หน้า 1 จากทั้งหมด 1

มีบทคววามมาฝากครับ "รสชาติของชีวิต"

โพสต์เมื่อ: อังคาร มี.ค. 30, 2010 00:44
โดย Liam_Miller
ใครคนหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งคนไทยไปท่องฝรั่งเศส เข้าภัตตาคารและสั่งอาหารมาทาน เมื่อบริกรยกอาหารมาเสิร์ฟ คนไทยก็ควักเครื่องปรุงสารพัดที่เตรียมมาทำการปรุงรสเป็นการใหญ่

พ่อครัวฝรั่งเศสตะลึงและโกรธมาก บอกว่าอาหารที่เขาทำมาดีที่สุดแล้ว การใส่เครื่องปรุงโดยไม่รู้ความเป็นการทำลายรสอาหาร

เชื่อว่าพ่อครัวฝรั่งเศสคงไม่ได้โมโหคนกินที่ไม่รู้จักมารยาทและวัฒนธรรมของเขา แต่คงอยากตั้งคำถามว่า "รู้ไหมว่าอะไรคือรสชาติที่ดีที่สุด?"

พ่อครัวหลายคนไม่คิดว่าอาหารเป็นเพียงอาหาร แต่เป็นศิลปะด้วย ออกแบบทั้งหน้าตาและรสชาติอาหารมาเสร็จสรรพ

การปรุงรสก่อนกินจึงเป็นการดูถูกฝีมือของคนปรุง เหมือนกับการปรับสีผิวของ โมนาลิซา เพื่อตามใจความชอบของตนเอง หรือแต่งหน้ารูปปั้น เดวิด ให้มีเค้าไทยมากขึ้น



วัฒนธรรมการปรุงรสก่อนกินเป็นสิ่งที่ทำให้ผมทึ่งมานานแล้ว

พวกเขาตักพริกป่น 2-3 ช้อน น้ำตาล 2-3 ช้อน น้ำส้มหนึ่งช้อน ถั่วป่นอีกหนึ่งช้อน ปฏิบัติเช่นนี้กับอาหารแทบทุกเมนูโดยเท่าเทียมกัน ตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส เส้นหมี่ต้มยำ ไปจนถึงบะหมี่น้ำเป็ด ทำให้อดตั้งคำถามมิได้ว่า ไฉนแม่ครัวไม่ปรุงรสตามที่ลูกค้าส่วนใหญ่กระทำไปเสียเลย น่าจะช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก

บางครั้งผมก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า พวกเขาชอบปรุงเพราะติดนิสัยปรุงรสก่อนชิม หรือเพราะความจำเป็น?

เนื่องจากปริมาณพริก น้ำตาล น้ำส้มสายชู ถั่ว มากเช่นนั้นกลบรสชาติดั้งเดิมของอาหารหมด หรือทำให้แยกความแตกต่างระหว่างรสชาติอาหารสองชนิดไม่ออก

ปรมาจารย์การครัวชาวฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18 Anthelme Brillat-Savarin เชี่ยวชาญการกินมากจนสามารถเอ่ยคำพูดว่า "บอกผมสิว่าคุณกินอะไร แล้วผมจะบอกว่าคุณเป็นคนยังไง" อาหารบ่งบอกที่มาของคนคนนั้น



ชีวิตก็เหมือนอาหาร บางช่วงจืด บางช่วงหวาน บางครั้งก็เค็ม เผ็ด

ทุกรสมีความหมายของมัน

เราไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตทุกรสในเวลาเดียวกันได้ บางครั้งสุขด้วยรสหวานของรัก บางทีขมด้วยความผิดหวัง เค็มด้วยหยาดเหงื่อของความอดทน เผ็ดด้วยการทดลองทำสิ่งที่ไม่เคยกล้าทำมาก่อน

ชีวิตเป็นการปรับตัวไปตามสถานการณ์ ความสนุกอยู่ที่เราไม่รู้ว่ามีอะไรรอเราอยู่

การปรุงรสชีวิตก่อนก็เหมือนไม่ทันกินอาหาร ก็ปรุงรสเป็นการใหญ่

จะทำอะไรก็วางแผนว่าอย่างนั้นอย่างนี้ล่วงหน้านานเป็นปีๆ จะต้องเป็นเศรษฐีก่อนวัยสามสิบ จะมีแฟนเป็นคนแบบนั้นแบบนี้

แต่ความจริงชีวิตไม่เคยสั่งการได้

เมนูชีวิตเป็นหน้าว่างเปล่าที่รอให้เราเขียนเอง

บางทีชีวิตอาจจะน่าสนุกกว่าหากเราชิมรสของมันให้ครบรส เข้าใจสภาวะและคุณค่าของแต่ละช่วงชีวิต


credit : www.winbookclub.com

30 กันยายน 2549 เขียนโดน วินทร์ เลีวววาริณ ครับบบ

โพสต์เมื่อ: อังคาร มี.ค. 30, 2010 01:01
โดย Growthkeeper
อ่านแล้วรู้สึกดีจัง

โพสต์เมื่อ: อังคาร มี.ค. 30, 2010 01:01
โดย khwn
จะว่าไปก็ยังมีอีกหลายรสชาติที่ไม่เคยสัมผัส ^^

ส่วนการกินอาหาร .. เห็นด้วยจริงๆว่าอย่าเพิ่งปรุ่งก่อน
ชิมต้นดำรับนิดนึง ไม่ถูกใจค่อยปรุง :)

โพสต์เมื่อ: อังคาร มี.ค. 30, 2010 01:10
โดย ลูกชายไรอันกิ๊กส์
ใช้เป็นแนวทางดำเนินชิวิตได้เลยนะเนี่ย *-*

โพสต์เมื่อ: อังคาร มี.ค. 30, 2010 01:17
โดย k_ball_manu
เป้นบทความที่ดี ^^

ชอบๆๆ มีอีกไหม

โพสต์เมื่อ: อังคาร มี.ค. 30, 2010 01:45
โดย insawasd
เขียนดีมากคับ
ผมชอบคับ

โพสต์เมื่อ: อังคาร มี.ค. 30, 2010 10:53
โดย amarinnn
เห็นด้วยขอรับ

ขอบคุณท่าน Liam

โพสต์เมื่อ: อังคาร มี.ค. 30, 2010 12:12
โดย kangsom
ชอบคะ ขอบคุณที่เอามาลง

โพสต์เมื่อ: อังคาร มี.ค. 30, 2010 21:51
โดย Kunnoo
เป็นบทความที่ดีจริงๆ :wink: