เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเสื้อเยือนตัวใหม่นี้ เราจะมองย้อนไปยังประวัติศาสตร์สำหรับสุดยอด 10 เกมของทีมปีศาจแดงที่ลงเล่นในชุดสีขาวกัน...

เอซี มิลาน 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 (16/02/2010)
ประตูแรกจาก พอล สโคลส์ และอีก 2 ประตูจาก เวย์น รูนี่ย์ ทำให้ทีมคว้าชัยมาได้จากประตูของ โรนัลดินโญ่ และ คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ถือเป็นชัยชนะครั้งแรกของยูไนเต็ดที่สนามซาน ซิโร่ ด้วย "เวย์นเล่นได้เข้าฟอร์มมาก พวกนั้นแทบจะรับมือกับเขาไม่อยู่เลยในครึ่งหลัง" เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กล่าว "เขายอดเยี่ยมจริงๆ เราเคยบอกให้เขาพัฒนาการยิงประตูให้ได้ และเขาก็ทำได้ตามนั้น"

ลิเวอร์พูล 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 (01/12/2002)
ดิเอโก้ ฟอร์ลัน ได้ทำให้ตัวเขาเองกลายเป็นฮีโร่ในหมู่แฟนบอลยูไนเต็ดขึ้้นมาจากการยิงคนเดียว 2 ลูกที่แอนฟิลด์ ขณะที่ ซามี่ ฮูเปีย มายิงตีตื้นให้กับเจ้าถิ่นได้ในช่วงท้ายเกม ชัยชนะนัดนี้ส่งผลอย่างมากต่อสถานการณ์ลุ้นแชมป์ "ในช่วงนั้นของฤดูกาล เราจำเป็นต้องคว้าชัยในเกมนั้นให้ได้" ฟอร์ลันย้อนเหตุการณ์ในภายหลัง "มันยอดเยี่ยมมากที่ยิงทั้ง 2 ลูกนั้นได้ และแฟนๆ เองก็สุดยอดเช่นกัน พวกเขาร้องเพลงเชียร์เป็นชื่อผมตลอดเลย พวกเขาแสดงให้เห็นว่าสนับสนุนผม และผมก็ปลื้มใจมาก"

อาร์เซนอล 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 (14/04/1999)
จากเกมแรกที่เสมอกันแบบไร้สกอร์ทำให้เกิดแมตช์รีเพลย์รอบรองฯ เอฟเอ คัพ สุดคลาสสิคขึ้น เดวิด เบ็คแฮม และ เดนิส เบิร์กแคมป์ ทำประตูได้ในเวลาปกติ ก่อนที่ ไรอัน กิ๊กส์ จะสร้างประวัติศาสตร์ชนิดที่ทำให้ทุกคนอ้าปากค้างในช่วงต่อเวลาพิเศษ "ทุกอย่างมันเหมือนกับภาพสโลว์" ตำนานหมายเลข 11 ของยูไนเต็ดให้คำจำกัดความ "ตอนที่วิเอร่ากำลังไล่ตามผมมา ผมก็โยกไหล่หลอก และผ่านเขาไป จากนั้นผมก็ทำแบบนี้กับคนที่เหลือจนเข้าสู่กรอบเขตโทษได้ ดิ๊กซันกับอดัมส์พยายามจะหยุดผม แต่ผมก็ผ่านพวกเขาไปได้ก่อนที่จะเผชิญหน้ากับซีแมน ผมหยุดชั่วเสี้ยววินาทีแล้วก็คิดในใจว่า 'ก็แค่ยิงมันไป' มันเป็นการจบสกอร์ที่เหมือนฝันสำหรับคุณเลยล่ะ"

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 8 (06/02/1999)
ทั้ง ดไวท์ ยอร์ค และ แอนดี้ โคล ต่างก็ทำได้คนละ 2 ประตู ทั้งคู่มีโอกาสที่จะทำแฮตทริคได้ แต่กลับกลายเป็นตัวสำรองอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมายิง 4 ลูกรวดภายในช่วง 12 นาทีของครึ่งหลัง แต่ดาวยิงชาวนอร์เวย์ก็ยังถ่อมตัวว่าเขาแค่ทำหน้าที่ของเขาตามปกติเท่านั้น "ผู้จัดการทีมบอกให้ผมเตรียมเปลี่ยนตัวลงไป และ จิม ไรอัน ก็มาบอกประโยคหนึ่งกับผมว่า 'เราไม่ต้องการประตูเพิ่มแล้ว แค่เก็บบอลไว้ก็พอ หาช่องจ่ายแล้วก็เล่นง่ายๆ' แต่แน่นอน ผมไม่ชอบที่จะทำแบบนั้นหรอก คุณว่ามั้ยล่ะ?"

