หน้า 1 จากทั้งหมด 2

10 อันดับ ราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลก

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 08, 2009 12:39
โดย ecology
ไปอ่านเจอมาครับ จัดอันดับโดยนิตรสาร Forbes (ฟอร์บส์) ของอเมริกา เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2551

The World's Richest Royals


อันดับ 10 - Sultan Qaboos bin said of Oman (โอมาน)

รูปภาพ

มีพระราชทรัพย์สุทธิ 1พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สุลต่านกาบุส ทรงขึ้นครองราชเมื่อปี1970 หลังสิ้นสุดอำนาจของผู้เป็นพ่อ สุลต่านกาบุส
ได้ทรัพย์สินจากการส่งออกน้ำมัน ปัจจุบันพระองค์ได้หันมาทำธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศ







อันดับ 9 - Princes Albert II of Monaco (โมนาโก,ฝรั่งเศส)

รูปภาพ

เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก เป็นกษัตริย์พระองค์เดียวที่ยังไม่อภิเษกสมรส และถูกร่ำลือว่าทรงส่งแฟนสาวของพระองค์เข้าเรียนคอร์สติวเข้มภาษาฝรั่งเศส พระองค์มีพระราชทรัพย์ประมาณ 1.4 พันล้านเหรียญฯ ประกอบไปด้วยอสังหาริมทรัพย์ และหุ้นส่วนกิจการคาสิโนในโมนาโก พร้อมทั้งทรงวางแผนที่จะขยายพื้นที่ของประเทศ (ซึ่งมีขนาดเท่ากับ Central Park ในนิวยอร์ก) โดยการสร้างเขตปกครองใหม่ในทะเลซึ่งจะตั้งอยู่บนเสาขนาดมหึมา
โครงการดังกล่าวนี้สร้างความวิตกกังวลแก่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอยู่พอสมควร









อันดับ 8 - King Mohammed VI of Morocco (โมร็อคโค)

รูปภาพ

กษัตริย์ โมฮัมหมัดที่ 6 แห่งประเทศโมร็อกโก ขณะนี้มีทรัพย์สินรวม 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 2 พันล้านเหรียญฯ
เนื่องจากภัยแล้งที่ รุนแรงส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ชะลออยู่ที่ระดับ 2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งได้มาจากการทำเหมืองแร่ฟอสเฟต,
เกษตรกรรมและทรงร่วมหุ้นกับบริษัทMorocco's largest public company










อันดับ 7 - Sheikh Hamad bin Khalifa Al Thani of Qatar (การ์ตาร์)

รูปภาพ

ชีค ฮาหมัด บิน คาลิฟา อัล ธานี่ มีทรัพย์สินโดยประมาณรวม 3พันล้านเหรียญสหรัฐฯ










อันดับ 6 - Prince Hans-Adam II von und zu Liechtenstein of Liechtenstein (ลิกเตนสไตน์)

รูปภาพ

เจ้า ชายฮันส์ อาดัมที่ 2 แห่งลิกเตนสไตน์ มีพระราชทรัพย์ทรัพย์ประมาณการ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยที่ LGT Bank ซึ่งเป็นแหล่งทุนหลักของพระองค์ (บริหารโดยราชวงศ์มากว่า 70 ปี)ตกเป็นเป้าในคดีหลีกเลี่ยงภาษีอันอื้อฉาว ซึ่งบริษัทของพระองค์ถูกกล่าวหาว่าช่วยเหลือลูกค้าฐานะดีหลายรายในการซุกซ่อนทรัพย์สิน จากการสืบสวนของวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ พบว่าพระอนุชาของพระองค์(เจ้าชายฟิลิป) มีส่วนเกี่ยวข้องในการนี้ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งประธานของ LGT











อันดับ 5 - Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum of Dubai (ดูไบ)

รูปภาพ

ชีค โมฮัมหมัด บิน ราชิด อัล มาคทูม แห่งดูไบ ทรงมีพระราชทรัพย์สุทธิ 18 พันล้านเหรียญฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Dubai Holding ซึ่งมีการลงทุนใหญ่ๆ ในหลายบริษัท เช่น โซนี่ และบริษัทผลิตอาวุธ EADS และเมื่อเร็วๆ นี้กองทุนรวมเพื่อการลงทุนของชีคพระองค์นี้ได้ใช้เงิน 5 พันล้านเหรียญฯ เพื่อถือหุ้นในบริษัท MGM Mirage และ 825 ล้านเหรียญฯ เพื่อซื้อกิจการค้าปลีก Barneys New York และทรงเข้ามาซื้อหุ้นใหญ่สุดของสโมสรในอังกฤษอีกด้วย











อันดับ 4 - Sultan Haji Hassanal Bolkiah of Brunei (บรูไน)

