พาราเซตามอล : ยาสามัญ..อันตราย!

พาราเซตามอล ที่เรียกกันง่ายๆว่า พาราบ้าง พาราเซตบ้าง
เป็นยาประจำบ้านสำหรับลดไข้แก้ปวดที่รู้จักกันดี และใช้กันอย่างแพร่หลาย
ที่มาแห่งความนิยม
จากการศึกษาวิจัยพบว่าพาราเซตามอลเป็นยาที่มีผลเสียน้อย ปลอดภัยในการใช้
จนให้มีการซื้อใช้ได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ แต่ยาตัวนี้มีคุณสมบัติเพียงแค่ลดไข้บรรเทาปวดเท่านั้น
ไม่มีคุณสมบัติด้านอื่นๆเมื่อเทียบกับแอสไพริน แต่หลายคนเข้าใจว่าพาราเซตามอลสามารถบำบัดรักษา
อาการเจ็บป่วยได้สารพัด ไม่สบายเป็นอะไรก็หาพาราเซตามอลมากินไว้ก่อน
คนเราส่วนใหญ่ที่ไม่สบายก็เป็นแค่ปวดหัวตัวร้อนหรือไข้หวัดธรรมดาๆ
เมื่อได้พาราเซตามอลก็ทุเลาขึ้น พาราเซตามอลเลยกลายเป็นยาประจำบ้าน
ที่ขายดิบขายดีกินกันเป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะปวดหัว ไข้หวัด ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง
เลยเถิดไปถึงปวดท้อง เวียนศีรษะ ซึ่งอันที่จริงคงช่วยแก้อะไรไม่ได้
แต่ก็ทำให้สบายใจว่าได้กินยาแล้ว ทว่าใครจะรู้บ้างว่าอันที่จริงพาราเซตามอลไม่ใช่ยาเทวดา
ที่รักษาได้สารพัดโรค นอกจากนั้นถ้ากินมากเกินขนาดยังอาจะเป็นผลร้ายต่อร่างกายเสียด้วยซ้ำ
ภัยที่คาดไม่ถึง
ในสหรัฐอเมริกาซึ่งมีการควบคุมการใช้ยาอย่างรัดกุม ได้ศึกษาพบว่า พาราเซตามอล
ยาที่คิดกันว่าไม่มีพิษมีภัยหากไม่กินเกินขนาดและยาวนานติดต่อกันนั้น แท้จริงแล้วมีอันตรายที่ต้องพึงระวังอีก
หลายอย่าง อันตรายที่พบได้บ่อยขึ้นเรื่อยๆคือเป็นพิษต่อตับ จากการสำรวจพบว่าพาราเซตามอลเป็น
ตัวการทำให้ตับวายได้บ่อยกว่ายาแก้โรคเบาหวานที่ชื่อ เรซูลิน ที่ถูกประกาศห้ามใช้ไปแล้วด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ในประเทศอังกฤษยังมีผู้พยายามฆ่าตัวตายโดยใช้พาราเซตามอลมีอัตราสูงจนน่าตกใจ
จนต้องจำกัดการซื้อยาตัวนี้แต่ละครั้งมิให้มากเกินจำนวนที่กำหนด เสี่ยงตายโดยไม่ตั้งใจ
การใช้พาราเซตามอลเกินขนาดจนถึงขีดอันตราย ส่วนมากเกิดโดยไม่ตั้งใจ เมื่อแรกออกสู่ตลาด
พาราเซตามอลชนิดเม็ดมี 2 ขนาด คือ 325 มก. และ 500 มก. ผู้ใช้คิดว่าต้องกินครั้งละ 2เม็ด
ถ้าเป็นครั้งละ 325 มก. ก็ไม่เท่าไร แต่ถ้าเป็นขนาด 500 มก. กินเป็นครั้งคราววันละไม่เกิน 8 เม็ด
เพียง 1-2 วันก็พอไหว แต่ถ้ากินเป็นเวลายาวนานก็จะเกิดอันตรายต่อร่างกายโดยเฉพาะตับ
สาเหตุที่ทำให้ได้ยาเกินขนาดอีกอย่างเกิดขึ้นเนื่องจากพาราเซตามอลเป็นตัวยาหนึ่งที่ถูกผสมลงในยา
