คนที่ชอบดูหนังตามโรงภาพยนต์เข้ามาครับๆ

ความสกปรกของร้านขายของกินในโรงภาพยนต์ (เตือนใจ) .. เอามาจากกระทู้ในห้องสยามนะครับ
ผมขอเกริ่นก่อนนะครับว่า อยากให้ทุกคนอ่านทุกบรรทัด แล้วเอาไปคิดครับว่าสิ่งที่บริการเราอยู่ตอนนี้มีความสะอาดอนามัยให้เราได้แค่ไหนกัน
เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าของงานเก่าที่ผมไปทำเป็น พาร์ทไทม์ ที่โรงหนังแห่งหนึ่งในห้าง โดยรับหน้าที่เป็นพนักงานขายของกินหน้าโรงหนังหรือที่เรียกว่าคอร์น ซึ่งตอนนี้ผมออกมาแล้วแต่จะเล่าถึงสิ่งต่างๆให้ฟังโดยเฉพาะความสกปรก
วันแรกที่ผมไปทำเขาก็จะสอนวิธีการต่างๆในการป๊อปข้าวโพด การขายน้ำ การลงเครื่อง การนับของ
การนับของนี่แหละครับที่ทำให้ผมรับรู้ได้เลยว่าของที่เรากินอยู่มีความสกปรกแค่ไหน
ในตู้ใ่ส่ถังข้าวโพด แก้วน้ำ พอผมเปิดออกมานี่แหละครับแทบช๊อค แมลงสาบนับร้อยวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ผมอึ้งไปสักพักแล้วก้นับของให้เสร็จ ก็ต้องไปล้างตู้ใส่น้ำแข็งตรงตู้กดน้ำอัดลม ผมก้มลงไปรับรู้ได้ถึงกลิ่นสาบของแมลงสาปครับ และก็ไปสังเกตรูระบายน้ำที่เป็นรูเล็กๆในตู้ครับ นั่นแหละครับ ฝูงแมลงสาบตัวเล็กๆอีกร้อยกว่าตัวซุกกันอยู่ในท่้อ
พูดถึงเรื่องไส้กรอก ก็ต้องพยายามขายไส้กรอกที่เริ่มเหี่ยว เริ่มค้างหลายวันให้ลูกค้าก่อนเพราะถ้าเกิดเสียคนขายจะต้องเป็นคนจ่ายเงินเอง ตกประมาณชิ้นละสามสิบบาท (ค่างานชมละ ยี่สิบแปดบาท)บางครั้งทำตกพื้นเราจะทิ้งก้ไม่ได้ต้องหยิบมาใส่กล่องเข้าตู้เย็นไว้เหมือนเดิม แน่นอนถ้าขายไม่หมดก้จะเก็บเอาไว้ครับ
มีวันหนึ่งที่ผมต้องรับหน้ที่ไปเปลี่ยนแพ๊คน้ำอัดลมที่หมด จะขออธิบายว่าน้ำอัดลมที่กดตรงตู้จะเชื่อมไปตามสายที่อยู่ใต้ดินครับ โดยสายนั่นจะต่อกับแพ๊คน้ำที่อัดไว้ประมาณยี่สิบลิตร ตรงบริเวณสายต่อหัวนี่แหละครับ ที่เหล่าแมลงสาบจะไปรุมดูดน้ำหวานที่หลุดออกมาเป็นหยดๆ (พูดแล้วสยอง)
ป๊อปคอร์นบางครั้งหม้อไหม้ก็ยังป๊อปต่อ (สังเกตว่าบางครั้งกินจะมีกลิ่นไหม้ๆมา)
นี่คือประสบการ์ณของผู้อยู่เบื้องหลังการทำงาน นี่คือสิ่งที่เราจ่ายเงินแพงๆเพื่อบริโภค สังคมที่ผมไปทำงานก็จัีดว่าแย่มากครับ
อยากให้เป็นอุทาหรณ์ หรือ ให้มีการปรับปรุงความสะอาดให้เหมาะสมกับราคาสินค้าและความไว้วางใจด้วยครับ
