หน้า 1 จากทั้งหมด 1

คิดอย่างไรกับข่าวต่างชาติพูดถึงวีฃัดพระบาทน้ำผุในแง่ลบ

โพสต์เมื่อ: พุธ เม.ย. 23, 2008 20:28
โดย nung77
'หลวงพ่ออลงกต'เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุโต้บทความโจมตี ชี้สื่อต่างชาติมองอย่างอคติ เงินบริจาคเข้าวัด มีชี้แจงทุกเดือนในวารสาร แจงหน้าที่ดูแลผู้ป่วย-เด็กกำพร้า เป็นของมูลนิธิธรรมรักษ์ ส่วนกรณีสร้างศูนย์กีฬา-ทางสลักขึ้นวัด เป็นศรัทธาจากองค์กร-ผู้ศรัทธา ยันยาต้านไวรัสเอสด์ให้ผู้ป่วย รัฐยื่นมือรับผิดชอบอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวมติชน ออนไลน์ รายงานกรณี 'มติชนออนไลน์'

ตีพิมพ์บทความตีแผ่วัดพระบาทน้ำพุเกี่ยวกับการใช้ผู้ป่วยโรคเอดส์ดึงเงินบริจาคเข้าวัดอย่างน่าสงสัย ซึ่งเขียนโดยนายแอนดรูว์ มาร์เชลล์ ผู้สื่อข่าวของ Timeonline จากนิตยสาร Sunday Time เมื่อวันที่ 21 เมษายนนั้น

พระอุดมประชาทรหรือหลวงพ่ออลงกต แห่งพระบาทน้ำพุ ให้สัมภาษณ์พิเศษ 'มติชนออนไลน์' ว่า ก่อนหน้านี้ ได้ทราบเรื่องบทความดังกล่าวมาแล้ว และต้องการชี้แจงในประเด็นดังกล่าวให้ชัดแจ้ง โดยต้องการจะสื่อต่อสาธารณชนว่า เรื่องนี้เป็นการรายงานที่อคติ ใช้เวลาเพียงสั้นๆในการตัดสินชี้นำผู้อื่น และทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น ซึ่งส่วนตัวแล้วเคยสนทนากับผู้สื่อข่าวรายนี้มาบ้าง และเข้าใจว่า เมื่อบทความทำนองนี้ออกมา ก็ย่อมจะสร้างความอื้อฉาวโด่งดังให้เกิดขึ้นแก่วัดพระบาทน้ำพุ แต่ก็ถือว่า เรื่องเหล่านี้เป็นบทเรียนที่จะต้องจดจำ โดยเฉพาะกรณีคนต่างชาติ ที่พยายามจะยัดเยียดมุมมองของเขาให้แก่ชาวโลก แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมและวิถีปฎิบัติของคนไทยอย่างเรา ๆ

'ถ้าหลวงพ่อถามว่า พวกเราเห็นหลวงพ่อมากี่ปี กับนักข่าวคนนี้ ที่เข้ามาเดินดู นู้นนี่แล้วไปตั้งคำถามเขียนนู้นเขียนนี่ สรุปตั้งประเด็น พวกเรารู้จักหลวงพ่อมากกว่านักข่าว มองแบบยุติธรรม' หลวงพ่ออลงกตกล่าว

หลวงพ่ออลงกตกล่าวว่า สิ่งที่รายงานดังกล่าวเขียนมา มีข้อเท็จจริงอยู่ แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อสังสัยเช่นกัน เนื่องจากนักข่าวผู้นี้มองกันคนละประเด็น เพราะไม่เข้าใจประเพณีวัฒนธรรมการเป็นชาวพุทธ ไม่เข้าใจถึงรูปแบบการบริหารจัดการทางศาสนาหรือแบบของวัด ซึ่งเป็นลักษณะองค์กรพิเศษ รวมถึงต้องเข้าใจสภาพของคนฝรั่งที่เวลาทำอะไรจะต้องมีการแจกแจงรายละเอียดชัดเจน สามารถที่จะตรวจสอบได้

หลวงพ่ออลงกต ยังระบุว่า เรื่องนี้จริงๆ แล้วเป็นความผิดพลาดโดยตรงของผู้เขียนบทความที่ไม่ได้ขอเอกสารจากทางวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีรายงานการรับบริจารสรุปรายเดือน พิมพ์ครั้งละ 2 หมื่นฉบับ เผยแพร่ทั่วประเทศ และตัวเลขดังกล่าาวนี้ สามารถขอได้ทันทีโดยทุกเดือนจะมีการแจ้งตัวเลขการบริจาคทุกอย่างไว้เสร็จสรรพ เรียกว่า วัดไม่จำเป็นต้องมานั่งชี้แจงต่อสาธารณชนแต่ประการใด
หลวงพ่ออลงกตกล่าวว่า ขณะที่ประเด็นโจมตีตนในหลายแง่มุม

