เกาะขอบรั้วแอบมอง IT
เมื่อ: พุธ ก.ย. 09, 2009 23:27จริงๆแล้วตอนนี้ผมกำลังซุ่มทำการอัพโหลดโปรแกรมที่ใช้สำหรับตกแต่ง Window XP ของท่านให้แจ่มจรัสแบบครบวงจร ไล่ตั้งแต่ Theme , Sound ต่างๆ , Cursor ,รวมทั้งโปรแกรมตกแต่งปลีกย่อยอื่นๆอีกเพียบ อ้อ เปลี่ยน Logon Screen ให้เป็นรูปแมนยูที่รักของเราได้ด้วยนะ เรียกได้ว่าท่านไม่เคยเห็นที่ไหนมีให้ครบวงจรในกระทู้เดียวแบบนี้แน่นอนครับ
จริงๆไอ้ส่วนการอัพโหลดนี่ไม่ได้นานเลยครับ แต่มันนานตรงที่วิธีการใช้ วิธีการติดตั้งและแครกนี่แหละครับ ต้องบอกว่ายุ่งยากและเหนื่อยเอาการอยู่ เพราะต้องคิดด้วยว่าอธิบายแล้วทุกท่านต้องเข้าใจไม่งง เด๋วจะเกิดปัญหาซะเปล่าๆ ในเมื่อทำแล้วผมก็ต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็อดใจรอกันหน่อยนะครับ ถ้าว่างเต็มๆวันเมื่อไหร่คงจะเสร็จซักที เอาล่ะเข้าเรื่องของเราวันนี้กันดีกว่าครับ
<center>
</center>
วินโดว์ 7 และ Vista อาจโดนถล่มได้ซะแล้ว
โดยหากท่านได้ติดตามบทความเกี่ยวกับการพรีวิว Windows 7 ของผมไปเมื่อซักเดือนที่แล้ว ท่านคงจะพอจำได้กับการเน้นย้ำของผมนะครับว่า ถึงแม้ Windows 7 จะวางจำหน่ายแล้ว ก็อย่าเพิ่งเห่อไปลองใช้มันทันทีเลยจะดีกว่า วันนี้ก็เป็นการเน้นย้ำเกี่ยวกับการเตือนของผมว่ามันก็เริ่มส่อเค้าให้เห็นอีกกรณีนึง
คือเมื่อเร็วๆนี้นาย Laurent Gaffie ซึ่งเขาเป็นแฮคเกอร์คนนึง ได้บอกไว้ว่า Windows 7 และ Vista นั้นน่ะมันมีช่องโหว่ในการโจมตีผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้ โดยการเขียนโค๊ตขึ้นมาเพื่อทำการโจมตี และยังอาจต่อยอดไปสู่การโจมตีแบบ Dos ได้อีกด้วย
ซึ่งนาย Laurent Gaffie นั้นก็ได้ทดลองและโพสต์ไว้ใน Blog ของเขาเองและก็มีผู้คนเข้าไปโพสต์ครึ่งต่อครึงเลยที่บอกว่า โค๊ตตัวนี้สามารถโจมตีระบบได้จริงๆ อ้าว งงกันไหมทำไมครึ่งเดียวฟะ อิตา Laurent Gaffie ก็ตั้งข้อสันนิษฐานว่า มันอาจเป็นที่เวอร์ชั่นซึ่งต่างกัน ประมาณว่าโค๊ตตัวนี้ต้องใช้กับเวอร์ชั่นนี้ทำนองนั้น ซึ่งอาการหลังจากการโดนโจมตีก็จะขึ้น "จอฟ้ามรณะ" หุหุ และซึ่งเป็นธรรมเนียมของแฮคเกอร์ที่เค้าจะไม่ค่อยเปิดเผยข้อมูลเบื้องลึกให้คนทั่วไปทราบหรอกครับว่ามันสามารถทำอะไรได้อีกบ้าง
โดยทางไมโครซอฟต์ก็ได้ออกมาตอบโต้ทันควันว่าไม่เป็นห่วงช่องโหว่นี้แต่อย่างใด และมั่นใจว่าลูกค้าที่ใช้ Windows 7 จะปลอดภัยแน่นอน
แต่อันนี้ความคิดผมแบบเพียวๆนะครับ ผมว่าถึงแม้มันจะยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัด (ผมเองก็ยังไม่เคยลอง window 7 และก็ยังไม่เคยเห็นโค๊ตตัวดังกล่าว แต่ในเมื่อมันง่ายดายขนาดนั้น หากโค๊ตมันเผยแพร่แล้วตกไปอยู่ในมือเกรียนขึ้นมาก็ บอกได้คำเดียวว่า บรรลัยเกิด ครับ เพราะการหา IP เหยื่อนั้นเด๋วนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย)
