
ในปี 2012/13 นี้ เราจะได้เห็นนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเดินลงสนามในฐานะทีมเยือนด้วยเสื้อแข่งสีขาว กางเกงดำ และถุงเท้าสีขาว-ดำ สีประจำที่ใช้ในชุดเยือนทุกปีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ชุดเยือนในปีนี้เป็นเสื้อสีขาวคอวีผ่าหน้า ปกสีแดง การออกแบบสไตล์นี้เป็นส่วนผสมระหว่างเสื้อแข่งของทีมในอดีต กับรูปแบบชุดเยาวชนของแมนฯ ยูไนเต็ด โดยในส่วนโลโก้ของสโมสร และสปอนเซอร์ ใช้สีดำโมโนโครม เพื่อให้ดูโดดเด่น
ส่วนคอเสื้อด้านหลังมีกราฟิกสัญลักษณ์ปีศาจของทีมติดอยู่ เช่นเดียวกับที่กางเกง ซึ่งเป็นสีดำพร้อมมีลวดลายตาราง "กิงแฮม" เหมือนกับที่ใช้ในเสื้อชุดเหย้า ถุงเท้าเป็นสีขาวมีแถบสีดำด้านบน และมีรูปปีศาจสีดำติดเด่นอยู่ตรงน่อง โดยมีการใช้นวัตกรรมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตให้มีการออกแบบถุงเท้าเพื่อรองรับเท้า และทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบายมากขึ้น นวัตกรรมใหม่ในการออกแบบชุดของไนกี้ ในภาพรวมเน้นให้ดูทันสมัย และช่วยให้นักกีฬารู้สึกสบายตัวในขณะลงสนาม

เช่นเดียวกับชุดเหย้าในปี 2012/13 ชุดเยือนของแมนฯ ยูไนเต็ด ในปีนี้ ก็ใช้นวัตกรรมใหม่ของไนกี้ที่มีกระบวนการผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล ถือเป็นสินค้าชิ้นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเท่าที่ไนกี้เคยผลิตมา ชุดแข่งหนึ่งชุดจะผลิตมาจากขวดน้ำพลาสติกใช้แล้วประมาณ 13 ขวด และกระบวนการผลิตก็ลดการใช้พลังงานได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับการผลิตจากโพลีเอสเตอร์แบบทั่วไป และนับตั้งแต่ปี 2010 ไนกี้ ได้นำขวดพลาสติกใช้แล้วราว 1,115 ล้านขวดมาผลิตเป็นชุดแข่งที่มีประสิทธิภาพสูง
ชุดแข่งนี้มีเนื้อผ้าที่เบากว่าเดิม 23% แต่มีโครงสร้างการถักทอที่แข็งแรงกว่าเดิม 20% และมีกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยี "Nike Dri-FIT" ที่ช่วยดูดซับเหงื่อ ทำให้นักกีฬารู้สึกเย็น และแห้งสบายเมื่ออยู่ในสนามแข่ง การเย็บใช้วิธีแบบทีบาร์ ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง และเก็บซ่อนตะเข็บได้เป็นอย่างดี และยังมีพื้นที่ระบายอากาศเพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกาย โดยเป็นการเจาะรูเล็กๆ ด้วยเลเซอร์ตั้งแต่ใต้แขนจนถึงขอบเอว ให้อากาศหมุนเวียนได้ดี ช่วยให้นักเตะสบายตัว

นอกจากชุดแข่งทั้งชุดเหย้าสีแดง และชุดเยือนสีขาวของนักเตะแล้ว สำหรับชุดแข่งของผู้รักษาประตู ชุดเหย้าจะเป็นสีเขียว ในขณะที่ชุดเยือนจะเป็นสีน้ำเงิน โดยมีลวดลายตาราง "กิงแฮม" เป็นลวดลายหลักในการออกแบบ