หลายชนิด เล่น ยาแก้หวัดและยาคลายกล้ามเนื้อ ฉะนั้นใครที่กินยาจำพวกนี้แล้วกินพาราเซตามอล
เพิ่มเข้าไปอีก จึงได้รับยาเกินขนาดโดยไม่รู้ตัว การเอาพาราเซตามอลต่างชนิดผสมกันก็อาจเกิดอันตรายได้
พาราเซตามอลมีหลายรูปแบบ ความเข้มข้นของยาก็ต่างกันไป
เรื่องที่ควรระวังอีกเรื่องคือ การกินพาราเซตามอลควบคู่กับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น ไวน์หรือ
เหล้าผสม เพราะมันจะอันตรายต่อตับรุนแรงยิ่งขึ้น ถึงขนาดบางรายต้องเปลี่ยนตับกันมาแล้ว
ผู้ปฏิบัติงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคหลายรายต้องการให้ติดป้ายเตือนถึงเรื่องพิษของพาราเซตามอล
ต่อตับให้เห็นได้ชัดเจน พวกเขามีความเห็นว่าผู้บริโภคส่วนมากไม่ค่อยคำนึงว่าการกินยาตัวนี้เกินขนาดเป็นไปได้
โดยง่ายจากความพลั้งเผลอ บางคนกินติดต่อกันนานวันเกินไป บ้างก็กินยาขณะท้องว่าง
หรือซื้อมาเพิ่มเสริมฤทธิ์ยาอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนบางคนมีความไวต่อยาสูง กินเพียงไม่มากก็มีผลร้ายต่อตับได้
ยาทุกชนิดเปรียบเหมือนมีดสองคม มีคุณอนันต์แต่ก็อาจมีโทษมหันต์ถ้าใช้ผิดวิธีหรือไม่ระวังรอบคอบในการใช้
ข้อมูล...นิตยสารใกล้หมอ
เป็นยาประจำบ้านสำหรับลดไข้แก้ปวดที่รู้จักกันดี และใช้กันอย่างแพร่หลาย
ที่มาแห่งความนิยม
จากการศึกษาวิจัยพบว่าพาราเซตามอลเป็นยาที่มีผลเสียน้อย ปลอดภัยในการใช้
จนให้มีการซื้อใช้ได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ แต่ยาตัวนี้มีคุณสมบัติเพียงแค่ลดไข้บรรเทาปวดเท่านั้น
ไม่มีคุณสมบัติด้านอื่นๆเมื่อเทียบกับแอสไพริน แต่หลายคนเข้าใจว่าพาราเซตามอลสามารถบำบัดรักษา
อาการเจ็บป่วยได้สารพัด ไม่สบายเป็นอะไรก็หาพาราเซตามอลมากินไว้ก่อน
คนเราส่วนใหญ่ที่ไม่สบายก็เป็นแค่ปวดหัวตัวร้อนหรือไข้หวัดธรรมดาๆ
เมื่อได้พาราเซตามอลก็ทุเลาขึ้น พาราเซตามอลเลยกลายเป็นยาประจำบ้าน
ที่ขายดิบขายดีกินกันเป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะปวดหัว ไข้หวัด ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง
เลยเถิดไปถึงปวดท้อง เวียนศีรษะ ซึ่งอันที่จริงคงช่วยแก้อะไรไม่ได้
แต่ก็ทำให้สบายใจว่าได้กินยาแล้ว ทว่าใครจะรู้บ้างว่าอันที่จริงพาราเซตามอลไม่ใช่ยาเทวดา
ที่รักษาได้สารพัดโรค นอกจากนั้นถ้ากินมากเกินขนาดยังอาจะเป็นผลร้ายต่อร่างกายเสียด้วยซ้ำ
ภัยที่คาดไม่ถึง