ถือว่าเป็นเรื่องที่รู้ไม่จริง ไม่สนใจจะขอข้อมูล เพราะประเด็นเรื่องการบริหารดูแลจัดการ หรือระบบภายในวัดพระบาทน้ำพุ เกี่ยวกับโครงการผู้ป่วยเอดส์ หรือโครงการเด็กกำพร้านั้น อยู่ภายใต้การดูแลของมูลนิธิธรรมรักษ์ ไม่เกี่ยวกับตน ตนมีหน้าที่เพียงจัดหางบประมาณของมูลนิธิว่า แต่ละเดือน จะต้องใช้จ่ายอย่างไรหรือเท่าไหร่ โดยมีหน้าที่เป็นเพียงที่ปรึกษาของทางวัด ทำหน้าที่เป็นผู้อุปถัมภ์ทั้งหมด โดยการเรี่ยไรก็มาจากลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธา


หลวงพ่ออลงกต ชี้แจงว่า ในส่วนของเงินบริจาคนั้น เป็นเรื่องศรัทธาของประชาชนทั่วไปที่มีต่อวัดพระบาทน้ำพุ

ที่ต่างบริจาคให้แก่วัดในค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ไม่ใช่แต่เฉพาะเรื่องผู้ป่วยเอดส์ หรือเด็กกำพร้า แต่รวมทั้งค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโลงศพ และสิ่งจิปาถะอื่น ๆ โดยศรัทธาเหล่านี้มาจากการที่ตนได้เคยประโคมข่าวว่า ทางวัดอาจต้องปิดตัวลง เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายเพียงพอที่จะจัดการกับภาระใช้จ่ายเกี่ยวกับการดูแลทั้งหมด

'ต้องรู้ว่าเงินที่เข้าวัดไม่ใช่เงินที่ได้มาจากเจตนาที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ทั้งหมด แต่ต้องมีรายจ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะค่าน้ำ ค่าโลงศพ แต่ในหมวดการดู แลผู้ป่วย วัดไม่ได้เป็นผู้ดูแลบริหารจัดการ อยากให้เข้าใจแตค่นี้เรื่องก็จบ' หลวงพ่ออลงกตเผย

เมื่อถามว่า ประเด็นเรื่องการสร้างศูนย์กีฬามูลค่า 16 ล้านบาท และการสลักทางปฎิบัติขึ้นเป็นจำนวน 8 ล้านบาท

ที่ผู้เขียนชี้ว่า เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวัดหรือไม่นั้น หลวงพ่ออลงกตชี้แจงว่า เรื่องนี้เป็นการบริจาคโดยตรงจากผู้มีจิตศรัทธา โดยศูนย์กีฬาดังกล่าวจริงๆ มีมูลค่า 16 ล้านบาท สร้างโดยมูลนิธิฮอนด้า แห่งประเทศไทย ที่แจ้งความประสงค์มาโดยตรง

'หลวงพ่อไม่ได้ไปสร้างเองเมื่อไหร่ แต่เค้าคิดว่า เงินนี้ จะเป็นเงินเอาไปช่วยผู้ป่วยเหรอ ถ้าเป็นเงินเอาไปช่วยผู้ป่วย หลวงพ่อผิด และต้องโดนทำโทษ เพราะอะไร ไปใช้เงินเค้าผิด เค้ามีเจตนาโดยตรงที่จะให้สร้างตรงนี้' หลวงพ่ออลงกตกล่าวและยืนยันว่า ส่วนทางสลักทางขึ้นวัดก็ถูกสร้างโดยผู้มีจิตศรัทธาภายนอกเช่นกัน ตรงนี้มีเจ้าภาพสร้างหมด เป็นการเอาเงินบริจาคมาสร้าง แต่ละขั้นๆ มีเจ้าภาพรับผิด ชอบ และตนเป็นผู้ดู แลเรื่องนี้ แต่ไม่เคยใช้เงินวัด เป็นการสร้างซึ่งเกิดมาจากความศรัทธา


ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่ระบุว่ามีรายได้เฉลี่ย 4-5 ล้านบาท นั้น หลวงพ่ออลงกตยืนยันว่า

