด 60,000 คน
เมื่อเวลาแสดงมาถึง เริ่มขึ้นด้วยเพลง มนต์เพลงคาราบาว แฟนเพลงที่อยู่หน้าเวทีได้ลุกขึ้นและเต้นด้วยความสนุกสนาน สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนเพลงที่อยู่ข้างหลังเนื่องจากมองไม่เห็น บางคนได้ขว้างปาด้วยขวดน้ำและก้อนอิฐ เมื่อเพลงแรกจบลง แอ๊ด คาราบาว นักร้องนำและหัวหน้าวงขอให้แฟนเพลงที่อยู่หน้าเวทีนั่งลงเพื่อให้คนข้างหลังได้เห็น และได้เตือนแฟนเพลงบางกลุ่มที่ขึ้นไปนั่งดูบนอัฒจรรย์ด้วยว่าให้ระวังอัฒจรรย์ถล่มเพราะไม่อาจรับน้ำหนักคนจำนวนมากได้ไหว
การแสดงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนพระอาทิตย์ตกดิน ช่อง 7ได้เริ่มการถ่ายทอดสด โดยขึ้นตัวหนังสือด้านล่างจอว่า " คาราบาว อินคอนเสิร์ท " แอ๊ด ได้เตือนแฟนเพลงเป็นระยะ ๆ ถึงเรื่องอัฒจรรย์และขอให้กลุ่มที่อยู่ด้านหน้าเวทีนั่งลง เพราะได้เกิดเหตุวิวาทกันอยู่เป็นพัก ๆ และกลุ่ม ๆ เนื่องจากไม่สามารถดูได้เต็มที่
ที่สุด หลังจากเพลง เดือนเพ็ญ ได้จบลง เหลือเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมง เพลงอีก 3 เพลง การแสดงก็จบลงตามคิว ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น เมื่ออัฒจรรย์ได้ถล่มลง มีหลายคนบาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย ทางทีมงานได้หยุดการแสดงทันที และหารือกัน ได้ข้อยุติว่า หยุดการแสดงแต่บัดนี้ ซึ่ง แอ๊ด ได้บอกแฟนเพลงด้วยน้ำตานองหน้า และขอให้แฟนเพลงทั้งหมดหันหลังเดินออกไปด้วยความสงบ และได้ร้องเพลง รอยไถแปร ซึ่งไม่มีอยู่ในคิวการแสดง ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งแฟนเพลงทั้งหมดได้ออกไป ซึ่งศิลปินคาราบาวทั้งหมดอยู่ในสภาพที่เสียใจ ผิดหวัง ที่ไม่อาจแสดงได้จบลงได้ด้วยดี และหลังการแสดง ต้องใช้กำลังของตำรวจและสารวัตรทหารคุ้มกันนักดนตรีทั้งหมดออกจากสนามด้วย และทางช่อง 7 ในฐานะที่เป็นสถานีที่ถ่ายทอดได้สัมภาษณ์สด แอ๊ด คาราบาว ถึงความรู้สึกแต่แอ๊ดพูดไม่ออกและได้ก้มหน้า
คอนเสิร์ตทำโดยคนไทย ครั้งนี้ นับเป็นปรากฎการณ์ครั้งสำคัญครั้งหนึ่งของวงการดนตรีไทย เป็นประวัติศาสตร์ที่ยังเล่าขานมาตราบจนปัจจุบันนี้ ด้วยมีหลายแง่มุมที่เกิดขึ้น ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2547 คาราบาว ก็ได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อวันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม ที่อิมแพ็ค อารีน่า ในเมืองทองธานี ในชื่อ " เมด อิน ไทยแลนด์ ภาค 2546 สังคายนา " เสมือนการแก้ตัวจากคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วย ซึ่งโปสเตอร์และบัตรคอนเสิร์ตก็เป็นรูปจากการแสดงคอนเสิร์ตทำโดยคนไทยด้วย และการแสดงก็จบลงได้ด้วยดี