ในสหรัฐอเมริกาซึ่งมีการควบคุมการใช้ยาอย่างรัดกุม ได้ศึกษาพบว่า พาราเซตามอล
ยาที่คิดกันว่าไม่มีพิษมีภัยหากไม่กินเกินขนาดและยาวนานติดต่อกันนั้น แท้จริงแล้วมีอันตรายที่ต้องพึงระวังอีก
หลายอย่าง อันตรายที่พบได้บ่อยขึ้นเรื่อยๆคือเป็นพิษต่อตับ จากการสำรวจพบว่าพาราเซตามอลเป็น
ตัวการทำให้ตับวายได้บ่อยกว่ายาแก้โรคเบาหวานที่ชื่อ เรซูลิน ที่ถูกประกาศห้ามใช้ไปแล้วด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ในประเทศอังกฤษยังมีผู้พยายามฆ่าตัวตายโดยใช้พาราเซตามอลมีอัตราสูงจนน่าตกใจ
จนต้องจำกัดการซื้อยาตัวนี้แต่ละครั้งมิให้มากเกินจำนวนที่กำหนด เสี่ยงตายโดยไม่ตั้งใจ
การใช้พาราเซตามอลเกินขนาดจนถึงขีดอันตราย ส่วนมากเกิดโดยไม่ตั้งใจ เมื่อแรกออกสู่ตลาด
พาราเซตามอลชนิดเม็ดมี 2 ขนาด คือ 325 มก. และ 500 มก. ผู้ใช้คิดว่าต้องกินครั้งละ 2เม็ด
ถ้าเป็นครั้งละ 325 มก. ก็ไม่เท่าไร แต่ถ้าเป็นขนาด 500 มก. กินเป็นครั้งคราววันละไม่เกิน 8 เม็ด
เพียง 1-2 วันก็พอไหว แต่ถ้ากินเป็นเวลายาวนานก็จะเกิดอันตรายต่อร่างกายโดยเฉพาะตับ
สาเหตุที่ทำให้ได้ยาเกินขนาดอีกอย่างเกิดขึ้นเนื่องจากพาราเซตามอลเป็นตัวยาหนึ่งที่ถูกผสมลงในยา
หลายชนิด เล่น ยาแก้หวัดและยาคลายกล้ามเนื้อ ฉะนั้นใครที่กินยาจำพวกนี้แล้วกินพาราเซตามอล
เพิ่มเข้าไปอีก จึงได้รับยาเกินขนาดโดยไม่รู้ตัว การเอาพาราเซตามอลต่างชนิดผสมกันก็อาจเกิดอันตรายได้
พาราเซตามอลมีหลายรูปแบบ ความเข้มข้นของยาก็ต่างกันไป
เรื่องที่ควรระวังอีกเรื่องคือ การกินพาราเซตามอลควบคู่กับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น ไวน์หรือ
เหล้าผสม เพราะมันจะอันตรายต่อตับรุนแรงยิ่งขึ้น ถึงขนาดบางรายต้องเปลี่ยนตับกันมาแล้ว
ผู้ปฏิบัติงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคหลายรายต้องการให้ติดป้ายเตือนถึงเรื่องพิษของพาราเซตามอล
ต่อตับให้เห็นได้ชัดเจน พวกเขามีความเห็นว่าผู้บริโภคส่วนมากไม่ค่อยคำนึงว่าการกินยาตัวนี้เกินขนาดเป็นไปได้
โดยง่ายจากความพลั้งเผลอ บางคนกินติดต่อกันนานวันเกินไป บ้างก็กินยาขณะท้องว่าง
หรือซื้อมาเพิ่มเสริมฤทธิ์ยาอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนบางคนมีความไวต่อยาสูง กินเพียงไม่มากก็มีผลร้ายต่อตับได้
ยาทุกชนิดเปรียบเหมือนมีดสองคม มีคุณอนันต์แต่ก็อาจมีโทษมหันต์ถ้าใช้ผิดวิธีหรือไม่ระวังรอบคอบในการใช้
ข้อมูล...นิตยสารใกล้หมอ