
.
.
แม้ความกดดัน.... อยู่ที่ฝั่งซิตี้เต็มๆ
ลำพัง... ในฐานะแชมป์เก่า... แค่มีแวว เกือบ 90% ต้องพลาดแชมป์ แฟนบอลกับอาบูดาบี ก็แทบจะไม่ยอมให้อภัยแล้ว แถมในนัดเปิดบ้านรับว่าที่แชมป์ใหม่ (หน้าเดิม) ผลต้องออก "ชนะ" สถานเดียว จึงจะทำให้กองเชียร์ข่มตาลง แล้วไปแอบฝันลมๆแล้งๆได้ หลังเกมวันจันทร์ ความกดดันมันยิ่งทวีคูณ......

แต่คุณๆ เชื่อไม๊.... นักเตะของ ซิตี้ ที่อุดมไปด้วยแข้งพันล้าน ระดับเวิลด์คลาส หลายคน พวกนี้ มันมักจะมีพลังแฝงพิเศษ ในนัดที่มีความกดดันสูง DNA ของพวกมัน จะเป็นพวกขี้โอ่ ไม่ค่อยยอมเป็นรองใคร และชอบพิสูจน์ตัวเอง เพียงเพื่อได้ยินคำยอโง่ๆว่า "เล่นดีกว่าแชมป์เว้ย"
รวมถึง "เจ้านายพวกมัน" ถ้าชนะได้ นอกจากจะการันตี เก้าอี้ผุๆ ตัวเดิม ยังพอให้มีช่องในการบากหน้าไปพ่นคำหวาน กล่อมชะเลีย ขอเงิน ฟาดหัวตัวใหม่เข้ามาในฤดูกาลหน้า.....
สรุป.....นัดนี้ ! ซิตี้ จัดเต็ม ใส่ ยูไนเต็ด แน่ๆ เผลอๆอาจจะเห็นลิ่วล้อ ที่เคยยืนรวมให้ครบทีม มาวิ่งเข้าใส่เป็นหมาบ้า ตกมัน เล่นเหมือนชนะได้แชมป์
ในขณะที่เรา.... ไปเล่นเพื่อเสนอ ยังไม่น่าเกลียด......
เพียงแต่...... เราเองก็เริ่มมี น็อตหลวม เครื่องรวน หัวเทียนดำแล้ว หลังจากที่วิ่งโกยอ้าว มารอเก็บอีก 4-5กิโลสุดท้าย ก็เข้าเส้นชัย....
แต่เราก็ไม่สมควร เล่น ให้ แพ้ โดยเช่นกัน แม้ถ้วยแชมป์จะแอบถูกสลักชื่อ United ไว้เรียบร้อยแล้วก็ตาม..... ผมว่า ป๋า ก็คิดเช่นนั้น
แต่ผมก็เริ่มทำใจเล็กๆ กับสภาพนักเตะของเรา...หลังจากที่เห็นผลงาน ความป้อแป้ มาใน 4 นัดหลัง...... ขอแค่หวัง อย่าไปยืนพิงเชือก ให้มันชกเอาชกเอา แล้วเดินกลับออกมาจากสนามในสภาพสะบักสะบอม แม้มือยังถือเข็มขัดแชมป์อยู่ก็ตาม

นัดนี้แหล่ะ..... คือโอกาสที่จะใช้จังหวะ ผงาดเหนือเมือง แมนเชสเตอร์ แล้วเหยียบเพื่อนบ้านน่ารำคาญ ให้มันรู้ว่า "มึงมันแค่สามล้อถูกหวย" การไปชนะซิตี้ได้ในนัดนี้.... อาจนำมาถึงกาลล่มสลาย ของมันชินี่ทีม ประเภทเด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาว คือโดนโละทั้งหัวและหาง ทีมจะได้แตก เพราะผมมองว่า ทุกวันนี้ ซิตี้ เป็นทีมแชมป์เก่า ที่สปิริตภายในทีม แย่กว่า ตอนเชลซี ในยุคแชมป์เก่าผลัดใบ เผลอๆ แย่กว่า ทีมอาร์เซน่อล ในยุคแชมป์สุดท้าย เสียอีก
ทั้ง ยาย่า, เตเวส, อาเกวโร่, นาสรี่, เชโก้ พวกนี้ มันไม่แคร์ทีมเท่าไร ยังไม่รวมพวก ถูกเงินฟาดมาแบบ งงๆ แล้วไม่ค่อยให้กูลงเล่น พวกนี้เป็นเหมือนระเบิดเวลาดีๆ แม้จะรีบจัดส่ง (ถูกถีบ) เกรียนโอ้ ปรมาณู ลูกโตออกไป1แล้วก็ตาม หลังจากนั้น ทีมมันก็ตกมาตลอด แต่ไอ้ตัวที่ออกไป กลับไปโชว์ฟอร์ม เล่นอย่างกะมันอยากจะท้าชิง บัลลงดอร์ ซะอย่างงั้น นี่แหล่ะ !! มันบ่งบอกให้เห็นว่า "แม้ คุณ มีเงิน แต่นักเตะไม่มีใจ" มันเป็นอย่างไร.....


การชนะให้ได้ในนัดนี้ ของยูไนเต็ด ยังอาจจะถือเป็นการ หยุด 2 สัปดาห์อันน่าอึดอัด แล้วใช้เป็นสปริงบอร์ด กลับมา ในรูปแบบการเล่นแบบแชมเปี้ยนส์ บางที การชนะหอกข้างแคร่ ที่ตามรังควาญใจในช่วงหลังๆ ลงได้ อาจจะส่งผลถึง กำลังใจ ให้แก่ทีมอีกทางหนึ่ง

แต่ถ้าลองไปแพ้ออกมาจาก เอมิเรตส์สเตเดียม หลังจากที่เพิ่งแพ้ เชลซี แบบสู้ไม่ได้ จนหมดลุ้นถ้วยที่ 2 อย่างรวดเร็ว เกมต่อๆไป ยังต้องพบกับ อาร์เซน่อล ที่กำลังเปิดก็อกสองลงเล่น กับยังต้องเจอกับ เชลซี ที่เราแพ้มาทั้ง 2นัดหลัง (รูปเกม ในนัดที่เสมอมา ถ้ามีเวลาต่ออีก30นาที ผมว่าเราแพ้ เลยติ๊งต่างว่าแพ้...) เหมือน ราฟา จับทางเราได้ และเราเอง ก็แก้เกมสู้ไม่ได้ด้วย
ซึ่งทั้ง อาร์เซน่อล กับ เชลซี กำลังบี้กันเพื่อจะคว้าอันดับ (จริงๆ ทั้ง2ทีม มันก็แอบลุ้นเสียบที่2 เหมือนกัน) ผมว่า.... หากเราแพ้ ซิตี้ รับรอง 2 นัดนี้ ความกดดันมหาศาล จะโถมเข้าสู่ทีมเรา
ในทันที.... ตอนนั้น มีสิทธิ์เหยียบเงาลื่นล้มหัวแตกกันบ้าง......
แต่จะเล่นให้เสมอกับทีม ซิตี้ ก็ยังยากส์ เพราะมันเหมือนเชิญชวนให้คู่แข่งดาหน้าเข้ามาชำเรา แถมพวก ซิตี้ ก็เก่งในลูกจังหวะฉวยโอกาส, ลูกตุกติก, แถมอาจจะเจอกับ มือที่มองไม่เห็น ที่อยากให้พรีเมียร์ลีกส์ ลุ้นไปจนถึงนัดสุดท้ายเหมือนฤดูที่แล้ว โดยทำตามเบื้องบนสั่งมา ชูใบแดง ไล่ "วาเลนเซีย" นักเตะที่เล่นดีที่สุด (ป๋าบอก) ออกไป ฐาน มีเจตนาฟาวส์ เปิดบอล 10ลูก เข้าเป้าคู่แข่งทั้งหมด แล้วให้ใบเหลือง กับฟรีคิกส์ทุกครั้ง ที่นักเตะ ยูไนเต็ด "แตะ" คู่แข่งล้ม เหมือนคราว "มือ" สปอนเซอร์ ที่มองไม่เห็น สั่งว่า หลังๆมานี่ ชุดขาว ไม่เคยได้แชมป์เลย อายเลือดหมู มัน ยิ่งถ้าจัดไปเจอกัน เป็นดรีมไฟนอลได้ คงขายลิขสิทธิ์นัดชิง ได้เงินมากกว่า "แมนยู ชิงกับ ปารีส แซง แชร์แมง" มึงว่ามั๊ย!!

ทุกอย่างไม่ได้อยู่ที่ ซิตี้ มันอยู่ที่ "ป๋า" คนเดียว...... อยากจบเร็ว หรือช้า ?
.
.