รูปภาพ

สุลต่าน แห่งบรูไน ซึ่งเป็นกษัตริย์จากเอเชียจากสองประเทศที่เข้าทำเนียบราชวงศ์ที่รำรวยของ ฟอร์บ ราชทรัพย์ของสุลต่านแห่งบรูไน(ทรัพย์สิน 20 พันล้านเหรียญฯ) ลดลงจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากต้องลดอัตราการผลิตน้ำมันเนื่องจากปริมาณสำรอง น้ำมันในประเทศบรูไนลดลง โดยฟอร์บระว่า
กิจการน้ำมันนั้นเป็นมรดกตกทอดของราชวงศ์บรูไนซึ่งเป็นราชวงศ์มุสลิมซึ่งมีอายุกว่า 600 ปี













อันดับ 3 - King Abdullah bin Abdul Aziz of Saudi Arabia (ซาอุดิอาระเบีย)

รูปภาพ

กษัตริย์อับดุลลาห์ บิน อับดุล อาซิซ แห่งซาอุฯ ทรงมีทรัพย์สินประมาณการที่21.5 พันล้านเหรียญฯ รายได้มหาศาลของพระองค์ได้มาจากอุตสาหกรรมน้ำมัน
ที่ซาอุ ดีอาระเบีย มีสัดส่วนการผลิตถึง 25 % ของแหล่งน้ำมันทั่วโลก และธุรกิจการบินของสายการบินซาอุดีอาระเบียนส์ แอร์ไลน์ แต่อย่างไรก็ตาม
มีการคาดการณ์กันว่าแหล่งน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย จะหมดลงในปีค.ศ.2040 หรืออีกใน 32 ปีข้างหน้านี้











อันดับ 2 - heikh Khalifa bin Zayed Al Nahyan of the United Arab Emirates (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)

รูปภาพ

ชีค คาลิฟา บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน แห่งอาบูดาบี มีพระราชทรัพย์ประมาณ 23 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ ความมั่งคั่ง ของพระองค์เกิดจากการที่เมืองอาบูดาบีเป็นเมืองที่มีแหล่งน้ำมันสำรองคิด เป็น 95 เปอร์เซ็นต์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนั้นอาบูดาบียังมีชื่อเสียงเนื่องมาจากการลงทุนระดับแนวหน้าโดยบรรษัท ที่รัฐเป็นเจ้าของนั้นคือเงินลงทุน 7.5 พันล้านเหรียญฯ ในบริษัท Citibank




























อันดับ 1



" King Bhumibol Adulyadej Of Thailand " (ไทยแลนด์)

รูปภาพ

พระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชแห่งราชอาณาจักรไทย ทรงอยู่ในลำดับสูงสุดของทำเนียบราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลกในปีนี้ โดยมีพระราชทรัพย์ประมาณการได้ล่าสุดกว่า 35 พันล้านเหรียญฯ (1.19 ล้านล้านบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท: 34 ดอลลาร์) โดยพระราชทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นนี้สืบเนื่องจากความโปร่งใสที่เพิ่มขึ้นของ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์





credit : www.forbes.com

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 08, 2009 13:11
โดย kingevra
LONG LIVE THE KING

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 08, 2009 13:40
โดย diaz
ในหลวงหรอครับ ?

จริง ป่ะ เนี่ย

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 08, 2009 13:45
โดย nappapon101
ทรงพระเจริญครับ

แต่จิงๆรอครับที่ราชวงศ์ในหลวงรวยที่สุดในโลกอะ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 08, 2009 13:58
โดย meawmeaw
ทรงพระเจริญ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 08, 2009 14:31
โดย manutd_girl_w
จริงหรอเนี่ย
แล้วรายได้ส่วนใหญ่มาจากไหนหรอคะ อยากรู้อ่ะ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 08, 2009 14:53
โดย jajajele
ไม่จริงหรอกครับ ข่าวนี้ควรระวังให้มากน่ะครับเพราะว่าพวกที่โจมตีราชวงศ์จะเอามาเป็นข้ออ้างในการโจมตีน่ะครับ ถึงข้อมูลจะมาจากนิตยสาร Forbe แต่ผมก็ไม่เชื่ออยู่ดีเพราะ คำว่า ล็อบบี้ยิสต์ มันมีจริง

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 08, 2009 14:57
โดย Conanian
คือเราต้องแยกคำว่า ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กับ ทรัพย์สินส่วนพระองค์ ครับ
ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์คือ ทรัพย์สินของราชวงค์จักรี
ทรัพย์สินส่วนพระองค์คือ ทรัพย์สินส่วนตัวของพระองค์เอง (งงมั้ย) 555

