-_แบบนี้สินะที่เรียกว่า_- {"ยากูซ่า"}


แอนตัน คุสเตอร์ส ช่างภาพชาวเบลเยี่ยมใช้เวลาร่วม 2 ปี ในการติดตามชีวิต
และความเคลื่อนไหวของหนึ่งในแก๊งยากูซ่าที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ที่สุดในญี่ปุ่น
พวกเขาขึ้นชื่อในเรื่องความโหดเหี้ยม , รอยสัก และกฎระเบียบภายในอันเข้มงวด

หลังจากเพียรพยายามต่อรองอยู่นานหลายเดือน คุสเตอร์ส ก็ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ
จากยากูซ่าแก๊งนี้ จนมีโอกาสบันทึกภาพอันน่าหลงใหล
ภายในโลกขององค์กรอาชญากรรมใต้ดินแห่งญี่ปุ่น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นเคยประเมินเอาไว้เมื่อปี ค.ศ.2009 ว่ามีสมาชิกยากูซ่าอยู่ 80,900 ราย
ที่ยังคงใช้ชีวิตโลดแล่นอยู่ในโลกใต้ดิน พวกเขาเหล่านั้นประกอบกิจกรรม ซื้อขายยาเสพติด
ขู่กรรโชกผู้คน , เปิดบ่อนการพนันผิดกฎหมาย และก่อสงครามกับอันธพาลกลุ่มอื่น

ยากูซ่ามีพันธะผูกพันกับกฎเกณฑ์ข้อบังคับอันเข้มงวดและอำมหิต
สมาชิกบางคนถึงกับต้องตัดปลายนิ้วมือของตนเอง
เพื่อพิสูจน์ความจริงใจในการสำนึกผิดต่อแก๊งต้นสังกัด

ผู้ที่ปรารถนาจะเข้าร่วมแก๊งยากูซ่า จะต้องเข้ารับการอบรมในสถานที่เร้นลับ
เพื่อฝึกปรือศาสตร์แห่งการต่อสู้ป้องกันตัว และการทำสมาธิ

ยากูซ่าญี่ปุ่นยังขึ้นชื่อเรื่องรอยสักบนเรือนกาย ซึ่งไม่ค่อยเปิดเผยต่อสาธารณะ
พวกเขามักเข้ารับการสักด้วยวิธีการแบบดั้งเดิมที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เมื่อเข็มและหมึกถูกจดจารลงบนร่างกายและเนื้อหนังของมนุษย์

ยากูซ่าต่างแก๊งต่างพื้นที่ในญี่ปุ่น ต่างมีรอยสักแบบเฉพาะกลุ่มของตนเอง เช่น
กลุ่มยากูซ่าในกรุงโตเกียว ซึ่งจะมีรอยสักเฉพาะบนแขนและแผ่นหลัง

ตามประเพณีดั้งเดิม ยากูซ่าจะนัดพบปะกันในห้องอาบน้ำรวม
ซึ่งพวกเขาสามารถเปิดเผยรอยสักบนเรือนร่างให้คนกันเองมองเห็นได้
นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยยืนยันว่าไม่มีใครพกพาอาวุธเข้ามา

ไม่ใช่เพียงแค่ผู้ชาย แต่หญิงสาวประจำแก๊งก็มีรอยสักบนร่างกายเช่นกัน

แอนตัน คุสเตอร์ส ฝังตัวเองอยู่กับยากูซ่าแก๊งนั้นกระทั่งในคืนสุดท้ายก่อนที่เขาจะอำลาจากมา
มิตรสหายยากูซ่าได้พาช่างภาพชาวเบลเยี่ยมไปเที่ยวไนท์คลับแห่งหนึ่งซึ่งมีหญิงสาว
มาแสดงท่วงท่าวาบหวิวด้วยการพยายามคาบแบงค์กาโม่เลียนแบบธนบัตรดอลลาร์สหรัฐ
ออกมาจากบริเวณเป้ากางเกงของยากูซ่ารายหนึ่ง
_________________________________________________________________________________________________________
ไปเป็นยากูซ่ากันเต๊อะ