นำมาจาก เวปป์สยามและพันทิพครับอ่านแล้วไม่กล้ากินเลยกำ
ผมขอเกริ่นก่อนนะครับว่า อยากให้ทุกคนอ่านทุกบรรทัด แล้วเอาไปคิดครับว่าสิ่งที่บริการเราอยู่ตอนนี้มีความสะอาดอนามัยให้เราได้แค่ไหนกัน
เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าของงานเก่าที่ผมไปทำเป็น พาร์ทไทม์ ที่โรงหนังแห่งหนึ่งในห้าง โดยรับหน้าที่เป็นพนักงานขายของกินหน้าโรงหนังหรือที่เรียกว่าคอร์น ซึ่งตอนนี้ผมออกมาแล้วแต่จะเล่าถึงสิ่งต่างๆให้ฟังโดยเฉพาะความสกปรก
วันแรกที่ผมไปทำเขาก็จะสอนวิธีการต่างๆในการป๊อปข้าวโพด การขายน้ำ การลงเครื่อง การนับของ
การนับของนี่แหละครับที่ทำให้ผมรับรู้ได้เลยว่าของที่เรากินอยู่มีความสกปรกแค่ไหน
ในตู้ใ่ส่ถังข้าวโพด แก้วน้ำ พอผมเปิดออกมานี่แหละครับแทบช๊อค แมลงสาบนับร้อยวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ผมอึ้งไปสักพักแล้วก้นับของให้เสร็จ ก็ต้องไปล้างตู้ใส่น้ำแข็งตรงตู้กดน้ำอัดลม ผมก้มลงไปรับรู้ได้ถึงกลิ่นสาบของแมลงสาปครับ และก็ไปสังเกตรูระบายน้ำที่เป็นรูเล็กๆในตู้ครับ นั่นแหละครับ ฝูงแมลงสาบตัวเล็กๆอีกร้อยกว่าตัวซุกกันอยู่ในท่้อ
พูดถึงเรื่องไส้กรอก ก็ต้องพยายามขายไส้กรอกที่เริ่มเหี่ยว เริ่มค้างหลายวันให้ลูกค้าก่อนเพราะถ้าเกิดเสียคนขายจะต้องเป็นคนจ่ายเงินเอง ตกประมาณชิ้นละสามสิบบาท (ค่างานชมละ ยี่สิบแปดบาท)บางครั้งทำตกพื้นเราจะทิ้งก้ไม่ได้ต้องหยิบมาใส่กล่องเข้าตู้เย็นไว้เหมือนเดิม แน่นอนถ้าขายไม่หมดก้จะเก็บเอาไว้ครับ
มีวันหนึ่งที่ผมต้องรับหน้ที่ไปเปลี่ยนแพ๊คน้ำอัดลมที่หมด จะขออธิบายว่าน้ำอัดลมที่กดตรงตู้จะเชื่อมไปตามสายที่อยู่ใต้ดินครับ โดยสายนั่นจะต่อกับแพ๊คน้ำที่อัดไว้ประมาณยี่สิบลิตร ตรงบริเวณสายต่อหัวนี่แหละครับ ที่เหล่าแมลงสาบจะไปรุมดูดน้ำหวานที่หลุดออกมาเป็นหยดๆ (พูดแล้วสยอง)
ป๊อปคอร์นบางครั้งหม้อไหม้ก็ยังป๊อปต่อ (สังเกตว่าบางครั้งกินจะมีกลิ่นไหม้ๆมา)
นี่คือประสบการ์ณของผู้อยู่เบื้องหลังการทำงาน นี่คือสิ่งที่เราจ่ายเงินแพงๆเพื่อบริโภค สังคมที่ผมไปทำงานก็จัีดว่าแย่มากครับ
อยากให้เป็นอุทาหรณ์ หรือ ให้มีการปรับปรุงความสะอาดให้เหมาะสมกับราคาสินค้าและความไว้วางใจด้วยครับ
นำมาจาก เวปป์สยามและพันทิพครับอ่านแล้วไม่กล้ากินเลยกำ