หน้า 1 จากทั้งหมด 1

สอบถามเรื่องชาร์จแบ็ตIPHONE3gsหน่อยครับ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 01, 2010 23:22
โดย ลูกพี่
ผมอยากสอบถามว่าการชาร์จแบ็ตที่ถูกต้อง ต้องทำยังไงอะครับ
คือผมสงสัยว่าถ้าเป็นมือถือทั่วไปเราต้องปิดเครื่องก่อนแล้วก็ชาร์จจึงจะไม่ทำให้แบ็ตเสื่อมเร็ว
แต่อย่างiphoneที่ผมงงคือพอปิดเครื่องแล้ว พอเสียบที่ชาร์จเสร็จ ซักพักนึง
มันก็เปิดเครื่องให้เอง ผมไม่อยากจะชาร์จมันตอนเครื่องมันเปิดอยู่
ผมจึงเสียบตอนที่เครื่องมันยังเปิดอยู่ซะเลย ผมเลยอยากจะถามว่า
ถ้าเราเสียบตอนที่เครื่องยังชาร์จอยู๋มันจะทำให้มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ
หรือไม่เป็นอะไรเสียบชาร์จได้เลย และก็ตอนเสียบusbต่อiphoneเข้าคอม
เสียบได้เลยรึเปล่าครับ หรือต้องปิดเครื่องก่อนแล้ววันนึงต่อusbบ่อย 2-3
ครั้งจะทำให้เครื่องมีปัญหารึเปล่าครับ คำถามก็เหมือนตอนชาร์จแบ็ตเลยครับ
ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 01, 2010 23:59
โดย Lonely_24'hr
เทคนิคการ Charge Battery บน iPhone

รูปภาพ

1. ใช้ Battery ให้หมดเกลี้ยงเลย หมดจริงๆ จนน้อง iPhone ปิดตัวเองไปเลย

-พอใกล้หมดจะขึ้นว่า เหลือ 20 % ก็ใช้ต่อไปครับ ยาวววเลย

-ขึ้นมาอีกทีนึงบอกว่าเหลือ 10% ก็ยังใช้ต่อครับ จากนั้นเครื่องจะปิดตัวเองไปครับ

-แต่ก็ให้เปิดมันมาใหม่ครับ ใช้ไปเรื่อยๆ มันก็ปิดอีก ก็เปิดใหม่ไปเรื่อยๆครับ ทำไปเรื่อยๆจนกว่า ตอนที่เราเปิดเครื่องใหม่ มันจะเป้นรูป ปลั๊กไฟกับแบตเตอรี่ ในหน้าดำๆ ครับ (คือถ้าเราเปิดมาเป็นหน้าอย่างงั้นเราจะทำอะไรไม่ได้แล้วไฟเลี้ยงมีไม่พอ)

-พอได้หน้า ฟลั๊กไฟ+แบตเตอร์รี่ แล้ว ก็รอให้มันปิดหน้านั้นไปเองครับ


2. Charge Battery น้อง iPhone ให้เต็มปรี่ โดยการใช้ Dock (ควรจะ Charge ไม่น้อยกว่า 8 ชม. รวมทั้งปิด iPhone ให้ดับสนิทด้วย)

3. เอาน้อง iPhone ออกจาก Dock แต่ยังคงปิดไว้อีก 8 ชม. เพื่อให้ Battery เปลี่ยนค่าความจำของตัวเองใหม่

4. เปิดใช้น้อง iPhone ให้ Battery หมดเกลี้ยงอีก 1 รอบ

5. ทำการ Charge แบบข้อ 2 อีก 1 รอบ และจะเห็นได้ว่า เมื่อเรา Charge ไฟในรอบต่อๆไปจนเต็ม Battery Meter ที่เป็นไอคอนสีเขียวๆใหญ่ๆตอนเรา Charge Battery จะเรืองแสงวาวๆได้ด้วย นั่นคืออาการของ Battery ที่เต็มปรี่อย่างถูกต้อง


การทำตามขั้นตอนนี้ เป็นเหมือนการทำให้ Battery จำค่าเต็มๆใหม่ เพราะเมื่อ iPhone ออกมาจากกล่อง แต่ละเครื่องมีค่า Battery ไม่เท่ากัน จึงทำให้ Battery งงๆกะตัวเอง แต่เมื่อเราทำการ reset ใหม่ ก็เหมือนได้ให้ Battery เริ่มต้นชีวิตใหม่



