หน้า 1 จากทั้งหมด 2

มาดูความจริง(หรือไม่) กับพญานาค

โพสต์เมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 09, 2008 13:21
โดย **หมายเหตุ
นี่เป็นภาพที่มีผู้คนต่างมุมของโลกที่จับปลาออร์ที่มีลักษณะยาวที่หัวแปลกตาคล้ายๆๆหัวสุนัข มีหงอนเป็นขนยาว ตากลมโต ดุโดยรวมแล้วคล้ายๆๆกับพญานาคที่ชาวไทยพุทธมีความเชื่อถือและเคารพกัน
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ
นี่เป็นภาพทหารที่สามารถจับปลาออร์ได้ ภาพนี้เรื่องมันยาวมาก(ถ้าผมจำภาพไม่ผิด ภาพนี้จะมีติดตามหน้ารถประจำทางของ จังหวัดหนองคายหลายสายมาก) เมื่อสมัยผมยังเด็กๆ ผมเคยไปนั่งฟังผู้ใหญ่คุยกันเรื่องภาพนี้กัน เรื่องราวมันมีอยู่ว่า ทหารกลุ่มนี้ได้จับปลาออร์ได้ที่ลำน้ำโขงและคิดว่าเป็นพยานาคที่คนลาวได้เข้าใจกันและได้ถ่ายภาพเก็บไว้และตีพิมพ์ผ่านหนังสือพิมพ์ที่อเมกา พอดีมีคนลาวคนนึงที่ไปทำงานที่อเมเกาไปเจอภาพนี้ในหนังสือพิมพ์เข้า แกถึงกับตกใจมากประมาณว่าชวยหละงานเข้าอะนะ อารายประมาณนี้แหละครับ แกเลยรีบกลับมาลาวโดยด่วนเพื่อแจ้งให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในลาวทราบเพื่อให้ไปร้องขอทหารอเมกานำปลาไปปล่อยคืน ซึ่งในตอนนั้นเหตุเพศภัยถาโถมเข้าลาวเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้คนในลาวได้เชื่อว่าเป็นสาเหตุที่พยานาคตัวนั้นถูกจับไปจึงเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีต่อประเทศลาว เหตุการที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพราะ พญานาคอีกตัวที่อยู่ลำน้ำโขง ก่อเหตุขึ้นเพื่อต้องการให้พญานาคอีกตัวกลับมา อารายประมาณนี้แหละผมก็จำไม่ได้แน่ชัดนัก เพราะตอนนั้นยังเด็กมาก
รูปภาพ
ที่จีนก็เจอ อย่าลืมนะ แม่น้ำโขงมีต้นกำเหนิดมาจากแม่น้ำที่จีน

และนี่เป็นภาพจากความเชื่อของชาวไทยพุทธ อะครับ

รูปภาพ
นี่เป็นภาพจากจินตนาการ (หรือไม่) ที่เราทราบๆๆกันว่ารูปลักษณ์ของพญานาคราชเป็นยังไง
รูปภาพรูปภาพ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางพายุแรงจัด ก่อนเวลาบ่ายโมงวันอังคาร (29 ส.ค.) ที่ผ่านมา
ที่บริเวณแม่น้ำทะเลป่าสัก (Tonle Bassac) ไหลไปบรรจบกับแม่น้ำโขงในเขตชานเมืองหลวง
ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์
"เกาะสันเตเพี๊ยบ" (Koh Santepeap) หรือ "เกาะสันติภาพ" ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันภาษาเขมร


รูปภาพ
คล้ายพญานาค
ยอดต้นมะพร้าวมีรูปร่างคล้ายพญานาค โผล่ในสวนหมู่ 4 ต.มหาสอน อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี
เจ้าของเชื่อเป็นสิ่งนำโชค เพราะทำให้ถูกหวยกระเป๋าตุง
ชาวบ้านทราบข่าวเลยแห่กันมากราบไหว้ไม่ขาดสาย.
รูปภาพ
ภาพนี้ เชื่อว่าเป็นรูพญานาค ที่พระภิกษุพึ่งค้นพบ และมีคนนุ่งขาว มาเข้าฝัน
บอกให้ก่อสร้างรูปปั้นพญานาค สูง3.60 เมตร ครอบไว้
ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ยังไม่เสร็จครับ อยู่ที่ วัดถ้ำพระวนาราม บ้านต้าย อ.ปากคาด จ.หนองคายครับ
รูปภาพ
รอยปรากฏบนพื้น ศาลาการเปรียญ
เชื่อว่าเป็น รอยพญานาค ปรากฏเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2548 ที่เมืองคำชะโนด จ.อุดรธานี
ที่เคยมีประวัติ ว่า ผีมาจ้างหนังไปฉาย และเป็นข่าวหน้า หนึ่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เมื่อ10กว่าปีที่ผ่านมา
รูปภาพพญานาคยังมีหลักฐาน ร่องรอยและเรื่องเล่าต่างๆ อย่างเช่น บุญจันทร์ คำมุงคุณ ผู้ใหญ่บ้านและ
ประธานโฮมสเตย์บ้านน้ำเป กิ่งอำเภอรัตนภูมิ จังหวัดหนองคาย เล่าให้ฟังว่า
ขณะที่กำลังลงเรือหาปลาอยู่ในบริเวณปากห้วยน้ำเปตอนประมาณสองทุ่ม ก็เห็นสัตว์ชนิดหนึ่ง
มีลักษณะคล้ายงูอยู่ในน้ำ คือตรงส่วนหัวนั้นไม่เหมือนงูทั่วๆไป คือมีลักษณะคล้ายหงอน
และดวงตามีขนาดเท่าไข่ไก่เห็นเป็นสีแดง งูนั้นมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 เซนติเมตร จุมพล สายแวว นายช่างไฟฟ้าสื่อสาร 5 ได้ไปทำข่าวมา ก็ได้เห็นเป็นรอยเหมือนสัตว์เลื้อยคลาน
เป็นรอยขนาดใหญ่ขึ้นทั่วหลังคารถเลย หรือบางรอยก็เห็นขึ้นริมโขง และได้เกิดเหตุการณ์ที่เขาได้เห็นกับตาและ
ได้ถ่ายภาพวีดีโอไว้ เขาได้เห็นภาพของสิ่งมีชีวิตลักษณะลำตัวยาวๆ ที่คาดว่ามีหลายตัว เล่นน้ำอยู่กลางลำน้ำโขง
ใกล้ๆ กับพระธาตุกลางน้ำ ซึ่งเหตุการณ์เป็นข่าวครึกโครม
มีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และเชื่อกันว่า เป็นเหตุการณ์ที่พญานาคขึ้นมานมัสการพระธาตุ

ปล.ในถานะที่ผมเป็นชาวหนองคายนับถือศาสนาพุทธ ก็ได้มีความคิดทั้งในแง่ของเหตุและผล โลกของจิตและวินญานนั้นจะมีจริงหรือไม่ นั้นแล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน บางครั้งวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถอธิบายปรากาฎการณ์บางอย่างของศัยศาสตร์ได้ แต่ในขณะเดียวกันสัยศาสตร์ก็สามารถทำอะไรที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถทำได้

การที่มีความเชื่อเป็นสิ่งที่ไม่ผิด แต่การที่เราจะสามารถดำรงชีวิตเพื่อให้มีความสุขและร่มเย็นได้เราจำเป็นต้องมีความเชื่อและศัรทธา เป็นตัวข่มจิตใจด้านลบหรือด้วนชั่วในการปฎิบัติงานและใช้ชีวิตในสังคม เช่นเดียวกันการทำงานในเมืองไทยไม่ว่าจะมีหน้าที่การงานในด้านใดก็ตามคนไทยเราต้องมีศรัทธาและความเชื่อหรือรวมๆๆ คือการเป็นคนมีความสุจริต รักพี่น้องคนไทยด้วย ไม่เอาเปรียบเพื่อนฝูง ดังนั้นคนที่ไม่มีศาสนา หรือมีแต่ในทะเบียนเท่านั้นแต่จิตใจเลวเยี่ยง หม... ถ้าบุคคลประเภทนี้เข้าไปทำงานด้านการปกครองประเทศ ประเทศมีแต่ถดถอยๆๆๆๆต่ๆๆลงๆๆๆๆๆๆๆ......

เหอะๆๆๆโอทษทีนะครับที่เผลอเอาการเมืองเข้ามาร่วมด้วย แต่ผมอยากให้เยาวชนทุกๆๆคนที่กำลังเติบโตเป็นอนาคตของชาติมีความเป็นพุทธศาสนา อย่างที่เรามีชื่อว่าเรานับถือพุทธทำงานแบบชาวพุทธนำบทคำสอนนำมาใช้กันและไทยเราจะมีแต่สุขและร่มเย็น

เราอย่าคิดว่าเราไม่เป็นนักการเมืองหรอกผม/หนู จะเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว จะเฝ้าบ้าน เป็นรปภ. เจ้าของสวน แอร์ฮอทเตรด อารายประมาณนี้ -*- ไม่ว่าอาชีพไรก็ตามเราคือส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศไทยเรานะครับ.....