เป็นความจริง แต่ก็ถือว่า พอ ๆ กับค่าใช้จ่าย และทางการวัดไม่ได้มีเงินเหลือเก็บมากมาย ขณะที่เรื่องยาที่บทความบอกว่า ทางวัดไม่เคยจัดหาให้แก่ผู้ป่วยเอดส์ ทั้งที่มีรายได้เป็นจำนวนมากนั้น ถือเป็นการเข้าใจอย่างคลาดเคลื่อนอย่างมาก เพราะเรื่องยารัฐบาลเป็นฝ่ายดูแลอยู่แล้ว รวมทั้งยังมีเจ้าหน้าที่คอยเช็คตรวจสอบเป็นประจำว่า จะต้องจัดหายาให้แก่ผู้ป่วยเท่าไหร่ เรื่องนี้วัดไม่เคยต้องไปจัดการ เพราะรัฐบาลทำให้อยู่แล้ว

ขณะที่เรื่องค่าจ้างบุคลากรภายในวัดพระบาทน้ำพุนั้น ยืนยันว่า ทางการจ่ายเป็นเงินเดือนคนละไม่ต่ำกว่า 7,500 บาท โดยยอมรับว่า ทางวัดมีบุคลากรไม่เพียงพอ แต่สาเหตุเพราะไม่มีใครอยากมาสมัครมาเอง โดยวัดก็พอมีทุนที่จะเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้ แต่ไม่มีคนมาสมัคร ก็เท่านั้นเอง



ส่วนตัวผมนะผมอยากจะตระโกนใส่หูไอ้ฝรั่งคนนั้นว่า มึงมาสำผัสให้ดีๆๆก่อนจะทำอะไรประเทศชาตกูเสียหายหมด *โทษทีที่หยาบไปหน่อยอารมณ์ค้างครับ

โพสต์เมื่อ: พุธ เม.ย. 23, 2008 20:41
โดย เบคแก้ว
ไม่มีความเห็นอ่ะ เหอๆ แต่ จขกท. อยากให้มาตอบ
อิอิ

โพสต์เมื่อ: พุธ เม.ย. 23, 2008 21:29
โดย Red DevilGod
ผมว่า ฝรั่ง เขามองเท่าที่เขาเห็นภายนอกน่ะครับ

ผู้ป่วยเอดส์ทั้งวัดมีอยู่กี่คน ค่าอยู่ ค่ากิน ค่าดูแลรักษาจิปาถะ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเจ้าหน้าที่ รวมแล้ว เดือนละเท่าไหร่............

ยังไม่คิดค่า ยารักษาโรคเอดส์ ที่ให้ต่อคนต่อวันเท่าไหร่ คูณจำนวนคนไข้ ถ้าเป็นเดือนจะเป็นเท่าไหร่ ถ้าเป็นปี จะเป็นเท่าไหร่...............

แค่ยา AZT ซึ่งปัจจุบันราคาถูกแล้ว ก็เม็ดละหลายบาท กินวันนึงก็หลายเม็ดต่อวัน คิดต่อเดือนก็ประมาณ 1200+ บาทต่อคน บางคนอาจต้องกินยามากกว่าหนึ่งตัว ราคาตั้งเท่าไหร่แล้ว ตรงนี้ฝรั่งมันไม่คิด

ถ้าหน่วยงานรัฐบาล ให้เงินมาช่วยตรงนี้ได้ แน่นอนว่า ผู้ป่วยย่อมต้องได้ยามากินแน่นอนครับ


ส่วนเรื่องอาสาสมัคร แพทย์ พยาบาล อันนี้เป็นคอมมอนเซนส์ครับ ถ้าเขาเลือกได้ ย่อมไม่อยากจะมาทำงานแบบนี้ เพราะเงินน้อย ต้องมาเจอสภาพไม่เจริญหูเจริญตา ทุกวัน ขอย้ำว่าทุกวัน คนไข้บางคนก็อดทนดี บางคนร้องครวญคราง นรกชัดๆ เป็นใครก็คงทนได้ไม่นาน คนที่จะอยู่ได้นาน คือ ต้องมีใจรักจริงๆ และ ไม่มีภาระผูกพันแล้ว ผมให้ข้อคิดง่ายๆว่า หากให้แม่ชีเทเรซ่า มานั่งเช็ดขี้ เช็ดเยี่ยว เช็ดหนอง คอยฟังเสียงโอดครวญ ทุกวัน วันละหลายๆชั่วโมง เอาแค่เดือนเดียวก็แย่แล้วครับ ทำไม่ไหวหรอกครับ

การได้ไปตรวจที่ รพ. เดือนละครั้ง ต้องดูด้วยครับว่า คนไข้เอดส์ มีที่นั่งได้เดินได้ดีเนี่ยกี่คน ส่วนที่นอนพังพาบ อีกเท่าไหร่ การจะเคลื่อนย้ายไป ร.พ. ต้องใช้รถกี่คัน กี่เที่ยว วัดจะรับภาระได้แค่ไหน ร.พ. จะรับภาระได้แค่ไหน ได้ตรวจเดือนละครั้งก็บุญถมแล้ว ก็เหมือนการออกหน่วย พอ.สว.น่ะครับ ออกได้บ่อยซะที่ไหน เดือนละครั้ง ก็ยากแล้วครับ

ส่วนเรื่องการก่อสร้างอะไรอื่นเนี่ย ต้องมองดูด้วยครับว่า วัตถุประสงค์เพื่ออะไร หลายครั้งที่สิ่งปลูกสร้างเหล่านี้จะช่วยดึงคนมากราบไหว้ ทำบุญ เงินที่ได้ก็สามารถนำมาช่วยเหลือวัด และผู้ป่วยได้ การเอาเงินส่วนนี้มาโปะกับคนไข้ก็อาจจะช่วยแค่ชั่วคราว หมดเงินก็จบกัน ต้องมองกันยาวๆ ที่นี่เป็นวัด ไม่ใช่โรงพยาบาล การดูแล มันก็ไม่มีทางดีเหมือนโรงพยาบาลได้หรอกครับ

สิ่งแกะสลัก จากกระดูก อัฐิของผู้ป่วยเอดส์ ก็ดีแล้วครับ เอามาให้คนเห็นว่า คนไข้เอดส์ มันเยอะแค่ไหน ขนาดเตา 8 เตา ยังเผากันไม่หยุดหย่อน ช่วยในการปลงสังเวชได้ดีครับ

คนที่เป็นเอดส์ ส่วนหนึ่งเป็นจากกรรมปัจจุบัน แต่ส่วนหนึ่งเป็นจากกรรมในอดีตชาติ การที่พระท่านสอนแบบนี้ ก็โอเคแล้วนี่ครับ อย่างว่าแหละนะครับ พวกบาทหลวงก็ไม่ได้รู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ไม่แปลก


โดยสรุป ถ้าจะไม่ให้มีคนหูเบา มาเข้าใจผิด ก็คงต้องให้ทางวัดออกมาชี้แจง ผมว่าก็จะดีนะครับ ถ้าจะเงียบ ก็คงไม่มีปัญหา เพราะก็ยังมีคนไปทำบุญที่วัดนั้นอยู่แล้วครับ คนที่จะมาอ่านเรื่องนี้คงน้อย ไม่น่ามีผลอะไรกับวัด

โพสต์เมื่อ: พุธ เม.ย. 23, 2008 21:30
โดย Proof
"ฟัง​ไม่​ได้​ศัพย์​ ​จับมากระ​เดียด" ... จบ
__________

>>Light Up Darkness<<
__________

รูปภาพรูปภาพ

โพสต์เมื่อ: พุธ เม.ย. 23, 2008 22:11
โดย Echizen_Ryoma
ฝรั่งเค้าเห็นคนในทวีปเอเชีย เปรียบเสมือนกับ ลิงเหลือง ชอบเลียขาพวกผิวขาว

โพสต์เมื่อ: พุธ เม.ย. 23, 2008 23:15
โดย takezo
แค่นี้ยังจะข้องใจอีกเหรอรับเลี้ยงดูผู้ป่วยเอดส์ฝรั่งหน้าไหนกล้าทำตามรึเปล่าก็ไม่มีไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเองเลยอยู่เฉยๆไปเหอะไอฝรั่งขี้เหม็น

โพสต์เมื่อ: พุธ เม.ย. 23, 2008 23:26
โดย jankiechan
ฝรั่งมันก็งี้แหละ

โพสต์เมื่อ: พฤหัสฯ. เม.ย. 24, 2008 01:15
โดย huliocruz
เค้าอาจไม่รู้จริงๆ นี่หละคือตะวันตก

โพสต์เมื่อ: พฤหัสฯ. เม.ย. 24, 2008 01:39
โดย ~oOMexiCanOo~
เตรียมเจาะกะบาลพวกที่รุกราน ไม่เป็นจริงยังเสือกกล้ามาวิจารณ์ เดียวโดนกรูเป่า เป่าฮู เป่าปัดรังควาน
สวดส่งวิญญาณลงนรกไปอยู่กับยมบาล โรงพยาบาลก็คงจะมีไม่พอ หาโลงมานอนก่อน แล้วไอ้หรั่งไปนอนรอ
ยังไม่พอ 44 45 หรือว่า มม. Flipo เป่าหัว ดับสนิทไม่ต้องคิดรอ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 25, 2008 05:42
โดย ronalboyz
รู้ไม่จริงนะซิ