สำหรับผมถึงแม้มันจะปลอดภัยไม่มีเรื่องดังกล่าว ผมก็ยังจะรอ 6 เดือนอยู่ดีเพื่อให้บัคต่างๆได้รับการแก้ไข และปัญหาต่างๆเริ่มเผยตัวออกมาจากพวกหนูทดลองจริงรุ่นแรกกันไปก่อน ถึงเวลานั้นผมค่อยวิเคราะห์อีกทีว่าผมสมควรเปลี่ยนไปใช้ Windows 7 หรือยัง
<center>...........................................................................................................................................................</center>
<center>
</center>
ต่อมาเป็นข่าวเกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆกันบ้าง
Kingston เจ้าแห่งวงการการเก็บข้อมูลชั้นนำของโลก ได้ผลิต Flash Drive ซึ่งต้องเรียกว่าล้ำหน้าและเป็นผู้นำให้ผู้อื่นตามอีกครั้งสำหรับ Flash Drive รุ่น DataTraveler 300 ซึ่งลักษณะพิเศษของมันที่ทิ้งเพื่อนร่วมวงการอย่างหลุดรุ่ยก็คือความจุที่มโหฬารเกินตัว ด้วยขนาด 256 GB ครับผมพิมไม่ผิดหรอก 256 GB (ฮาร์ดดิสก์คอมที่ห้องผมยังแค่ 250 GB เล๊ย)
แต่ด้วยความจุแบบมโหฬารจนหลายๆคนอาจจะคิดว่า เอ๊ มันจะทำงานช้ากว่ารุ่นทั่วไปไหม ต้องบอกเลยครับว่าไม่ช้าเลย เพราะมันมาพร้อมความเร็วระดับ 20MB/sec สำหรับการอ่านข้อมูล และ10MB/sec สำหรับการเขียนข้อมูล โอ้แม่เจ้าอะไรจะพรั่งพร้อมขนาดนั้น
หลายๆท่านอาจสนใจผมเองก็สนใจครับ ซึ่งหากนำวินโด้ยัดเข้าไปได้เราก็เท่ากับมีคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วของเราเองพกไปทำงานที่ไหนต่อไหนได้อย่างสบายๆ (แต่ทว่าการยัดวินโด้ใส่แฟลชไดร์ฟขนาดเกิน 4GB ยากโคตรครับ)
แต่สิ่งที่ทำให้ผมหยุดฝันหวานจริงๆมันก็คือ สนนราคาแค่เพียง 935 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 28,000 บาทเท่านั้นเอง
<center>...........................................................................................................................................................</center>
<center>
</center>
WPA ที่ว่าแน่ก็จอดครับงานนี้
เมื่อไม่นานมานี้มี 2 นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น(ผมว่ามันน่าจะเป็นแฮคเกอร์มากกว่าไหม) ได้ประสบความสำเร็จในการแฮค Wi-Fi ที่ป้องกันด้วยระบบ WPA ได้ภายใน 1 นาที
โอ้แม่เจ้า โปรดฟังอีกครั้ง 1 นาที
ซึ่งผมต้องขอบอกทุกท่านที่อาจจะไม่เข้าใจเกี่ยวกับเจ้า WPA กันเสียหน่อย คือ ระบบในการเข้ารหัสผ่านของเครือข่ายไร้สายที่เราใช้ปล่อยในบ้านหรือสำนักงานเรานั้นน่ะ มันมีการเข้ารหัสอยู่ 3 อย่างครับคือ WEP,WPA,WPA2 เรียงตามลำดับของความปลอดภัย และก็เป็นที่รู้กันในหมู่ผู้สนใจคอมพิวเตอร์มานานแล้วว่าการป้องกันแบบ WEP นั้นก็ไม่ต่างกับเราเปิดแชร์ให้ผู้อื่นใช้ได้อย่างสบายใจ เพราะมันมีทั้งโปรแกรมสำเร็จที่ใช้ถอดรหัสแบบคลิกเดียวได้ (ในกรณีเราเตอร์มีFirewall ที่ป้องกันไม่ดีพอ) รหัสที่เราอุตส่าห์ล็อคไว้ก็โผล่ออกมาหมด เวงกรรม ไหมล่ะครับ หรือต่อให้มี Firewall ที่ดีพอก็ใช้โปรแกรม แฮคบวกความรู้อีกนิดหน่อยกับโนตบุคซักเครื่อง ก็เรียบร้อยในเวลาไม่นานเลยครับ