โพสต์เมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 09, 2008 14:37
โดย audy
ความเชื่อเป็นสิทธิส่วนบุคคล

โพสต์เมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 09, 2008 15:17
โดย Zenith
audy เขียน:ความเชื่อเป็นสิทธิส่วนบุคคล


ผมเชื่อว่ามีจริงนะ

แล้วก็ตัว sphinx ผมก็คิดว่ามีจริง

โพสต์เมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 09, 2008 15:27
โดย nu0541
ไม่เชื่ออย่าลบลู่

โพสต์เมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 09, 2008 16:38
โดย HotGift
ดีจัง
ได้สาระดี
เอาแบบนี้มาให้อ่านอีกนะ ชอบๆ

โพสต์เมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 09, 2008 17:23
โดย cumulus
ชอบอ่านเรื่องแบบนี้ :oops:

โพสต์เมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 09, 2008 17:34
โดย huliocruz
มีจริงวะ

โพสต์เมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 09, 2008 18:09
โดย Bright33455
เรื่องแบบนี้น่าติดตามและพิสูจน์ครับ

อยากรู้เหมือนกัน

โพสต์เมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 09, 2008 18:13
โดย guitar_left
ดูกันไปครับ....

โพสต์เมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 09, 2008 18:27
โดย Echizen_Ryoma
นิสัยคนไทย พอเห็นของอะไรแปลก ก็มักจะไปกราบไว้บูชา ขอเลข ขอหวยกันถ้วนหน้า

แต่ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล

ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่

โพสต์เมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 09, 2008 18:48
โดย saemakute
ดีคับ ได้ความรุ้ดีอ่ะ

โพสต์เมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 09, 2008 19:04
โดย SAVADA_KUNG
Zenith เขียน:
audy เขียน:ความเชื่อเป็นสิทธิส่วนบุคคล


ผมเชื่อว่ามีจริงนะ

แล้วก็ตัว sphinx ผมก็คิดว่ามีจริง


sphinx มีจิงๆหรอคับ ช่วยเล่าหน่อยดิ อยากรู้ๆ

โพสต์เมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 09, 2008 19:17
โดย C . R O N A L D O
ผมเชื่อ แต่ ไม่ลบหลู่ เอ๊ะยังงัย -*-

อยากรู้เรื่อง sphinx ด้วย :wink:

โพสต์เมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 09, 2008 19:24
โดย C . R O N A L D O
เรื่องของ สฟิง รู้แค่นี้ แต่ไม่มีภาพ(ตัวเป๊น ๆ ) :wink:


รูปภาพ

สฟิงซ์กรีก

สฟิงซ์ของกรีกเป็นหนึ่งในลูกๆของอีคิดนาและไทฟอน สฟิงซ์มีใบหน้าและทรวงอกของหญิงสาว ท่อนล่างเป็นสิงโตและมีปีกแบบนกอินทรี มีลักษณะนิสัยชอบทรยศหักหลัง ก้าวร้าวรุนแรง และกระหายเลือด และพวกนี้ยังชอบกินคนเป็นอาหารด้วย

ลักษณะที่เด่นชัดของสฟิงซ์ กรีกอีกอย่างหนึ่งก็คือ ความคล้ายแมว หรือจะว่าอีกทีก็คล้ายผู้หญิงด้วย นั่นคือ มันจะพูด คุยหยอกเหยื่อของมันก่อนที่จะกินเข้าไป แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเกิดเหยื่อหนีรอดไปได้ สฟิงซ์จะบินดิ่งทิ้งตัวกระแทกพื้นหรืออะไรสักอย่าง ด้วยความโกรธเกรี้ยวจนตายไปเอง

