กูลเกิ้ลวันนี้..... เเกรี่เเบรี่


บาร์โค้ด (barcode) เป็นหนึ่งในหลายวิธีที่ได้ผลดี
ในการตรวจสอบสินค้าขณะขาย, การตรวจสอบยอดการขาย และสินค้าคงคลัง
เราสามารถที่จะอ่านรหัสบาร์โค้ดได้ โดยใช้สแกนเนอร์หรือเครื่องอ่านบาร์โค้ด
ซึ่งวิธีนี้จะรวดเร็วกว่าการป้อนข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์หรือการอ่านด้วยสายตา
บางครั้งเราจะเห็นเครื่องเหล่านี้ในสถานที่ต่างๆ ซึ่งบางที่เราก็อาจจะคาดไม่ถึง
ว่าจะนำไปใช้ได้
แต่เดิมมีการใช้บาร์โค้ดในร้านขายของชำและตามปกหนังสือ
ต่อมาพบในร้านอุปกรณ์ประกอบรถยนต์และร้านอุปโภคบริโภคทั่วไป
ในแถบยุโรป รถบรรทุกทุกคัน ที่จะต้องวิ่งระหว่างประเทศฝรั่งเศสและประเทศเยอรมนี
จะต้องใช้แถบรหัสบาร์โค้ดที่หน้าต่างทุกคัน เพื่อใช้ในการแสดงใบขับขี่ ใบอนุญาต
และน้ำหนักรถบรรทุก แก่เจ้าหน้าที่ศุลกากรสามารถตรวจได้ง่ายและรวดเร็ว
ในขณะที่รถลดความเร็ว เครื่องตรวจจะอ่านข้อมูลจากบาร์โค้ด
และแสดงข้อมูลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ทันที
การพัฒนา
บาร์โค้ด 2 มิติปัจจุบันได้มีการนำบาร์โค้ด 2 มิติมาใช้งาน
สำหรับข้อมูลที่มีจำนวนมาก รวมถึงการนำเทคโนโลยีRFID
ซึ่งเป็นการตรวจสอบข้อมูลผ่านทางคลื่นวิทยุ
แทนที่เลเซอร์เหมือนบาร์โค้ดในปัจจุบัน

เครื่องอ่านบาร์โค้ด (อังกฤษ: barcode reader) ตัวเลขของรหัสสินค้าที่ใช้ในการจัด
เก็บข้อมูลของระบบสินค้าคงคลังจะมีจำนวนหลักค่อนข้างมาก เมื่อต้องการเรียกใช้หรือ
ตรวจสอบโดยการป้อนข้อมูลผ่านแป้นพิมพ์จะทำให้เกิดการผิดพลาดได้ง่าย
จึงเกิดแนวคิดในการพิมพ์รหัสสินค้าออกมาเป็นแบบแท่งรหัสสีดำและขาวต่อเนื่องกัน
ไปเรียกว่า บาร์โค้ด ซึ่งนำไปใช้พิมพ์ในรหัสสินค้าอุปโภคและบริโภคทั่วไป เพื่อสะดวก
ในการเช็คสินค้าคงเหลือรวมไปถึงการคิดเงินนั่นเอง เครื่องอ่านรหัสเราเรียกว่าเครื่องอ่านบาร์โค้ด
มีหลายรูป เช่น แบบมีด้ามจับคล้ายปืน หรือบางแบบก็ฝังในแท่นของเครื่องเก็บเงินสดเลย
พบเห็นได้ตามจุดบริการขาย (POS - Point Of Sale)
ในร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ หรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป
อ้างอิง....มาจาก..
http://th.wikipedia.org/