งามไส้น้ำอัดลมไดเอ็ต-แอสปาเตม ชี้ยิ่งกินยิ่งลงพุง!!

นักวิจัยระบุทั้งน้ำอัดลมไดเอ็ตและน้ำตาลเทียมที่อวดอ้างสรรพคุณว่าเป็นทางเลือก
ที่ดีต่อสุขภาพ แท้จริงกลับให้ผลตรงกันข้าม
เอเจนซีส์ – งานศึกษาสองชิ้นใหม่ชี้ความเชื่อมโยงระหว่างน้ำอัดลมไดเอ็ตกับสุขภาพที่แย่ลง เมื่อเทียบกับคนที่หันหลังให้เครื่องดื่มชนิดนี้โดยสิ้นเชิง
นักวิจัยจากศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเทกซัส พบว่าคนที่ดื่มน้ำอัดลมไดเอ็ตมีขนาดรอบเอวกว้างขวางกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มถึง 6 เท่า
ส่วนงานศึกษาชิ้นที่ 2 พบว่าน้ำตาลเทียมทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดในหนูที่มีแนวโน้มเป็นโรคเบาหวานเพิ่มสูงขึ้น
“ข้อมูลจากการศึกษานี้และการศึกษาของสถาบันอื่นๆ บ่งชี้ว่า การโฆษณาว่าน้ำอัดลมไดเอ็ตและน้ำตาลเทียมเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ อาจเป็นคำแนะนำผิดๆ เพราะถึงไม่มีแคลอรี่จริง แต่ไม่ได้ทำให้เกิดผลอื่นๆ ต่อสุขภาพตามมา” ศาสตราจารย์เฮเลน ฮาซูดา จากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทกซัส และเป็นผู้นำการวิจัย เตือนพร้อมแจกแจงว่า น้ำอัดลมไดเอ็ตและน้ำตาลเทียมอาจกระตุ้นความอยากของหวาน ทำให้ความอยากอาหารบิดเบือน และกระทั่งทำลายเซลล์สมองส่วนที่ควบคุมความรู้สึกของการอิ่มท้อง
การศึกษากับมนุษย์อิงกับข้อมูลการติดตามผลกลุ่มตัวอย่าง 474 คนนานเกือบ 10 ปี ซึ่งพบว่ากลุ่มที่ดื่มน้ำอัดลมไดเอ็ตมีรอบเอวกว้างกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ดื่มถึง 70% แม้พิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น การออกกำลังกาย ระดับชั้นทางสังคม การศึกษา การสูบบุหรี่ ประกอบด้วยก็ตาม
ทั้งนี้ ไขมันหน้าท้องเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญสำหรับโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ มะเร็ง และโรคเรื้อรังอีกมากมาย
ส่วนในการศึกษากับหนู นักวิจัยให้หนูที่มีแนวโน้มเป็นโรคเบาหวานกินแอสปาร์เตม หรือสารให้ความหวานปลอดแคลอรี่ที่มีอยู่ในน้ำอัดลมไดเอ็ตบางยี่ห้อ
ผ่านไป 3 เดือน พบว่าหนูที่กินแอสปาร์เตมมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
“ผลลัพธ์นี้บ่งชี้ว่า การกินแอสปาร์เตมปริมาณมากอาจมีผลโดยตรงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่ง ดังนั้น จึงบ่งชี้ความเชื่อมโยงระหว่างการดื่มน้ำอัดลมไดเอ็ตกับความเสี่ยงโรคเบาหวานในมนุษย์” เกเบรียล เฟอร์นันเดซ ศาสตราจารย์ด้านวิทยาภูมิคุ้มกันและวิทยารูมาติก มหาวิทยาลัยเทกซัส กล่าว
ทั้งนี้ งานวิจัยทั้งสองฉบับถูกนำเสนอในที่ประชุมสมาคมโรคเบาหวานแห่งอเมริกาเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์