ต้องทำความเข้าใจก่อนนะครับ ที่นิตยสารนี้นำมารายงาน นี่ไม่ใช่รายได้ส่วนพระองค์นะครับ
มันเป็นรายได้ ของสำนักงานทรัพย์ฺสินส่วนพระมหากษัตริย์ อะครับ
สำนักงานนี้จะบริหารทรัพย์สินของราชวงค์อะครับ ซึ่งหลักๆเลยก็คือที่ดิน ที่ดินทั่วประเทศไทย
ที่ดินแถวสยามนี่ ถ้าเดาไม่ผิด น่าจะเป็นของสำนักงานทรัพย์ฺสินหมดเลยครับ
เค้าเอาตรงนี้มาประเมินค่า ว่ามูลค่าได้เท่าไหร่ ก็จินตนาการดูนะครับ ห้างแถวนั้น มีกี่ห้าง
มูลค่ามหาศาล
นอกจากนั้นก็ยังมีบริษัทต่่างๆอีกมากมาย ที่สำนักงานทรัพย์สินถือหุ้น ปูนซีเมนต์ไทย แบงค์ไทยพาณิชย์ ฯลฯ อีกมากมาย

อยากให้เพื่อนๆอ่านเรื่องนี้ให้เป็นความรู้รอบตัวนะครับ เพราะมีบางคนนำไปเป็นประเด็นทางการเมือง
ไม่อยากให้คิดกันว่า รวยจังเลยนะ อะไรอย่างงี้เลยครับ พระองค์ทำทุกอย่างเพื่อประชาชนชาวไทยทั้งนั้นครับ
LOVE LIVE THE KING

ปล. เนื้อหาบางส่วนนำมาจาก วิกิพีเดีย ครับ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 08, 2009 15:20
โดย probasmetro
ผมรักในหลวง ของพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 08, 2009 15:26
โดย spiritza
ทรงพระเจริญคับ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 08, 2009 15:45
โดย another789
ทรงพระเจริญครับ

เรารักในหลวงๆๆๆๆ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 08, 2009 16:05
โดย cassanova09
เค้ารวม ของทั้งหมด ก็ รัฐบาลเลยหรอครับ

พวก ทรพสิทร์ทางราชการ ไรงี้ด้วยหรืป่าว

ทำไม รวย จังง่าา


:cry:

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 08, 2009 17:54
โดย Maizii_MUFC
ถึงสื่อจะประเมินทรัพสินของพระราชวงศ์ไทยมีเยอะที่สุดในโลก

แต่เราเชื่อว่า พระองค์ไม่เคยปรารถนาความมั่งคั่งหรอกค่ะ

แต่พระองค์ทรงปรารถนา ที่จะเห็นปวงชนชาวไทย รักและสามัคคีกัน

ปรารถนาที่จะเห็นประเทศชาติสงบสุข ประชาชนมีความสุข มากที่สุดค่ะ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 08, 2009 19:29
โดย Minzu
Long live the KING OF THAILAND

ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน...

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 08, 2009 20:04
โดย manutd_girl_w
Conanian เขียน:คือเราต้องแยกคำว่า ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กับ ทรัพย์สินส่วนพระองค์ ครับ
ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์คือ ทรัพย์สินของราชวงค์จักรี
ทรัพย์สินส่วนพระองค์คือ ทรัพย์สินส่วนตัวของพระองค์เอง (งงมั้ย) 555

ต้องทำความเข้าใจก่อนนะครับ ที่นิตยสารนี้นำมารายงาน นี่ไม่ใช่รายได้ส่วนพระองค์นะครับ
มันเป็นรายได้ ของสำนักงานทรัพย์ฺสินส่วนพระมหากษัตริย์ อะครับ
สำนักงานนี้จะบริหารทรัพย์สินของราชวงค์อะครับ ซึ่งหลักๆเลยก็คือที่ดิน ที่ดินทั่วประเทศไทย
ที่ดินแถวสยามนี่ ถ้าเดาไม่ผิด น่าจะเป็นของสำนักงานทรัพย์ฺสินหมดเลยครับ
เค้าเอาตรงนี้มาประเมินค่า ว่ามูลค่าได้เท่าไหร่ ก็จินตนาการดูนะครับ ห้างแถวนั้น มีกี่ห้าง
มูลค่ามหาศาล
นอกจากนั้นก็ยังมีบริษัทต่่างๆอีกมากมาย ที่สำนักงานทรัพย์สินถือหุ้น ปูนซีเมนต์ไทย แบงค์ไทยพาณิชย์ ฯลฯ อีกมากมาย

อยากให้เพื่อนๆอ่านเรื่องนี้ให้เป็นความรู้รอบตัวนะครับ เพราะมีบางคนนำไปเป็นประเด็นทางการเมือง
ไม่อยากให้คิดกันว่า รวยจังเลยนะ อะไรอย่างงี้เลยครับ พระองค์ทำทุกอย่างเพื่อประชาชนชาวไทยทั้งนั้นครับ
LOVE LIVE THE KING

ปล. เนื้อหาบางส่วนนำมาจาก วิกิพีเดีย ครับ


กระจ่างเลย ขอบคุณมากค่ะ



ขอพระองค์ทรงพระเจริญ -/\-