Credit คุณ Babypure และคุณ CaptPae จาก PDAMobiz.com นะครับ

โพสต์เมื่อ: เสาร์ ต.ค. 02, 2010 00:12
โดย numkala
แบตของ iphone เดี๋ยวนี้เป็น Li-ion ครับ ไม่ใช่ Ni-Cad ครับ




ซึ่งการชาร์จแบบ Ni-Cad อาจเป็นแบบที่เราคุ้นกันคือนับเป็น cycle count
เสียบทีก็นับเป็นหนึ่งครั้ง ยิ่งใช้แบตหมดเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งคุ้มเท่านั้น
แถมยังยืดอายุแบตให้ด้วย

แต่กับ Li-ion เป็นอะไรที่ต่างไปครับ!!!!!!

"แบตเตอร์รี่แบบ Li-Ion และรวมถึงแบตฯรุ่นใหม่ Li-Polymer ด้วย นั้นจะ นับรอบการชาร์จ (Cycle) ของ แบตฯ ของตัวมันเอง ซึ่งรอบการชาร์จของแบต Li-Ion คือ ชาร์จรวมกันแล้ว 85 - 95 % ขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตด้วย) ถึงจะนับเป็น 1 รอบ ไม่ใช่จำนวนครั้งในการชาร์จ อย่างที่เข้าใจกัน ตัวอย่าง เช่น คุณชาร์จไปครั้งแรก ใช้ไปแค่ 20% ซึ่งแบตของคุณในตอนนั้นเหลือ 80% คุณก็ชาร์จไฟเข้าไปใหม่ คุณจะสามารถทำอย่างงี้ไป 5 ครั้ง ถึงจะ นับ 1 รอบ การชาร์จ

"แล้วอีกอย่างถึงแม้แบตเราจะไม่ได้ทำการชาร์จเลยเป็นเวลานานก็ตามแบตก็จะเสื่อมไปเองภายในเวลา 3 - 5 ปีครับ อันเนื่องมากจากการทำงานของสารเคมีภายในที่หมดคุณภาพไปครับ หรืออาจจะเป็นเพราะข้อจำกัดของสารประกอบและกรรมวิธีของมันเองมากกว่าครับ อันนี้ผมไม่ขอตอบแน่ชัดเพราะว่ายังไม่มีรายงานใดๆ ออกมาครับจึงสรุปได้ไม่เต็มปากครับ แต่ที่สังเกตก็เป็นเช่นนั้นครับ ใช้ไม่ใช้ก็มีอายุเท่ากันแต่ใช้แล้วเนี่ยมันจะสั้นกว่า แต่ก็ไม่ต่างกันมากนักขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่างเช่น

* การใช้เครื่องชาร์จที่ได้รับไฟฟ้าที่นิ่งๆ คือการได้รับไฟฟ้าที่ไม่มีไฟตกไฟเกินไฟกระฉาก ครับ อันนี้มีผล ต่อการชาร์จไฟที่มีคุณภาพ 10 - 20% ครับ
* อุณหภูมิในระหว่างการชาร์จ หรือประจุไฟควรประจุที่อุณภูมิปกติ และไม่มีความชื่นมากนักเพราะจะทำให้การถ่ายเทความร้อนทำได้ยากขึ้น
* ขั้วแบตและขั้วส่วนของเสียบสายชาร์จนั้นต้องมีการส่งผ่านไฟที่สม่ำเสมอ เพราะว่าทำให้การประจุไฟหรือการชาร์จเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลที่ดี
* การหลีกเลี่ยงการทำแบตตกพื้นเพราะจะทำให้หน้าสัมผัสภายในเสียหรือหลุด ได้โดยที่เราไม่รู้ รวมถึงทำให้สารประกอบต่างๆ รั้วไหลได้ (เป็นต้นเหตุให้ระเบิดได้)
* ควรใช้แบตอย่างถูกต้องตามแบบสารประกอบนั้นๆ เช่น NiCd ให้ใช้หมดก่อนแล้วชาร์จ NiMH , Li-ion , Li-Poly ลักษณะการใช้งานคล้ายมาก จะชาร์จตอนไหนก็ชาร์จเพียงแต่ NiMH นั้นยังมี memory effect ซึ่ง NiMH นั้นเป็นแบตที่เป็นต้นแบบของ Li-ion เลยก็ว่าได้เพราะว่าเอาแก้ไขส่วนของ memory effect ของ NiCD โดยเฉพาะครับ แต่ว่า Li-ion ทำได้ดีกว่า ส่วน Li-ion กับ Li-Poly นั้นแทบจะไม่มีหรือไม่มีเลย
* การชาร์จในตอนแรกที่ได้รับแบตมานั้น NiCD , NI-HM นั้นใช้ชาร์จ 12 - 14 ชม. 3 ครั้งทุกครั้งใช้แบตให้หมด เพื่อเป้นการกระตุ้นธาตุ Ni ครับ ส่วน Li-ion และ Li-Poly นั้นไม่ต้องครับ แค่ทำให้มันเต็มหรือชัวช์ๆ ก็ 3 ครั้งแรกชาร์จสัก 6 ชม. ก็พอครับ แต่ Li-ion อย่าทำให้แบตหมดเกลี้ยงเป็นอันขาดนะครับ เพราะจะทำให้แบตเสียได้ ส่วน Li-Poly นั้นแก้ไขส่วนนี้มาแล้ว และเป็นแบตที่มีน้ำหนักเบากว่า Li-ion ครับ
* หวังว่าคงเข้าใจพอสมควรแล้วนะครับ ลองหาอ่านได้จากหนังสือ แบตเตอร์รี่ของ Se-ed ครับผมจำได้ว่าการ สร้าง NiMH นั้นสร้างมาเพื่อลบจุดด้อยเรื่อง memory effect ของ NiCD ครับแต่ว่าไม่มากพอซึ่งมีบ้างแต่ไม่มีเท่าครับแต่ได้ความจุที่มากกว่า NiCD มากเลยนั้นคือสิ่งที่ดีของ NiMH ที่ดี แต่ด้อยตรงที่ NiCD นั้นคายประจุได้สม่ำเสมอและเที่ยงตรงมากที่สุดในแบตที่ชาร์จใหม่ได้ครับ …………… ทุกอย่างมีข้อดีและข้อเสียของมันครับ"

สรุป

* แบตของ iphone เดี๋ยวนี้เป็น Li-ion ครับ ไม่ใช่ Ni-Cad ครับ
* ชาร์จแบตไปเหอะครับ เหลือ 70-80% ก็ชาร์จได้ครับ ไม่ต้องรอให้ลดเหลือ 5% ยิ่งต่ำไปมันไม่ดีครับ
* เครื่องชาร์จก็เป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะดูแลแบตเราครับ
* อายุแบตอยู่ประมาณ 3-5 ปีโดยเฉลี่ยตามการดูแลตามข้อมูลเบื้องต้น
* ไม่ควรให้แบตนิ่งโดยไม่มีไฟผ่านเป็นเวลานานๆ ครับ แบตพวกนี้ต้องการการกระตุ้นครับ
* บทความนี้รวมถึงแบต notebook ที่เป็น Li-ion ด้วยครับ
* การ ซื้ออุปกรณ์มือสองควรสอบถามเรื่องแบตด้วย ทั้งเรื่อง cycle count และอายุของแบต ส่วนอุปกรณ์มือหนึ่งควรถามเรื่องการประกันของแบตด้วย ซึ่งบางรายอาจให้ระยะเวลาประกันของแบตไม่เท่ากับตัวเครื่อง
* อย่าทำแบตตกหรือกระแทกแรงๆ




เครดิต

http://www.smart-mobile.com/forum/viewt ... f60353e68d



8 วิธียืดอายุแบตเตอรี่ iPhone ให้ใช้งานได้นานขึ้นกว่าเดิม


ปิดคุณสมบัติการแจ้งเตือน

ปิด push e-mail

ปิดการใช้สัญญาณวิทยุทุกประเภทที่ไม่ได้ใช้

ปิดการทำงานในแบคกราวด์ (background tasks)

ตั้งค่าความสว่างของหน้าจอเป็นแบบปรับอัตโนมัติ

ปิดการตอบสนองของเกมส์ที่ใช้ force feedback

หาตัวช่วยอย่างปลอกสำรองแบตฯ (battery back-up case)

ซิงค์ iPhone อย่างสม่ำเสมอ



เครดิต

http://www.arip.co.th/tips.php?id=411884