หน้า 1 จากทั้งหมด 2

iPad มันคืออิหยังน้อ มาดูกัน

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 01:26
โดย Little_Devil_15
บทความต่อไปนี้อาจไม่เหมาะสำหรับสาวก Apple ในระดับ Brand Royalty นะครับ

อาจมองดูเหมือนการเอา ipad มาปู้ยี่ปู้ยำเด๋วอา่จจะมีสาวกมาแขวะผมได้ว่าไม่ได้ลองของจริงจะไปรู้อะไร อันนั้นผมคงไม่เถียงครับแต่ผมขอพูดไปตามเนื้อผ้าแล้วกัน ว่าข้อดีของมันน่ะมีนะครับ แต่มันเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น ผมจึงมองว่าศักยภาพของมันซึ่งจะใช้ในประเทศของเรายังไม่เพียงพอต่อราคาที่เราต้องจ่ายไป ดังนั้นผมมองว่ามันเป็นการซื้อเทคโนโลยีในอนาคตก่อนคนอื่นๆเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้ว่า Apple ผลิตมาขายแบบสั่วๆนะครับ ของที่ได้มาแน่นอนว่ามันมีคุณภาพ อันนี้ผมทราบครับ ขออย่าได้เข้าใจกันผิดนะครับ


<center>------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------</center>


หลายๆท่านที่คลุกคลีอยู่ในวงการคอมพิวเตอร์หรือมักจะอัพเดตข่าวคราวไอทีกันอยู่เป็นประจำก็น่าจะเคยได้ยินชื่อของเจ้า "ipad" กันมาอย่างน้อยก็ครั้งนึงนั่นแหละ แต่จะมากน้อยตื้นลึกหนาบางนั้นก็คงจะแตกต่างกันไปตามความสนใจของแต่ล่ะท่านล่ะครับ


ซึ่งหากใครที่ยังไม่เคยได้ยินหรือกำลังสนใจมันอยู่ก็มาดูข้อมูลและรายละเอียดพร้อมทั้งภาพประกอบกันอย่างคร่าวๆซะหน่อยดีกว่าครับ (ขอไม่เจาะลึกครับ เพราะบอร์ดเราไม่ใช่้บอร์ดคอม ก็เอาพอหอมปากหอมคอแล้วกันเนอะ)

<center>รูปภาพ</center>


ipad นั้นเรียกได้ว่าเป็นลูกครึ่ง(ควบ2)(ยิง3ลูกกินเต็ม พะนะ) ไม่ดีๆไม่สนับสนุนให้เล่นการพนันครับไม่เชื่อมาพนันกันดูได้ เอ้านอกเรื่องไปไกล ipad นั้นเป็นลูกครึ่งระหว่าง iphone และ Mac Book ครับ

<center>รูปภาพ</center>

เจ้า ipad มันก็มีหน้าตาอย่างภาพด้านบนนี่แหละครับ สำหรับข้อมูลทางกายภาพ iPad และจุดเด่นของมันคือมีหน้าจอ 9.7 นิ้ว หนาเพียง 0.5 นิ้ว ใช้ซีพียู Apple A4 ที่ทางบริษัทผลิตขึ้นเอง สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง(นานเหมือนกันนะเนี่ย) เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi และเครือข่าย 3G ได้ (ใส่ซิมแบบ Micro SIM)

<center>รูปภาพ</center>




โดยชุดมาตรฐานของ ipad นั้นจะไม่มี keyboard มาให้แต่ใช้คีย์บอร์ดแบบทัช ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในมือถือแบบทัชสกรีนหลายๆรุ่นในปัจจุบัน (ทำให้ดูหรูหรา) แต่ในแง่ของการใช้งานนั้น การทัชหากไม่ไหลลื่น (ซึ่งมันไม่ไหลลื่นแน่) ก็จะทำให้การพิมทำได้ยากมาขึ้น ก่อความรำคาญได้เช่นกัน (แต่ก็มีชุดคีย์บอร์ดที่สามารถต่อเสิรมเข้าไปสำหรับใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพมากขึ้น)
<center>รูปภาพ
รูปภาพ</center>



ใน ipad นั้นก็จะใส่ชุดโปรแกรมมาตรฐานของ iphone เข้ามาให้อันได้แก่ พวก browser การดูหนัง ฟังเพลง รูปภาพ iwork (โปรแกรมจัดการพวกเอกสารของ apple เค้าล่ะ )และอื่นๆดังที่ iphone มีซึ่งปัจจุบันมีชุดโปรแกรมากมายกว่า 140000 โปรแกรม เค้าว่าอย่างนั้นนะ(ผมก็ไม่เคยใช้หรอกครับ ไม่มีปัญญาหุหุ) แต่ก็แน่นอนครับ เสียตังค์กันไปตามระเบียบ แต่นั่นก็ไม่ถือเป็นข้อเสียของมันแต่อย่างใดสำหรับผู้ที่มีกำลังทรัพย์ขนาดใช้ iphone หรือ ipad ได้



