
1945-1975 อัมโบร
ในช่วงยุค 1950 อัมโบรซึ่งมีความสนิทสนมกับแมตต์ บัสบี้ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ทำการวิจัยนวัตกรรมใหม่ๆ เกี่ยวกับเสื้อผ้าที่ใช้ในวงการฟุตบอล และก็ได้เสื้อแข่งที่มีน้ำหนักเบาออกมา ในช่วงปลายยุค 1960 พวกเขายังได้ผลิตเสื้อผ้าที่ระบายอากาศเป็นพิเศษจากวัสดุของบริษัทแอร์เท็กซ์ออกมาด้วย

1975-1980 แอดมิรัล
แอดมิรัลกลายเป็นผู้ผลิตรายแรกที่เป็นที่จดจำ และยังมีการทำการตลาดด้วยการผลิตชุดแข่งให้กับแฟนบอลด้วย ทางบริษัทมีความใกล้ชิดกับลีดส์ ยูไนเต็ด และในฤดูกาล 1973/74 พวกเขาก็เปิดตัวชุดแข่งแบบมีแถบออกมาเป็นรายแรกในสหราชอาณาจักร เสื้อแข่งของลีดส์มีโลโก้ของแอดมิรัลติดอยู่ทั้งบนเสื้อ และกางเกง สำหรับวัสดุที่ใช้นั้นจะเป็นไนลอนที่มีน้ำหนักเบา ชุดแข่งนี้ยังเป็นที่จดจำด้วยการที่ใส่แท็กที่มีหมายเลขบนถุงเท้าด้วย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นสโมสรที่ 2 ในลีกที่ได้เซ็นสัญญากับแอดมิรัล และชุดแข่งจากผู้ผลิตนี้ก็เริ่มใช้ตั้งแต่ฤดูกาล 1975/76 โดยในสัญญานั้น ทีมปีศาจแดงจะได้รับเงินอย่างน้อย 15,000 ปอนด์ต่อปีเป็นเวลาทั้งหมด 3 ปี โดยอาจได้รับโบนัสเพิ่มขึ้นอีกตามผลงาน ยกตัวอย่างเช่น แอดมิรัลจะจ่ายเงินให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 10,000 ปอนด์ หากพวกเขาผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ได้ และจะจ่ายเพิ่มอีก 6,000 ปอนด์ หากว่าคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ขณะเดียวกันก็มีการทำเสื้อแข่งสำหรับแฟนบอลออกวางจำหน่ายด้วย โดยมีราคา 15 ปอนด์ (โดยตลอดทั้ง 3 ปีนั้นจะมีการออกแบบเป็นเสื้อสีแดงขลิบขาว)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อสัญญากับแอดมิรัลออกไปอีก 2 ปีในปี 1978 และเมื่อถึงฤดูกาล 1980/81 ทีมปีศาจแดงก็เตรียมที่จะต่อสัญญาออกไปอีก 4 ปีด้วย น่าเสียดายที่แอดมิรัลมามีปัญหาทางด้านการเงินไปก่อนในปี 1980 ทำให้สัญญาที่เตรียมไว้ต้องถูกล้มเลิกไป

1980-1992 อาดิดาส
บริษัทผลิตภัณฑ์กีฬาจากเยอรมันกลายเป็นบริษัทแรกจากต่างประเทศที่ก้าวเข้ามาในตลาดชุดแข่งของสหราชอาณาจักร ในปี 1977 พวกเขาตกลงเซ็นสัญญากับทั้งเบอร์มิงแฮม ซิตี้, อิปสวิช ทาวน์ และมิดเดิ้ลสโบรช์ หลังจากนั้นในช่วงต้นฤดูกาล 1980/81 พวกเขาก็มีเซ็นสัญญา 4 ปีกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่สัญญาของแอดมิรัลนั้นล้มเหลว
จากนั้นแม้ว่าจะต้องแข่งกับบริษัทฮุมเมิ่ลซึ่งยื่นข้อเสนอที่ดีกว่าให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่อาดิดาสก็สามารถต่อสัญญากับทีมปีศาจแดงออกไปได้อีกในปี 1983 (แม้ว่าในตอนนั้นจะยังเหลือสัญญาอยู่อีกปีก็ตาม) โดยพวกเขาจะจ่ายเงินให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1.6 ล้านปอนด์ตลอดระยะสัญญา 4 ปี
การต่อสัญญาครั้งที่ 3 นั้นเกิดขึ้นในปี 1987 โดยคราวนี้อาดิดาสการันตีเม็ดเงินจำนวน 1.75 ล้านปอนด์ตลอดระยะสัญญา 5 ปี โดยพร้อมจ่ายเพิ่มอีก 10% ในแต่ละปีด้วย หากทำยอดขายเสื้อได้เกินกว่า 750,000 ปอนด์

1992-2002 อัมโบร
อัมโบรกลับมาครองตลาดผลิตภัณฑ์ชุดแข่งกีฬาอีกครั้ง หลังจากที่ตกลงสัญญากับทีมใหญ่ๆ หลายทีมของอังกฤษในช่วงปลายยุค 1970 (ทั้งอาร์เซนอล, เอฟเวอร์ตัน, ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้) จากนั้นอัมโบรก็มาตกลงเซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยในปี 1996 ได้มีการต่อสัญญาออกไปอีก 6 ปี และมีรายงานว่าตลอดระยะสัญญาทั้งหมดนี้มีมูลค่าถึง 60 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

2002-ปัจจุบัน ไนกี้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สร้างสถิติโลกขึ้นใหม่หลังเซ็นสัญญากับไนกี้ ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬารายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาในวันที่ 27 กันยายน 2000 ซึ่งมีมูลค่าถึง 302.9 ล้านปอนด์ตลอดสัญญาระยะยาว 13 ปี โดยสัญญานั้นเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 1 สิงหาคม 2002 โดยทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้รับส่วนแบ่งจากการขายเสื้อแข่ง ผลิตภัณฑ์ และสินค้าต่างๆ ที่ทางไนกี้ได้ผลิตออกมาภายใต้ลิขสิทธิ์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2013 เป็นต้นมา ไนกี้ก็มีเวลา 6 เดือนในการเจรจาต่อสัญญาฉบับใหม่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกไปอีก