หน้า 1 จากทั้งหมด 1

[วาไรตี้] ครบรอบ"125ปี ของความซ่า" โค้ก โคคา-โคลา

โพสต์เมื่อ: อังคาร พ.ค. 10, 2011 20:51
โดย berbatov2009
‘โค้ก‘ครบรอบ 125 ปี

รูปภาพ

ย้อนไปเมื่อ 125 ปีที่แล้วถือเป็นวันที่ โคคา-โคลา หรือ โค้ก ได้ถูกคิดค้นขึ้ยมาโดยชาวสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะกลายเป็นผลิตภัณฑ์ยอดฮิตในปัจจุบัน

นายจอห์น เพมเบอร์ตัน ชาวแอตแลนตา รัฐจอร์เจียได้คิดค้นสูตรเครื่องดื่มที่ทำ ให้คลายอาการอ่อนเพลียเหนื่อยล้าชื่อ โคคา-โคลา เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ปี 1886 จากนั้นเป็นต้นมาเครื่องดื่มชนิดนี้ได้กลายมาเป็นสูตรการผลิตเครื่องดื่มที่เป็นของคู่กับคนอเมริกัน

จนถึงเวลานี้ 125 ปีของการครบ รอบคิดค้นโคคา-โคลา เครื่องดื่มชนิดนี้ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นโค้ก และขายไป 200 ประเทศทั่วโลก มีบริษัทจัดจำหน่ายถึง 100 แห่ง และแม้ว่าจะมีการลดสูตรการใส่น้ำตาลในโค้กให้กลายเป็นไดเอท โค้ก แต่ความชื่นชอบของคนทั่วโลกยังไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของโค้กในตลาดเครื่องดื่มเวลานี้อยู่ที่ 17%

ในหนังสือของมาร์ค เพนเดอร์กราสต์ ที่เขียนเรื่อง"For God, Country and Coca-Cola" กล่าวว่า ตอนแรกเมื่อคิดค้นสูตรโคคา-โคลาออกมายังไม่ได้ผลิตขายเป็นอุตสาหกรรม แต่ผลิตเป็นเครื่องดื่มดับกระหายที่ลูกค้าดื่มแล้วเรียกกันว่า "ยาปาฏิหาริย์"และสามารถขายให้กับลูกค้าได้เพียงวันละ 9 แก้ว

ต่อมาในปี 1888 นักธุรกิจชื่ออะสา แชนด์เลอร์ ได้ขอซื้อลิขสิทธิ์การผลิตเครื่องดื่มโคคา-โคลาจากยาปาฏิ-หาริย์ให้เป็นเครื่องดื่มและทำเป็นอุตสาหกรรมขายไปทั่วสหรัฐอเมริกา

ในปี 1919 ส่งออกไปขายในยุโรป เริ่มจากฝรั่งเศสและเยอรมนี จากนั้นข้ามมายังเอเชียและกลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมทั่วโลก การขายลิขสิทธิ์สูตรการผลิตโคคา-โคลาเมื่อ 123 ปีก่อน ทำให้เพมเบอร์ตันเปลี่ยนฐานะจากคนธรรมดามาเป็นเศรษฐีของเมืองแอตแลนตาทันที ทั้งนี้ สูตรการผลิตโคคา-โคลายังคงรักษาเป็นความลับเรื่อยมา

การทำธุรกิจเครื่องดื่มโคคา-โคลาประสบความสำเร็จมาตลอดในศตวรรษที่ 20 ที่ผ่านมา แต่เมื่อเข้าศตวรรษที่ 21 กระแสการต่อต้านอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและไขมันมากเริ่มแพร่หลายไปทั่วโลก

ทั้งนี้ นักโภชนาการกล่าวโจมตีว่าเครื่องดื่มที่เป็นน้ำอัดลมและผสมน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่คือตัวการทำให้เกิดโรคอ้วนในหมู่คนอเมริกันและทั่วโลก

นายมูห์ทาร์ เคนท์ ซีอีโอและประธานบริษัทโคคา-โคลา กล่าวว่า ในปี 2011 ที่ครบรอบ 125 ปี เป็นปีที่ยากลำบากในการเจาะตลาด เพราะผู้บริโภคหันไปดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในรูปแบบอื่นๆมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้จะถูกต่อต้านและโจมตี แต่รายได้สุทธิของบริษัทโคคา-โคลามีมูลค่าอยู่ที่ 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรสุทธิอยู่ที่ 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


by: sanook


รูปภาพ
Thanks: ฝากรูป ตกแต่งภายใน

โพสต์เมื่อ: อังคาร พ.ค. 10, 2011 20:56
โดย Lonely_24'hr
ขอบคุณสำหรับข้อมูลจ้า

ปล.. คุณใช่ไม๊ที่ไปประมูลเสื้อ แล้วชนะ....แล้วก็เงียบหายไปเฉยๆ

โพสต์เมื่อ: อังคาร พ.ค. 10, 2011 20:58
โดย Rooneygoal
Lonely_24'hr เขียน:ขอบคุณสำหรับข้อมูลจ้า

ปล.. คุณใช่ไม๊ที่ไปประมูลเสื้อ แล้วชนะ....แล้วก็เงียบหายไปเฉยๆ



แม่นแล้วๆ เค้า ไม่ให้สิทธิ แล้ว อยากได้มาก 555+ อดไป ครับ

โพสต์เมื่อ: อังคาร พ.ค. 10, 2011 21:06
โดย berbatov2009
Lonely_24'hr เขียน:ขอบคุณสำหรับข้อมูลจ้า

ปล.. คุณใช่ไม๊ที่ไปประมูลเสื้อ แล้วชนะ....แล้วก็เงียบหายไปเฉยๆ


ทุกอย่างอยู่ในนี้ และ จบในนี้ครับ
http://www.redarmyfc.com/board/post-1603961.html

โพสต์เมื่อ: อังคาร พ.ค. 10, 2011 23:32
โดย pipatkpp
Coke อยู่ยืนมา 125 ปีแล้วหรือนี่ :wink: :wink:

โพสต์เมื่อ: พุธ พ.ค. 11, 2011 10:39
โดย Christiano_Rooney
แต่เท่าที่ผมทราบมา ผมเรียนมหาลัยราม อาจารย์เอาหนังสือของฝรั่งมาให้นักเรียนศึกษา ในตำรานี่เค้าบอกว่า โค๊กนี่ไม่ได้ผลิตขึ้นมาเพื่อเป็นยาซึมเศร้านะครับ โค๊กนี้ผลิตขึ้นมาด้วยเพราะแก้ลมท้องอึดโดยในสมัยก่อนจะไม่มีการใส่น้ำตาลลงไป แต่เ้จาของบริษัทโค๊กเกิดไอเดียก็เลยนำมาใส่น้ำตาลลงไปก็เลยเกิดเป็นโค๊กทุกวันนี้ อ่ะครับอันนี้เป็นประวัติความเป็นมาของบริษัทโค๊ก ที่หนังสือเรียนใน ฮาวารด์ได้เรียบเรียงไว้