รายละเอียดเล็กๆน้อยๆในส่วนอื่นๆของเจ้า ipad แบบคร่าวๆครับ


CPU : 1GHz Apple A4

แบตแบบ lithium-polymer battery 25 watt

- 10 ชั่วโมงสำหรับการใช้ WI-FI หรือฟังเพลง

- 9 ชั่วโมงสำหรับการใช้งานผ่าน 3G

มีเซ็นเซอร์ที่ใช้สำหรับหมุนหน้าจอใช้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน

มีระบบฟิงเกอร์ปรินท์

มี USB Connector (แต่ผมไม่เห็นว่ามันอยู่ตรงไหนแฮะ)

ความจำแบบ Flash Memory (ขนาดก็แล้วแต่ราคาครับ)

ช่องเสียบหูฟัง สเตอริโอ 3.5 มม

ลำโพงแบบบิลด์อินแต่เป็นโมโนนะ

Bluetooth 2.1 + EDR technology

Wi-Fi (802.11a/b/g/n)

GSM/EDGE (850, 900, 1800, 1900 MHz)

และรองรับระบบ 3G




อืมมม จะว่าไปมันก็คือ iPhone ขนาดใหญ่สินะ หุหุ อย่่ากระนั้นเลยครับ ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นการแสดงผลและการประมวลผลมันก็ย่อมต้องดีขึ้นตามไปด้วยครับ และแน่นอนครับ ส่วนประกอบของอุปกรณ์และฟังชั่นต่างๆของ Apple ไม่ใช่แค่อุจจาระๆ จับมายัดๆใส่ให้เราใช้ๆกันไปอย่างแน่นอน




<center>รูปภาพ</center>




ทีนี้จากบรรทัดนี้ไปเป็นการความคิดของผมล้วนๆนะครับโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

ณ เวลานี้ถามว่า ipad ให้อะไรกับเรานอกจากเป็น iphone ที่มีขนาด 9.7 นิ้ว มันสามารถใส่ซิืมได้นะครับแต่เป็นแบบ Micro SIM ซึ่งไม่ค่อยมีคนใช้กันหรืออย่างน้อยในบ้านเราก็หายากล่ะ และถ้าจะว่าไปแล้ว ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องที่ถึงแม้จะมี CPU ที่รันได้เร็วกว่า iphone ถึง 2 เท่าแต่มีแรมเท่ากันที่ 256 MB ในส่วนนี้ระหว่าง iphone กับ ipad สำหรับผมว่า iphone ดูจะเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลมากกว่า ทั้งในแง่ของความเป็นโทรศัพท์ได้ด้วย และการพกพาที่สะดวกมากกว่า (ก็แน่ล่ะอันเท่าฝาเข่งยกไปโทรคงพิลึก หุหุ)



และต่อให้จุดเด่นของ ipad นั้นอยู่ที่หน้าจอขนาด 9 นิ้ว (ซึ่งแน่นอนมันใหญ่กว่า iphone) ผมก็ยังคิดว่าเราซื้อเน็ตบุคดีๆซักเครื่องนึงจะมีการใช้งานที่หลากหลายและอเนกประสงค์มากกว่า หรือสำหรับใครที่เป็นสาวกของ apple ผมก็มองว่าการซื้อ Mac book ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ฉลาดกว่า เพราะอย่างน้อยน้ำหนักและขนาดของจอก็ไม่ได้กินกันมากมาย แถม Mac Book ก็ย่อมทำอะไรได้หลากหลายกว่าเยอะแยะ (ถึงแม้ ipad จะสะดวกในการพกพาและใช้งานอินเตอร์เน็ตทั่วๆไปได้ง่ายกว่า เพราะไม่ต้องเปิดเข้าเปิดออก ดังนั้นก็อยู่ที่การใช้งานครับว่าเราใช้อะไรมากกว่ากัน ถ้าหากเป็นการเช็คเมล์ข่าวสาร ตามหุ้น ลุ้นหวย ipad ก็ดูจะเป็นคำตอบที่ดีได้เช่นกันครับ)
ทั้งนี้และทั้งนั้นราคาของ Macbook กับ ipad ก็ต่้่างกันมากโขนะครับ


ผมไม่ได้มีอะไรไม่ชอบหรือไม่พอใจ ตลอดจนไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับแบรนด์ใดๆทั้งสิ้นครับ ผมนับถือความเป็น Apple ครับที่กล้าๆขึ้นมาทาบรัศมีของ Microsoft หากแต่สิ่งไหนดีไม่ดีัผมก็พูดไปตามที่เห็น ว่ากันไปตามที่คิดและที่มันเป็นครับ แต่ละค่ายแต่ล่ะผลิตภัณที่หลายๆค่ายบรรจงถีบออกมานั้นมันมีทั้งดีและก็ไม่ดีปะปนกันไปครับ จะหาที่มันไร้ที่ติเลยในสมัยนี้ก็ดูจะเป็นไปไม่ได้ เฮ้อออ ซึ่งสุดท้ายแล้วมันก็ย่อมขึ้นกับความพึงพอใจและกำลังทรัพย์ของแต่ล่ะท่านครับ หากท่านใดมีเม็ดเงินในกระเป๋ามากก็ซื้อไปเถอะครับ คิดซะว่าเป็นค่าสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆก่อนใครๆ