แต่ซึ่ง WPA นี้มีการยอมรับกันอยู่พักนึงว่ามันแฮคไม่ได้ร๊อก หรือแฮคได้ก็ต้องใช้เวลานานมากๆครับ ซึ่งเมื่อซัก 2 - 3 เดือนก่อนผมได้ยินแว่วๆมาว่าสามารถแฮคได้แล้วแต่ต้องใช้เวลานานมากโข แต่ผมก็ยังไม่นึกว่าจะมีวันที่มันโดนแฮคได้ภายใน 1 นาทีแบบนี้ หรืออย่างน้อยก็น่าจะอีกซักพักนี่มันเร็วไปหน่อย
และนักวิทยาศาสตร์ 2 ท่านนี้ก็เตรียมพร้อมที่จะเปิดเผยช่องโหว่ที่ทำให้เขาแฮคได้ในงานสัมนาที่ ฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 25 กันยายน นี้อีกด้วย (ใครใจบุญพาผมไปหน่อยก๊าบบ)
ส่วนคำแนะนำสำหรับประเด็นนี้ คือ อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปครับ WPA ยังปลอดภัยเพียงพอสำหรับบ้านเราครับ แต่ถ้าท่านอยากเปลี่ยนเป็น WPA 2 ก็จะได้ไม่ต้องกังวล เอาเป็นว่าหาก WPA มันสามารถแฮคได้ง่ายดายจริงๆเมื่อไหร่ผมจะมาบอกท่านอีกที ส่วนบ้านหรือสำนักงานของท่านใดที่ใช้การป้องกันแบบ WEP ผมแนะนำให้เปลี่ยนซะเด๋วนี้ครับ เพราะผมยืนยันเลยว่า WEP แฮคได้จริงและไม่ยากเลยด้วยครับ ซึ่งถึงแม้ท่านจะไม่โดนล้วงข้อมูลต่างๆ แต่ท่านก็ต้องเสียค่าเน็ตให้ผู้อื่นใช้ฟรีๆทุกๆเดือนนั่นเองครับ
<center>...........................................................................................................................................................</center>
สำหรับวันนี้คงพอแค่นี้ก่อนดีกว่าเด๋ววันหลังไม่มีอะไรมาเล่า 555 เพราะคอมพิวเตอร์ไม่เหมือนข่าวฟุตบอลนี่นาเนอะ ถึงแม้ยังมีอะไรดีๆวิ่งพล่านในหัวผมเยอะก็ตามก็ต้องมุบมิบไว้ก่อน เด๋ววันหลังผมไม่มีอะไรทำ
จริงๆไอ้ส่วนการอัพโหลดนี่ไม่ได้นานเลยครับ แต่มันนานตรงที่วิธีการใช้ วิธีการติดตั้งและแครกนี่แหละครับ ต้องบอกว่ายุ่งยากและเหนื่อยเอาการอยู่ เพราะต้องคิดด้วยว่าอธิบายแล้วทุกท่านต้องเข้าใจไม่งง เด๋วจะเกิดปัญหาซะเปล่าๆ ในเมื่อทำแล้วผมก็ต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็อดใจรอกันหน่อยนะครับ ถ้าว่างเต็มๆวันเมื่อไหร่คงจะเสร็จซักที เอาล่ะเข้าเรื่องของเราวันนี้กันดีกว่าครับ
<center>
</center>วินโดว์ 7 และ Vista อาจโดนถล่มได้ซะแล้ว
โดยหากท่านได้ติดตามบทความเกี่ยวกับการพรีวิว Windows 7 ของผมไปเมื่อซักเดือนที่แล้ว ท่านคงจะพอจำได้กับการเน้นย้ำของผมนะครับว่า ถึงแม้ Windows 7 จะวางจำหน่ายแล้ว ก็อย่าเพิ่งเห่อไปลองใช้มันทันทีเลยจะดีกว่า วันนี้ก็เป็นการเน้นย้ำเกี่ยวกับการเตือนของผมว่ามันก็เริ่มส่อเค้าให้เห็นอีกกรณีนึง
คือเมื่อเร็วๆนี้นาย Laurent Gaffie ซึ่งเขาเป็นแฮคเกอร์คนนึง ได้บอกไว้ว่า Windows 7 และ Vista นั้นน่ะมันมีช่องโหว่ในการโจมตีผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้ โดยการเขียนโค๊ตขึ้นมาเพื่อทำการโจมตี และยังอาจต่อยอดไปสู่การโจมตีแบบ Dos ได้อีกด้วย
ซึ่งนาย Laurent Gaffie นั้นก็ได้ทดลองและโพสต์ไว้ใน Blog ของเขาเองและก็มีผู้คนเข้าไปโพสต์ครึ่งต่อครึงเลยที่บอกว่า โค๊ตตัวนี้สามารถโจมตีระบบได้จริงๆ อ้าว งงกันไหมทำไมครึ่งเดียวฟะ อิตา Laurent Gaffie ก็ตั้งข้อสันนิษฐานว่า มันอาจเป็นที่เวอร์ชั่นซึ่งต่างกัน ประมาณว่าโค๊ตตัวนี้ต้องใช้กับเวอร์ชั่นนี้ทำนองนั้น ซึ่งอาการหลังจากการโดนโจมตีก็จะขึ้น "จอฟ้ามรณะ" หุหุ และซึ่งเป็นธรรมเนียมของแฮคเกอร์ที่เค้าจะไม่ค่อยเปิดเผยข้อมูลเบื้องลึกให้คนทั่วไปทราบหรอกครับว่ามันสามารถทำอะไรได้อีกบ้าง
โดยทางไมโครซอฟต์ก็ได้ออกมาตอบโต้ทันควันว่าไม่เป็นห่วงช่องโหว่นี้แต่อย่างใด และมั่นใจว่าลูกค้าที่ใช้ Windows 7 จะปลอดภัยแน่นอน
แต่อันนี้ความคิดผมแบบเพียวๆนะครับ ผมว่าถึงแม้มันจะยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัด (ผมเองก็ยังไม่เคยลอง window 7 และก็ยังไม่เคยเห็นโค๊ตตัวดังกล่าว แต่ในเมื่อมันง่ายดายขนาดนั้น หากโค๊ตมันเผยแพร่แล้วตกไปอยู่ในมือเกรียนขึ้นมาก็ บอกได้คำเดียวว่า บรรลัยเกิด ครับ เพราะการหา IP เหยื่อนั้นเด๋วนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย)
สำหรับผมถึงแม้มันจะปลอดภัยไม่มีเรื่องดังกล่าว ผมก็ยังจะรอ 6 เดือนอยู่ดีเพื่อให้บัคต่างๆได้รับการแก้ไข และปัญหาต่างๆเริ่มเผยตัวออกมาจากพวกหนูทดลองจริงรุ่นแรกกันไปก่อน ถึงเวลานั้นผมค่อยวิเคราะห์อีกทีว่าผมสมควรเปลี่ยนไปใช้ Windows 7 หรือยัง
<center>...........................................................................................................................................................</center>
<center>
</center>ต่อมาเป็นข่าวเกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆกันบ้าง
Kingston เจ้าแห่งวงการการเก็บข้อมูลชั้นนำของโลก ได้ผลิต Flash Drive ซึ่งต้องเรียกว่าล้ำหน้าและเป็นผู้นำให้ผู้อื่นตามอีกครั้งสำหรับ Flash Drive รุ่น DataTraveler 300 ซึ่งลักษณะพิเศษของมันที่ทิ้งเพื่อนร่วมวงการอย่างหลุดรุ่ยก็คือความจุที่มโหฬารเกินตัว ด้วยขนาด 256 GB ครับผมพิมไม่ผิดหรอก 256 GB (ฮาร์ดดิสก์คอมที่ห้องผมยังแค่ 250 GB เล๊ย)
แต่ด้วยความจุแบบมโหฬารจนหลายๆคนอาจจะคิดว่า เอ๊ มันจะทำงานช้ากว่ารุ่นทั่วไปไหม ต้องบอกเลยครับว่าไม่ช้าเลย เพราะมันมาพร้อมความเร็วระดับ 20MB/sec สำหรับการอ่านข้อมูล และ10MB/sec สำหรับการเขียนข้อมูล โอ้แม่เจ้าอะไรจะพรั่งพร้อมขนาดนั้น
หลายๆท่านอาจสนใจผมเองก็สนใจครับ ซึ่งหากนำวินโด้ยัดเข้าไปได้เราก็เท่ากับมีคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วของเราเองพกไปทำงานที่ไหนต่อไหนได้อย่างสบายๆ (แต่ทว่าการยัดวินโด้ใส่แฟลชไดร์ฟขนาดเกิน 4GB ยากโคตรครับ)
แต่สิ่งที่ทำให้ผมหยุดฝันหวานจริงๆมันก็คือ สนนราคาแค่เพียง 935 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 28,000 บาทเท่านั้นเอง
<center>...........................................................................................................................................................</center>
<center>
</center>WPA ที่ว่าแน่ก็จอดครับงานนี้
เมื่อไม่นานมานี้มี 2 นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น(ผมว่ามันน่าจะเป็นแฮคเกอร์มากกว่าไหม) ได้ประสบความสำเร็จในการแฮค Wi-Fi ที่ป้องกันด้วยระบบ WPA ได้ภายใน 1 นาที
โอ้แม่เจ้า โปรดฟังอีกครั้ง 1 นาที ซึ่งผมต้องขอบอกทุกท่านที่อาจจะไม่เข้าใจเกี่ยวกับเจ้า WPA กันเสียหน่อย คือ ระบบในการเข้ารหัสผ่านของเครือข่ายไร้สายที่เราใช้ปล่อยในบ้านหรือสำนักงานเรานั้นน่ะ มันมีการเข้ารหัสอยู่ 3 อย่างครับคือ WEP,WPA,WPA2 เรียงตามลำดับของความปลอดภัย และก็เป็นที่รู้กันในหมู่ผู้สนใจคอมพิวเตอร์มานานแล้วว่าการป้องกันแบบ WEP นั้นก็ไม่ต่างกับเราเปิดแชร์ให้ผู้อื่นใช้ได้อย่างสบายใจ เพราะมันมีทั้งโปรแกรมสำเร็จที่ใช้ถอดรหัสแบบคลิกเดียวได้ (ในกรณีเราเตอร์มีFirewall ที่ป้องกันไม่ดีพอ) รหัสที่เราอุตส่าห์ล็อคไว้ก็โผล่ออกมาหมด เวงกรรม ไหมล่ะครับ หรือต่อให้มี Firewall ที่ดีพอก็ใช้โปรแกรม แฮคบวกความรู้อีกนิดหน่อยกับโนตบุคซักเครื่อง ก็เรียบร้อยในเวลาไม่นานเลยครับ
แต่ซึ่ง WPA นี้มีการยอมรับกันอยู่พักนึงว่ามันแฮคไม่ได้ร๊อก หรือแฮคได้ก็ต้องใช้เวลานานมากๆครับ ซึ่งเมื่อซัก 2 - 3 เดือนก่อนผมได้ยินแว่วๆมาว่าสามารถแฮคได้แล้วแต่ต้องใช้เวลานานมากโข แต่ผมก็ยังไม่นึกว่าจะมีวันที่มันโดนแฮคได้ภายใน 1 นาทีแบบนี้ หรืออย่างน้อยก็น่าจะอีกซักพักนี่มันเร็วไปหน่อย
และนักวิทยาศาสตร์ 2 ท่านนี้ก็เตรียมพร้อมที่จะเปิดเผยช่องโหว่ที่ทำให้เขาแฮคได้ในงานสัมนาที่ ฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 25 กันยายน นี้อีกด้วย (ใครใจบุญพาผมไปหน่อยก๊าบบ)
ส่วนคำแนะนำสำหรับประเด็นนี้ คือ อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปครับ WPA ยังปลอดภัยเพียงพอสำหรับบ้านเราครับ แต่ถ้าท่านอยากเปลี่ยนเป็น WPA 2 ก็จะได้ไม่ต้องกังวล เอาเป็นว่าหาก WPA มันสามารถแฮคได้ง่ายดายจริงๆเมื่อไหร่ผมจะมาบอกท่านอีกที ส่วนบ้านหรือสำนักงานของท่านใดที่ใช้การป้องกันแบบ WEP ผมแนะนำให้เปลี่ยนซะเด๋วนี้ครับ เพราะผมยืนยันเลยว่า WEP แฮคได้จริงและไม่ยากเลยด้วยครับ ซึ่งถึงแม้ท่านจะไม่โดนล้วงข้อมูลต่างๆ แต่ท่านก็ต้องเสียค่าเน็ตให้ผู้อื่นใช้ฟรีๆทุกๆเดือนนั่นเองครับ
<center>...........................................................................................................................................................</center>
สำหรับวันนี้คงพอแค่นี้ก่อนดีกว่าเด๋ววันหลังไม่มีอะไรมาเล่า 555 เพราะคอมพิวเตอร์ไม่เหมือนข่าวฟุตบอลนี่นาเนอะ ถึงแม้ยังมีอะไรดีๆวิ่งพล่านในหัวผมเยอะก็ตามก็ต้องมุบมิบไว้ก่อน เด๋ววันหลังผมไม่มีอะไรทำ
