หน้า 1 จากทั้งหมด 1

คุณจะน้อยใจหรือไม่? สำหรับคนไม่เคยอ่าน

โพสต์เมื่อ: อังคาร เม.ย. 26, 2011 15:37
โดย benzsamui2508
รูปภาพ
มหาตมะ คานธี

รูปภาพ
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

รูปภาพ
ชาร์ลี แชปลิน

รูปภาพ
หลุยส์ ปาสเตอร์.

รูปภาพ
เอลวิส เพรสลีย์

รูปภาพ
ลุดวิก ฟอน บีโทเฟน

รูปภาพ
ฮาร์โรลด์ แซนเดอร์ส

รูปภาพ
สตีเฟน ฮอว์คิง

รูปภาพ
ชาร์ลส บรอนสัน

รูปภาพ
อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์




คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณเป็นคนขับรถสิบล้อส่งของในชนบททั้งๆ ที่ใฝ่ฝันว่าชีวิตนี้จะได้เป็นนักร้องดังก้องโลก
คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณมีพ่อขี้เมาบังคับให้คุณเล่นดนตรีให้ได้เพื่อหาเงินไปซื้อเหล้าให้พ่อให้ได้มากที่สุด และคุณยังต้องเล่นดนตรีหาเลี้ยงตัวตลอดชีวิตแม้กระทั้งหูหนวกไปแล้ว

คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณเกิดมาในครอบครัวยากจน พ่อแม่แยกทางกัง คุณต้องยืนต่อแถวสมัครเป็นนักแสดงประกอบฉากละครเวที ตั้งแต่อายุ 12 ขวบ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงแม่ที่กำลังป่วย

คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณทำมาหากินอาชีพไหน ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จเลย ตั้งแต่หนุ่มจนแก่ ครอบครัวขอแยกทางไปที่อื่น

คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณถูกครูผู้สอนให้ความเห็นว่าเป็นคนหัวช้าปัญญาทึบไม่น่าจะเอาดีทางไหนได้เลย

คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณพิการจนพูดไม่ได้ ขยับแขนขาไม่ได้ เป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงคอลงไป ต้องนั่งอยู่บนรถเข็นไปตลอดชีวิต

คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณถูกดูถูกเหยียดหยาม เพราะคุณเป็นคนเอเชียผิวเหลือง ไม่ใช่เป็นฝรั่งผิวขาวผู้ถือตัวว่าเป็นชาติเจริญกว่า เมื่อขึ้นรถไฟชั้น 1 ร่วมกับฝรั่งแล้วคุณกลับถูกไล่ลงกลางทางเพราะฝรั่งไม่อยากนั่งรถไฟชั้นหนึ่งร่วมกับคุณ

คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณมีพ่อแม่เป็นคนต่างด้าวอพยพ ต้องทำงานในเหมืองถ่านหินหาเงินมาจุนเจือตัวเอง โดยไม่รู้อนาคตข้างหน้า

คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณถูกพ่อแม่ทิ้งไม่เหลียวแล ต้องอาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ยากจน ตกจากตึกแถวชั้น 2 จนพิการเดินไม่ได้หลายปี และถูกตัดขาข้างหนึ่งในภายหลัง เคยล้มเหลวในการทำงานจนกินยาฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ ต้องทำงานหนักวันละ 14-18 ชั่วโมง และตายในขณะที่ยังทำงานอยู่เมื่ออายุเกือบ 80 ปี
คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณกลายเป็นคนหมดเนื้อหมดตัว กลายเป็นครูสอนคนหูหนวก ถูกคนรอบข้างดูถูกว่าสติเฟื่องประดิษฐ์แต่ของเล่นไร้สาระ

คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณเป็นลูกช่างฟอกหนังจนๆ จากต่างจังหวัด เข้าเรียนในโรงเรียนก็ผลการเรียนแย่มากตั้งแต่ชั้นประถม-มหาวิทยาลัย ยากจน จนแม้กระทั่งขณะที่เรียนมหาวิทยาลัยก็ยังไม่ได้ทานอาหารครบทุกมื้อ หยิบจับทำงานอะไรก็มีแต่คนสบประมาท