แต่สำหรับท่านที่เม็ดเงินที่ต้องออกจากกระเป๋าไปทุกบาททุกสตางค์ต้องคุ้มค่าที่สุด(เหมือนผม จะว่างกก็ได้อิอิ) ก็ต้องพิจารณาถึงประโยชน์ของมันกันหน่อยล่ะครับจริงไหม สรุปง่ายๆครับถ้าหากคิดว่าจะซื้อจริงๆ ลองกลับไปนอนก่ายหน้าผากดูอีกซักรอบครับว่า จะซื้อ iPhone หรือ Mac Book ดีโดยคำนึงถึงการใช้งาน หากค่อนไปทางไลฟ์สไตล์ที่ต้องเดินทาง แค่เข้าเล่นเน็ตดูหนังฟังเพลงระหว่างเดินทาง iPhone ก็ดูเป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าจะเอาให้ครอบคลุึมหน่อยก็ขยับขึ้นไปเป็น Mac Book ก็ดูจะสมเหตุสมผลกว่าครับ




หมายเหตุ : iPad มีทั้งหมด 6 รุ่นย่อย โดยแบ่งเป็นรุ่นที่มีและไม่มี 3G (รุ่นที่ไม่มี 3G ต้องเชื่อมกับ Wi-Fi เท่านั้น) หน่วยความจำมี 3 ขนาดคือ 16GB, 32GB, 64GB รุ่นต่ำสุดคือ 16GB ไม่มี 3G เริ่มต้นขายที่ราคา 499 ดอลลาร์ หรือประมาณ 17,000 บาท (วางจำหน่ายไปแล้วนะครับ)

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสเป็คอย่างละเอียดของ ipad ครับเผื่อใครจะสนใจ

http://www.apple.com/ipad/specs/


สำหรับวันนี้ก็คงต้องขอกล่าวคำอำลากันเพียงเท่านี้ครับ หากบทความนี้ไม่เป็นที่พอใจแก่ท่านใด ก็ต้องขออภัย และกรุณา โต้แย้งมาอย่างมีเหตุผลครับ ผมยินดีรับฟัง และมันก็จะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกท่านอื่นๆด้วยครับผม :lol:

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 01:27
โดย Lonely_24'hr
สุดยอดเลย เน๊อะ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 01:35
โดย Minkize'
สวยยย

ยอดขายคงทะลุเป้า ชัวร์...

ขอบคุณ....สำหรับ ข้อมูลดีดีน่ะ พี่อ้น ^^

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 01:56
โดย Hargreaves_4
17,000

TT

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 02:10
โดย Little_Devil_15
Hargreaves_4 เขียน:17,000

TT


หุหุ อันนั้นคือถูกสุดนะครับ :?

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 02:17
โดย Minkize'
ป๋าา...อยากได้อะ

ซื้อให้เครื่องนึง....น่ะ น่ะ น่ะ :lll:

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 02:19
โดย Little_Devil_15
minkize เขียน:ป๋าา...อยากได้อะ

ซื้อให้เครื่องนึง....น่ะ น่ะ น่ะ :lll:


เอา Vivaz มาแลกสิ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 02:23
โดย Minkize'
ชิ๊....เอา pct ไปก่อนละกัน

555555555555555.

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 07:35
โดย adriano10
ผมว่าในอนาคต Ipad จะเป็นอุปกรณที่คนระดับกลางที่อยากใช้งาน macbook จะใช้กัน เเต่อย่างว่าก็สำหรับอนาคตจริงๆเเหละครับ........เเต่อยากได้อะ 555+

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 08:35
โดย ~Alex~
17,000


....


เก็บอิกนานเลยทีเดียวววว

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 10:43
โดย jacknani1
ได้เห็นก็บุญแล้ว - -

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 10:48
โดย another789
17000 นี่ถูกสุดแล้ว โอ้โห!!!!!

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 15:44
โดย neo4ty
อยากได้ อยู่ รอ ขึ้นปี1

ค่อยมาเลือกกัน ระหว่าง ipad กับ โนตบุ๊ค

^^

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 16:24
โดย manutd_girl_w
เราว่ามันเหมาะกับผู้ใช้งานบางกลุ่มนะคะ
แบบมันใหญ่เทอะทะเกินไป
ถ้าจะพกก็พกโน้ตบุ๊คไปเลยไม่ดีกว่าหรอ

อันนี้ความเห็นส่วนตัวค่ะ แต่ถ้ามีเงินเหลือๆก็คงจะซื้อไว้ดูเล่นสักเครื่องอ่ะนะ ฮ่าๆๆ ฝันเฟื่องไปเรื่อย

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 21:17
โดย Barga1n
another789 เขียน:17000 นี่ถูกสุดแล้ว โอ้โห!!!!!


ของมันดีกว่า IPHONE มันก็ต้องแพงกว่า IPHONE สิครับ