
ภาพจาก www.vintagefootballshirts.com
จากสีแดง-ขาว ไปจนถึงเขียว-ทอง รวมถึงน้ำเงิน-ดำ เสื้อแข่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่แตกต่างกันออกไปตลอดหลายปีที่ผ่านมา ลองมาดูกันว่าจะมีแบบไหนที่คุณชอบ และร้องยี้กันบ้าง
เมื่อเอ่ยถึงเสื้อแข่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนส่วนใหญ่นั้นจะต้องนึกถึงภาพของเสื้อสีแดง กางเกงสีขาว และถุงเท้าสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ของสโมสร
แต่หากลงลึกในรายละเอียด มันก็มีอะไรหลายอย่างให้คุณค้นหาจากประวัติศาสตร์ของสโมสรนับตั้งแต่เริ่มใช้ชุดแข่งเป็นสีเขียวสลับสีทอง
พวกเขาสวมเสื้อแข่งสีสดใสดังกล่าวนั้นในสมัยที่ยังเตะในนามนิวตัน ฮีธ เมื่อปี 1878 ซึ่งนักเตะทุกคนก็ไม่ได้สวมเสื้อสีแดงเลยจนกระทั่งถึงปี 1902
ทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในฤดูกาล 1992-1993 ก็เคยสวมเสื้อแข่งสีเขียว-ทองนี้เป็นชุดแข่งที่ 3 ก่อนที่ชุดสีดังกล่าวจะกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มต่อต้านเกลเซอร์ในเวลาต่อมา
สโมสรได้สวมเสื้อแข่งสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์มาตลอด จนกระทั่งในปี 1968 พวกเขาลงแข่งยูโรเปี้ยน คัพ นัดชิงชนะเลิศ ด้วยการสวมใส่ชุดแข่งสีน้ำเงินล้วน นี่อาจเป็นสีนำโชคก็ได้ เมื่อพวกเขาเอาชนะเบนฟิก้าไป 4 - 1
ในช่วงต้นยุค 80 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ตกลงรับชาร์ปเข้ามาเป็นสปอนเซอร์บนหน้าอกเสื้อ ซึ่งถือเป็นดีลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ มันทำให้เสื้อแข่งมีสีสันมากขึ้น แม้ว่าอาจจะยังไม่เป็นที่นิยมนักก็ตาม
ในปี 1990 อาดิดาสได้ผลิตเสื้อเยือนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรูปแบบลายสีน้ำเงินพร้อย ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามันเหมือนวอลเปเปอร์ติดฝาผนัง
ที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงกันมากที่สุดคงหนีไม่พ้นชุดเยือนสีเทาในปี 1995 ซึ่งแฟนๆ ต่างก็ชื่นชอบกับดีไซน์แบบคลาสสิคของมันมาก แต่พวกนักเตะก็ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเมื่อต้องสวมใส่มัน เมื่อเก็บชัยชนะได้เพียงเกมเดียว เสมอ 1 และแพ้ไปถึง 4 เกมด้วยกัน
เดือนเมษายน 1996 เซอร์ อเล็กซ์ ถึงกับทนไม่ไหวให้นักเตะเปลี่ยนชุดเยือนเป็นสีอื่นระหว่างช่วงพักครึ่งที่ตามหลังเซาแธมป์ตัน 0 - 3 เขาบอกว่าชุดดังกล่าวทำให้ผู้เล่นของเขาดูกลืนไปกับฝูงชนที่เข้ามาชมเกม หลังจากนั้นชุดแข่งนี้ก็ถูกยกเลิกใช้งานทันทีเมื่อจบฤดูกาล
ช่วงยุค 90 นั้นมีการผลิตชุดแข่งของสโมสรที่ได้รับความนิยมออกมาพอสมควร ชุดเยือนสีดำขลิบทองในปี 1993-1995 ถูกแฟนๆ โหวตให้เป็นชุดแข่งที่สวยที่สุดตลอดกาล มันโด่งดังไปทั่วโลกหลังจากที่ เอริค คันโตน่า สวมใส่มันกระโดดกังฟูคิกใส่แฟนบอลคริสตัล พาเลซ ตอนที่เขาถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม
ชุดเหย้าสีแดงเมื่อฤดูกาลที่แล้วมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปในหมู่แฟนบอล มันเป็นลายกิงแฮมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอุตสาหกรรมทอผ้าของเมืองแมนเชสเตอร์ แต่บางคนก็บอกว่ามันเหมือนกับผ้าปูโต๊ะไม่มีผิด
ดีนิส แลมเบิร์ต จากพิพิธภัณฑ์ฟุตบอลแห่งชาติในเมืองแมนเชสเตอร์ได้บอกว่าเสื้อแข่งนั้นมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมากตลอดหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากแฟชั่นมีการพัฒนาอยู่ทุกวัน "ในช่วงยุค 1880 เราจะใช้เสื้อแข่งแบบเป็นขนสัตว์ โดยใช้สีประจำสโมสรเป็นหลัก พวกมันทั้งคัน และร้อนมากเมื่อใส่ในฤดูร้อน ส่วนในฤดูหนาวนั้นมันก็ทั้งหนัก และเปียกแฉะ" เธอกล่าว
"จนกระทั่งถึงยุค 1950 เสื้อแข่งก็เริ่มมาใช้แบบแขนยาว และมีปก แต่ว่าหลังจากนั้นก็หันมานิยมแบบคอวีกัน อย่างที่เราได้เห็นนักเตะชุดบัสบี้ เบบส์ สวมใส่"
"เนื้อผ้าที่ใช้ก็เบา และบางลงมาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผ้าแบบสังเคราะห์กันทั้งนั้น ส่วนสีที่นำมาใช้ก็เริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น ถึงตอนนี้คุณก็เริ่มเห็นชุดเยือนสีชมพูหรือสีนีออนกันบ้างแล้ว"
"ในส่วนของเสื้อแข่งสีเทาของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันก็มีหลักฐานชี้ชัดเหมือนกันว่าเสื้อแข่งบางตัวนั้นทำให้ทีมทำผลงานได้ไม่ดี สำหรับสีเทานั้นอาจส่งผลกระทบในเชิงลบกับนักเตะอย่างที่เฟอร์กูสันบอกไว้ ในทางกลับกัน สีแดงนั้นคือสีที่ดีที่สุดสำหรับทีมในแง่ของการสร้างความน่าเกรงขาม มันอาจใช้ขู่คู่แข่งได้พอสมควร"
แล้วคุณล่ะคิดว่าเสื้อแข่งตัวไหนคือตัวที่สวยที่สุด และแย่ที่สุดสำหรับคุณ?