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ถ้าคุณเคยมีเรื่องให้ต้องน้อยใจไม่ว่าจะคล้ายกันหรือจะต่างกับที่ได้กล่าวมาบ้าง สิ่งหนึ่งที่อยากบอกต่อไปนี้ก็คือ... มีคนจำนวนมหาศาล นับไม่ถ้วนบนโลกนี้ที่เคยเป็นแบบคุณมาแล้วเหมือนกัน ทุกคนต่างมีความทุกข์กายทุกข์ใจ มีช่วงเวลาแห่งความท้อแท้สิ้นหวัง และเคยพบความลำบากยากแค้นแสนสาหัส มาไม่น้อยไปกว่าคุณ

ผมจะเฉลยให้ดูนะครับ....

คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณเป็นคนขับรถสิบล้อส่งของในชนบททั้งๆ ที่ใฝ่ฝันว่าชีวิตนี้จะได้เป็นนักร้องดังก้องโลก...และต่อมาได้กลายเป็นนักร้องจริงๆ ที่ชื่อ เอลวิส เพรสลีย์

คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณมีพ่อขี้เมาบังคับให้คุณเล่นดนตรีให้ได้เพื่อหาเงินไปซื้อเหล้าให้พ่อให้ได้มากที่สุด และคุณยังต้องเล่นดนตรีหาเลี้ยงตัวตลอดชีวิตแม้กระทั่งหูหนวกไปแล้ว...ต่อมาถูกจารึกชื่อในนามหนึ่งในนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลนาม ลุดวิก ฟอน บีโทเฟน

คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณเกิดมาในครอบครัวยากจน พ่อแม่แยกทางกัง คุณต้องยืนต่อแถวสมัครเป็นนักแสดงประกอบฉากละครเวที ตั้งแต่อายุ 12 ขวบ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงแม่ที่กำลังป่วย...และได้กลายมาเป็นนักแสดงอมตะที่มีคนรักทั้งโลก แบบ ชาร์ลี แชปลิน

คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณทำมาหากินอาชีพไหน ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จเลย ตั้งแต่หนุ่มจนแก่ ครอบครัวขอแยกทางไปที่อื่น..เพิ่งจะมาประสบความสำเร็จตอนแก่ชราตอนทำอาชีพ ทอดไก่ขายข้างถนน... เช่นเดียวกับ
ฮาร์โรลด์ แซนเดอร์ส เจ้าของตำนาน ไก่ทอด KFC แห่งรัฐเคนทักกี

คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณถูกครูผู้สอนให้ความเห็นว่าเป็นคนหัวช้าปัญญาทึบไม่น่าจะเอาดีทางไหนได้เลย...ต่อมาคุณสอบเข้าโรงเรียนโปลิเทคนิคได้ในครั้งที่ 2 (ครั้งแรกสอบเข้าไม่ได้)...และได้กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกนี้ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณพิการจนพูดไม่ได้ ขยับแขนขาไม่ได้ เป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงคอลงไป ต้องนั่งอยู่บนรถเข็นไปตลอดชีวิต...แต่คุณยังต่อสู้เพื่อให้เรียนจบปริญญาเอก เป็นอาจารย์สอนในม.ชั้นนำของอังกฤษด้วยการใช้อุปกรณ์เลียนเสียงพูดนาทีละ 20 คำ เดินทางไปทั่วโลกด้วยรถเข็น เพื่อบรรยายทฤษฏีวิทยาศาสตร์ชั้นสูงและเขียนหนังสือวิทยาศาสตร์ขายดีแปลเป็นภาษาต่างๆ วางขายทั่วโลก...กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เยี่ยมยอดที่สุด สตีเฟน ฮอว์คิง

คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณถูกดูถูกเหยียดหยาม เพราะคุณเป็นคนเอเชียผิวเหลือง ไม่ใช่เป็นฝรั่งผิวขาวผู้ถือตัวว่าเป็นชาติเจริญกว่า เมื่อขึ้นรถไฟชั้น 1 ร่วมกับฝรั่งแล้วคุณกลับถูกไล่ลงกลางทางเพราะฝรั่งไม่อยากนั่งรถไฟชั้นหนึ่งร่วมกับคุณ...แต่นั่นเป็นแรงบันดาลใจให้คุณต่อสู้ เพื่อความเป็นธรรมระหว่างผิวสีโดยสันติ กลายเป็นแบบอย่างอันประเสริฐของโลกนานเท่านานเช่นเดียวกับ มหาตมะ คานธี

คุณจะน้อยใจหรือไม่?ถ้าหากคุณมีพ่อแม่เป็นคนต่างด้าวอพยพ ต้องทำงานในเหมืองถ่านหินหาเงินมาจุนเจือตัวเอง โดยไม่รู้อนาคตข้างหน้า...ต่อมาเรียนวิชาการแสดงและมีโอกาสทำอาชีพนักแสดงภาพยนต์จนประสบความสำเร็จระดับโลกอย่าง ชาร์ลส บรอนสัน

คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณถูกพ่อแม่ทิ้งไม่เหลียวแล ต้องอาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ยากจน ตกจากตึกแถวชั้น 2 จนพิการเดินไม่ได้หลายปี และถูกตัดขาข้างหนึ่งในภายหลัง เคยล้มเหลวในการทำงานจนกินยาฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ ต้องทำงานหนักวันละ 14-18 ชั่วโมง และตายในขณะที่ยังทำงานอยู่เมื่ออายุเกือบ 80 ปี...ถ้าความพยายามไม่ย่อท้อนั้นเองทำให้คุณกลายเป็นนักแสดงละครเวทีที่มีชื่อเสียงทั่วโลก เมื่อเดินทางไปถึงประเทศใดก็มีคนมารอต้อนรับนับหมื่นๆคน แสดงละครเวทีวันละ 2 รอบเป็นสิบๆ ประเทศ เมื่อตายไปยังได้รับการจัดงานศพแบบรัฐพิธี มีทหารกองเกียรติยศ เชิญร่างไปตามถนนฌอง เอลิเซ่ส์ ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนและดอกกุหลาบเฉกเช่นเดียวกับ ซาราห์ แบร์นา

คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณกลายเป็นคนหมดเนื้อหมดตัว กลายเป็นครูสอนคนหูหนวก ถูกคนรอบข้างดูถูกว่าสติเฟื่องประดิษฐ์แต่ของเล่นไร้สาระ...แต่ในที่สุดก็สร้างส่งประดิษฐ์ที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งของโลกให้กับเราทุกคน นั่นคือ โทรศัพท์ของ อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ ผู้ซึ่งในวันฝังศพของเขา คนทั่วทั้งทวีปได้หยุดใช้โทรศัพท์พร้อมกันเป็นเวลาหนึ่งนาทีเพื่อไว้อาลัยแกผู้ที่ประดิษฐ์มันขึ้นมา


คุณจะน้อยใจหรือไม่? ถ้าหากคุณเป็นลูกช่างฟอกหนังจนๆ จากต่างจังหวัด เข้าเรียนในโรงเรียนก็ผลการเรียนแย่มากตั้งแต่ชั้นประถม-มหาวิทยาลัย ยากจน จนแม้กระทั่งขณะที่เรียนมหาวิทยาลัยก็ยังไม่ได้ทานอาหารครบทุกมื้อ หยิบจับทำงานอะไรก็มีแต่คนสบประมาท...แต่ด้วยความเพียรและไม่สนใจต่อคำดูถูกนั่นเอง ทำให้สามารถคิดค้นวิธีการถนอมอาหารด้วยการอุ่นในอุณหภูมิที่เหมาะสมหรือเรียกว่า Pasturization (พาสเจอร์ไรเซชั่น) จากนั้นก็คิดค้นวิธีการฆ่าเชื้อโรคที่อาจเกิดขึ้นระหว่างรักษาคนไข้ คิดค้นวิธีการรักษาโรคพิษสุนัขบ้าและความรู้ใหม่ๆ อีกมากมายในการรักษาชีวิตคน จนในที่สุดก็มีสถาบันทางการแพทย์กระจายออกไปทั่วโลก แม้กระทั่งในเมืองไทยที่เรียกว่า ปาสตุระสภา หรือ สถานเสาวภา ในปัจจุบัน ผู้ที่ทำกุศลแกโลกคนนี้คือ หลุยส์ ปาสเตอร์
.
.
.
ทั้งหมดนี้คือ ตัวอย่างของคนจำนวนมากที่คล้ายคลึงกับเราอีกจำนวนมากเช่นกัน นั่นคือ มีอุปสรรคความแร้นแค้นในชีวิตนานัปการ เกิดมาจน พ่อแม่ทิ้ง บ้านแตกแยก ต้องทำงานหนักหาเงินเลี้ยงตัวกับครอบครัว ตั้งแต่ยังเด็ก แม้แต่อาหารก็มีกินบ้างไม่มีกินบ้าง พิการจนไม่น่าจะทำอะไรได้ ไม่มีเงินเก็บ ถูกดูถูกเหยียดหยาม ทั้งชีวิตที่ผ่านมากพบแต่ความล้มเหลว มองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง แต่ด้วยความมานะพยายาม ไม่ยอมแพ้ไม่ว่าจะพบอุปสรรคแค่ไหน พึ่งตัวเอง มากกว่ารอคอยโชคชะตาหรือความช่วยเหลือจากคนอื่น ในที่สุดเขาเหล่านั้นก็ได้นำชีวงิตตัวเองไปสู่ความสำเร็จ ทั้งที่จริงหลักคิดที่เราเคยได้ยินกันมานาน หากแต่อาจยังไม่ได้เชื่อมั่นกันจริงๆ นั่นคือหลักคิดที่ว่า...คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นคนอย่างไรได้

หากเลือกที่จะเป็นคนดี ผลที่ได้ก็คือ การคิดดี พูดดี ทำดี และเป็นคนดี

หากเลือกที่จะเป็นคนเลว ผลที่ได้ก็คือการคิดเลว ทำเลว และเป็นคนเลวในที่สุด

ทุกคนไม่มีใครเลือกชะตาตัวเองในภายภาคหน้าได้ แต่เลือกที่จะทำสิ่งต่างๆ เพื่อที่เป็นแรงหนุนให้เกิด ชะตาดีชั่วภายภาคหน้าได้

ความซื่อสัตย์ในวันนี้ก่อให้เกิดความเชื่อถือในวันหน้า

ความพยายามในวันนี้ก่อให้เกิดความสำเร็จในวันหน้า

ความเอื้ออารีต่อกันในวันนี้ ทำให้เกิดสังคมที่สงบสุขในวันหน้า

เช่นเดียวกับความคดโกง ความเห็นแก่ตัว ความอาฆาตมาดร้าย ความต้องการเอาชนะกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ย่อมนำมาซึ่งผลสะท้อนในอนาคตที่เลวร้ายกว่าอีกหลายเท่าตัว

คุณละ? จะเลือกเป็นคนแบบไหนดี...

เครดิต Dek-d.com

โพสต์เมื่อ: อังคาร เม.ย. 26, 2011 15:39
โดย ThursMarch
ดีนะครับเนี่ย ผมยกนิ้วให้เลย ถึงแม้ว่าจะเคยอ่านมาแล้ว แต่ก็มีประโยชน์มากๆ :wink:

โพสต์เมื่อ: อังคาร เม.ย. 26, 2011 15:51
โดย Rooneygoal
ดูกี่รอบก็แจ่มครับ :wink:

โพสต์เมื่อ: อังคาร เม.ย. 26, 2011 16:05
โดย kantachat35
สุดยอดๆๆ

โพสต์เมื่อ: อังคาร เม.ย. 26, 2011 18:16
โดย BENNETTI
ยอดเยี่ยมครับ เพิ่งเคยอ่าน

โพสต์เมื่อ: อังคาร เม.ย. 26, 2011 19:04
โดย ManU_RooNey
มีสาระดีครับ

โพสต์เมื่อ: อังคาร เม.ย. 26, 2011 20:57
โดย another789
ขอบคุณครับผม

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 29, 2011 17:47
โดย kangmelody
สุดยอดครับดีมากๆ