
ชุดแข่งเหย้าตัวใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สำหรับฤดูกาล 2014/15 มีรากฐานมาจากเอกลักษณ์ดั้งเดิมของทางสโมสรนั่นก็คือสีแดง, ขาว และดำ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้กลายเป็นที่จดจำไปทั่วโลกแล้ว
สำหรับเสื้อแข่งจะใช้สีหลักเป็นสีแดง, ปกคอเป็นสีขาว โดยที่มีการตัดขอบเป็นสีแดงกับสีดำ ชุดแข่งนี้มีกางเกงเป็นสีขาว และถุงเท้าเป็นสีดำที่คาดด้วยแถบสีแดงขนาดใหญ่
สำหรับคอเสื้อที่เป็นสีขาวนั้นจะมาพร้อมกับแบบที่เป็นคอกลม โดยส่วนที่คอเสื้อมาบรรจบกันนั้นจะมีรูปทรงคล้ายกับตราสโมสรของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งใช้กันมาตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 จวบจนปัจจุบัน
สำหรับกระดุมที่ซ้อนอยู่ใต้คอเสื้อนั้นถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเสื้อตัวนี้ มันจะมีสีแดงพร้อมกับขอบสีดำ และสลักด้วยชื่อสโมสร
ด้านในคอเสื้อจะมีป้ายเล็กๆ ที่มาพร้อมกับข้อความว่า Youth, Courage, Greatness (เยาวชน, ความกล้าหาญ, ความยิ่งใหญ่) ซึ่งสื่อความหมายถึงแก่นแท้ของสโมสร
ที่ด้านหลังของเสื้อจะมีตราปีศาจจากตราสโมสรเป็นสีดำอยู่ใต้ปกคอเสื้อ และทั่วทั้งแผ่นหลังจะมีการทำลายบางๆ เป็นรูปตัววีซ้อนกัน เพื่อเน้นย้ำถึงรูปทรงที่สื่อถึงความเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สำหรับเสื้อแข่งเหย้าตัวใหม่นี้ได้เริ่มเปิดให้จองกันตั้งแต่วันที่ 7 กรกฏาคม และสามารถสั่งซื้อได้ผ่านทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฏาคม
นอกเหนือจากดีไซน์ใหม่จากทางไนกี้แล้ว ผู้ผลิตก็ยังได้คำนึงถึงผู้เล่นในแง่ของนวัตกรรมที่จะเสริมสร้างประสิทธิภาพ, เทคโนโลยี และการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย
ไนกี้ ดราย-ฟิต เทคโนโลยี
เทคโนโลยี ดราย-ฟิต จากไนกี้จะช่วยระบายเหงื่อจากร่างกายให้ระเหยออกจากเสื้อ และกางเกงอย่างรวดเร็ว มันจะช่วยให้นักเตะสร้างผลงานในสนามอย่างเต็มประสิทธิภาพโดยที่ยังรักษาความเย็น, ความแห้ง แถมยังสวมใส่สบายอีกด้วย
รูด้านข้างที่เจาะด้วยเลเซอร์นั้นถือเป็นจุดสำคัญสำหรับเสื้อแข่งตัวนี้ มันจะช่วยระบายอากาศไปยังร่างกายของนักเตะ และยังช่วยรักษาอุณหภูมิให้พร้อมสำหรับการลงเตะในสนามตลอดทั้ง 90 นาทีอีกด้วย
ชุดแข่งนี้ผลิตจากเส้นใยพิเศษที่ถักทอมาจากผ้าฝ้าย และโพลิเอสเตอร์ มันช่วยขจัดเหงื่อได้ดี, ให้ผิวสัมผัสที่นุ่มนวล และเหนือสิ่งอื่นใดคือมันมีความสวยงาม
การรักษาสิ่งแวดล้อม
ไนกี้ยังสานต่อแนวคิดรักษาสิ่งแวดล้อมซึ่งได้กลายมาเป็นหัวใจสำคัญของชุดแข่งจากทางบริษัทไปแล้ว มาคราวนี้มันก็ยังใช้โพลิเอสเตอร์แบบรีไซเคิลเช่นเคย นั่นทำให้ชุดแข่งนี้ช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลงด้วย
ชุดแข่งนี้ทำขึ้นมาจากขวดพลาสติกรีไซเคิล สำหรับกางเกงจะมาจากโพลิเอสเตอร์แบบรีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เสื้อจะมาจากโพลิเอสเตอร์แบบรีไซเคิล 96 เปอร์เซ็นต์ ส่วนถุงเท้านั้นอยู่ที่ 78 เปอร์เซ็นต์
เสื้อแข่งแต่ละตัวจะมาจากขวดพลาสติกรีไซเคิลโดยเฉลี่ย 18 ขวด และตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ไนกี้ก็ได้ใช้ขวดไปแล้วเกือบ 2 พันล้านขวดในการนำมาผลิตเสื้อแข่งออกวางจำหน่าย
จากการใช้วัตถุดิบแบบนี้ทำให้ไนกี้สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้สูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
รูปทรงกระชับได้รูปที่ได้รับการปรับปรุงใหม่
ไนกี้ได้ใช้ระบบสแกนแบบ 3 มิติจากร่างกายของนักฟุตบอลระดับโลกในการผลิตเสื้อแข่งแต่ละตัว โดยคราวนี้มันได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้เข้ารูปมากยิ่งขึ้น โดยรูปทรงแบบใหม่นี้จะทำให้นักเตะเคลื่อนไหวไปพร้อมๆ กับชุดแข่งได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งนั่นจะส่งผลต่อความสบาย และประสิทธิภาพของตัวนักเตะด้วย
ถุงเท้าไนกี้ อีลิท แมตช์ นั้นถูกดีไซน์ใหม่ ซึ่งมันได้ผลิตออกมาสำหรับกีฬาฟุตบอลโดยเฉพาะ
ทีมออกแบบของไนกี้ได้ไปพูดคุยกับนักเตะชั้นนำของโลกเพื่อมองหาความต้องการของพวกเขาเกี่ยวกับถุงเท้าในการเตะระหว่างเกม สำหรับถุงเท้าแบบใหม่นี้จะมีโซนกันกระแทกที่ออกแบบมาป้องกันบริเวณหัวแม่เท้าและบริเวณตาตุ่ม ซึ่ง 2 จุดนี้จะถูกกระแทกบ่อยที่สุด นอกจากนี้ก็ยังมีการออกแบบมาเพื่อป้องกันอาการลื่นที่ฝ่าเท้าด้วยเช่นกัน
มีการใช้วัตถุดิบน้อยชิ้นสำหรับถุงเท้าเพื่อสร้างผิวสัมผัสที่ดีสำหรับนักเตะ โดยร่องที่บริเวณส้นเท้าและส่วนหน้าของเท้านั้นถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันถุงเท้าย้วยลงมากองเป็นกระจุกนั่นเอง