บาร์เซโลน่า 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 (25/11/1998)
ยอร์คกับโคลผนึกกำลังกันในแนวรุกจนคว้าผลเสมอสุดระทึกกลับมาได้จากสเปน ริวัลโด้ ยิงได้ 2 ลูก บวกกับ ซอนนี่ แอนเดอร์สัน อีกลูกให้กับเจ้าบ้าน "เมื่อคุณยิงได้ 3 ประตูที่สนามคัมป์ นู คุณก็คงต้องดีใจแล้ว" เซอร์ อเล็กซ์ กล่าวหลังจบเกมในกลุ่มดี "แมตช์แบบนี้ทำให้คุณสนุกตื่นเต้นจนถึงขีดสุดเลย"

บาร์เซโลน่า 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 (15/05/1991)
มาร์ค ฮิวจ์ส ยิงได้ 2 ลูกใส่ทีมเก่าของเขา ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คว้าแชมป์ยุโรปใบแรกมาครองได้สำเร็จ นั่นก็คือคัพ วินเนอร์ส คัพ เป็นการเอาชนะลูกยิงฟรีคิกของ โรนัลด์ คูมัน ที่ร็อตเตอร์ดัม ดาวยิงชาวเวลส์กล่าวว่าเขามุ่งมั่นมากในการลงเล่นกับสโมสรเก่าของเขาครั้งนี้ "ผมอยากแสดงให้แฟนบอลบาร์เซโลน่าได้เห็นว่า มาร์ค ฮิวจ์ส ตัวจริงเป็นยังไง ไม่ใช่คนเดียวกับที่พวกเขาเคยเห็นที่นั่นแน่นอน"

ลิเวอร์พูล 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 (17/04/1985)
เป็นเกมรอบรองฯ เอฟเอ คัพ ที่เมน โร้ด นักเตะ 2 คนของยูไนเต็ดทำประตูได้คือ มาร์ค ฮิวจ์ส และ ไบรอัน ร็อบสัน เป็นการยิงพลิกสถานการณ์ในครึ่งแรกจากการทำเข้าประตูตัวเองของ พอล แม็คกรัธ "เราจำเป็นต้องสู้ในทุกๆ จังหวะ และเราก็ทำได้จริงๆ" รอน แอตกินสัน กล่าวชมลูกทีม "เราเล่นกันด้วยแรงขับที่มากขึ้น ตอนนี้เรามีโอกาสได้รับสิ่งตอบแทนจากทุกอย่างที่ได้ทุ่มเทกันไปแล้ว เราเอาชนะพวกเขาได้ด้วยรูปเกมที่ทรงพลังเหมือนกับพวกเขา ถือเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมสุดๆ"

ลิเวอร์พูล 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 (04/04/1979)
ลูกยิงท้ายเกมจาก จิมมี่ กรีนฮอฟฟ์ ช่วยพายูไนเต็ดไปเตะที่เวมบลีย์ หลังจากเอาชนะลิเวอร์พูลได้ในรอบรองฯ เอฟเอ คัพ นัดรีเพลย์ที่สนามกูดิสัน พาร์ค แม้ลูกทีมของ เดฟ เซ็กส์ตัน จะโชคร้ายที่ไปพ่ายต่ออาร์เซนอลในนัดชิงชนะเลิศก็ตาม เมื่อพูดถึงประตูชัยในเกมดังกล่าว กรีนฮอฟฟ์ได้อธิบายว่า "มันเป็นเหมือนช่วงเวลาที่คุณจะทำอะไรไปโดยที่ไม่รู้ตัวเลย ผมถึงกับเข้าไปจูบกับ โจ จอร์แดน แบบดูดดื่ม" เขารำลึก "ผมคงต้องเป็นคนที่รุนแรงมากแน่ๆ เพราะเขาเสียฟันหน้าไปทั้งแถบเลย ผมไม่เคยดีใจสุดเหวี่ยงขนาดนี้มาก่อน"

เวสต์ แฮม 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6 (06/05/1967)
ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ได้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 ปี โดยเอาชนะ บ็อบบี้ มัวร์ และผองเพื่อนได้ ทีมปีศาจแดงได้ประตูจากชาร์ลตัน (2), ครีแรนด์, โฟล์คส, เบสต์ และลอว์ (2) "บ่ายวันนั้นที่อัพทัน พาร์ค ส่วนผสมทุกอย่างของยูไนเต็ดช่างลงตัวกันเป็นอย่างมาก มันเป็นฟอร์มการเล่นที่สมบูรณ์แบบจริงๆ" เดวิด แซดเลอร์ กล่าว

อาร์เซนอล 4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5 (01/02/1958)
เป็นเกมที่แนวรุกของยูไนเต็ดทำผลงานได้อย่างเยี่ยมยอด เป็นหนึ่งในเกมท้ายๆ ของนักเตะชุดบัสบี้ เบบส์ ก่อนประสบเหตุโศกนาฏกรรมที่มิวนิค แฟร้งค์ บัตเลอร์ จาก News of the World เขียนถึงเกมนี้ไว้ว่า "ไม่เคยเห็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นได้ดีกว่านี้ แฟนๆ ที่ไฮบิวรี่ทั้ง 63,000 คนเองก็คงเห็นด้วย ยูไนเต็ดทำให้ทุกอย่างดูเหมือนง่ายไปหมด"