เรื่องราวเกี่ยวกับสฟิงซ์ของกรีก ที่โด่งดังเรื่องหนึ่งคือ เรื่องของ เจ้าแม่เฮรา (Hera) ซึ่งมอบหมายหน้าที่ลงโทษชาวเมืองธีบีส (Thebes) เพราะความเมามายไร้สติของพวกเขา หลังจากที่ ไดโอนิซุส เทพแห่งเมรัยได้มาสอนการทำไวน์ ให้แก่ชาวเมืองนี้ ตามปกติสฟิงซ์จะไม่เข้าขย้ำเหยื่อ ที่ผ่านมาในทันทีทันใด แต่จะให้โอกาสเหยื่อด้วยการถามปัญหา ที่เรียกกันว่าปัญหาของตัวสฟิงซ์ (The Riddle of the Sphinx) ซึ่งสัญญาจะปล่อยเหยื่อเป็นอิสระ หากตอบปัญหาของนางได้ ตามท้องเรื่องที่จะกล่าวถึง เอดิปุส (Oedipus) แห่งโครินท์ผ่านมาในเมืองธีบีสพอดิบพอดี สฟิงซ์กระโดดออกมา จากหลังพุ่มไม้ แลบลิ้นเลียปากด้วยความอยากกินเนื้อ ก่อนจะส่งเสียงคำรามให้ขวัญหาย เข้าใส่เอดิปุสและถามปัญหา "อะไรเอ่ยเดินสี่ตีนในยามเช้า เดินสอง ตีน ในยามสาย และเดินสามตีนในยามเย็น….? "อ๋อ มันก็คือมนุษย์นั่นแล ย่อมเดินด้วยการคลานทั้งมือและเข่า เมื่อยังเป็นเด็ก ยืนด้วยขาสอง ข้าง เมื่อโตเต็มที่ และต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัวเอง เป็นขาที่สามในยามสายัณห์ของชีวิต" เอดิปุสตอบอย่างไม่ลังเล สฟิงซ์เมื่อได้ฟังคำตอบ ที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากมนุษย์หน้าไหนเลย ถึงกับกรีดร้องด้วยความเจ็บใจ นางโผบินขึ้น บนฟ้า แล้วทิ้งตัวดิ่งลงฆ่าตัวตายในทะเล


รูปภาพ


สฟิงซ์ของอียิปต์

มหาสฟิงซ์ และ พีระมิดคาเฟร ในหมู่พีระมิดแห่งกิซ่าเป็นพันธุ์ที่เราเรียกว่า แอนโดรสฟิงซ์ (Andro-Sphinx) เป็นการผสมกันระหว่างมนุษย์กับสิงโต ส่วนหัวที่เหมือนมนุษย์นั้น มีสัญลักษณ์ ของฟาโรห์อียิปต์แสดงไว้ชัดเจน คือมีเคราที่คาง ตรงหน้าผากมีงูจงอางแผ่แม่เบี้ย และมีเครื่องประดับ รัดเกล้าแบบกษัตริย์โดยรอบ ว่ากันว่า สฟิงซ์ คือ รูปเหมือนขนาดใหญ่กว่าร่างจริงสองเท่าของฮาร์มาชิส เทพแห่งรุ่งอรุณ เมื่อตอนที่แปลงร่าง เป็นสิงโต มีเศียร เป็นฟาโรห์อียิปต์หรือ "sphingein" แปลว่า "การบีบรัด"

รูปสลักสฟิงซ์ของอียิปต์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ มหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza) บริเวณใกล้กับพีระมิดคาเฟร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ หมู่พีระมิดแห่งกิซ่า (Giza Pyramid Complex)


สฟิงซ์ของตะวันออกกลาง
เป็นสัตว์ที่ได้ชื่อว่าฉลาด ซึ่งนั่นอาจเป็นเพราะมันจะเปิดเผยสิ่งที่มันรู้ยากมาก มันพอใจที่จะนอนผึ่งแดด อย่างเป็นสุข ท่ามกลางการเคารพบูชาของผู้ที่เทิดทูนมัน

นอกจากนี้ยังมีสฟิงซ์แบบอื่นๆซึ่งแตกมาจากพวกอียิปต์อีกเช่นกัน เช่น ครีโอสฟิงซ์ (Crio-Spninx) ที่มีหัวเป็นแกะบ้าง หรือเป็นนกเหยี่ยว บ้าง ในเปอร์เซีย (Persia) , แอสซีเรีย (Assyria) , และฟีเนียเซีย (Phoenicia) มีสฟิงซ์ทั้งสองเพศ ตัวผู้จะมีหนวด และผมหยักศก ส่วนของโรมโบราณเป็นผู้หญิง และอาจจะเป็นแบบ ที่ส่งผ่านมาให้ กับอียิปต์ก็ได้ เพราะว่าตัวนี้สวมงูแอสพ์ (Asp) คาดอยู่ที่หน้าผากด้วย


ภาพสมมติ

รูปภาพ
รูปภาพ

โพสต์เมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 09, 2008 19:32
โดย kattak
แปลกดีไม่เคยเห็นภาพปลาออร์มากขนาดนี้