ผมเชื่อว่าผู้ชายจำนวนไม่น้อย (ร้อยละ 90) ก็คิดเช่นนี้ อย่างไรก็ดี
(ไหน ๆ ก็ไม่ได้รักษาภาพพจน์แล้ว) ผมไม่อยากให้คุณตัดสินว่า
อะไรถูก -อะไรผิดและทำไมความคิดของผู้ชายถึงต่างจากคุณ
แต่อยากให้คุณเข้าใจว่าธรรมชาติของผู้ชายเป็นอย่างไร
สิ่งที่ผู้ชายสนใจในตัวผู้หญิงแบ่งออกเป็น 3 เรื่องใหญ่ ๆ คือ
(1)กามารมณ์
(2) ความรัก
(3) ความนับถือ
ทั้ง 3 ส่วน แยกจากกัน แต่สัมพันธ์กัน
ผู้ชายจะตัดสินใจเลือกผู้หญิงที่มีคุณสมบัติครบทั้งสามส่วนมาเป็นภรรยา
(***ส่วนอาจต่างกันไปสำหรับผู้ชายแต่ละคน)ส่วนผู้หญิงที่มี
คุณสมบัติไม่ครบจะเป็นแค่ทางผ่าน
1.สิ่งแรกที่ผู้ชายสนใจ คือ กามารมณ์ (รูป-เสียง-กลิ่น-รส-สัมผัส)
อันนี้เป็นด่านแรกที่ผู้ชายสนใจ ผู้ชายทุกคนจะเริ่มที่จุดนี้ ลองสังเกตดู
ก่อนอื่นผู้ชายจะสนใจผู้หญิงที่สวย น่ารัก รูปร่างหน้าตาดี ผิวพรรณดี
แต่งตัวดี (เรื่องของรูปทั้งหลายที่ผ่านทางตา)
พูดจาไพเราะ เสียงหวาน เสียงออดอ้อน (เรื่องของเสียงทั้งหลายที่ผ่านทางหู)
กลิ่นกายหอมยวนใจ (เรื่องของกลิ่นที่ผ่านทางจมูก)
ความสุขจากการกอดจูบ มีเพศสัมพันธ์ (เรื่องของสัมผัสทั้งหลายที่ผ่านทางกาย)
ที่ผู้ชายพูดกันเล่น ๆ ว่า ขาว สวย หมวย sex นั่นแหละ
(***ส่วน ทางกาย 40% ทางตา 40% ทางหู 15% ทางจมูก 5%)
สำหรับเรื่อง sex นี่ถึงจะพิสูจน์ไม่ได้แต่ก็จินตนาการได้ และเป็น
แรงจูงใจ ที่ทำให้ผู้ชายทั้งหลายตามตื้อตามจีบคุณอยู่ทุกวันนี้
(ตราบใดที่ 40% นี้ยังไม่ประสบความสำเร็จ
แรงจูงใจจะยังคงมีต่อไปไม่ละความพยายาม...)
อย่างไรก็ดี แม้กามารมณ์จะเป็น อันดับแรก ที่ผู้ชายสนใจ
แต่กลับเป็นอันดับสุดท้าย
ในการตัดสินใจเลือกผู้หญิงที่จะขอแต่งงาน คุณผู้หญิงเคยสังเกตไหม
มีผู้ชายจำนวนไม่น้อยที่ไปเที่ยวผู้หญิง
แต่ไม่เคยมีสักคนที่คิดจะจีบหรือขอหญิงที่เที่ยวมาเป็นภรรยา
(ยกเว้นจีบเพื่อกินฟรี) ทั้ง ๆที่ผู้หญิงเหล่านี้เจนจัดในการสนองกามารมณ์ของผู้ชาย
แถมหากผู้ชายรู้ว่าแฟนของตนผ่านเรื่องพรรค์นี้มากลับเป็นเรื่องใหญ่!
หรือคงจะเห็นได้บ่อย
ๆที่เป็นแฟนกันแล้วผู้หญิงถูกทิ้งหลังจากเสียตัวให้ฝ่ายชาย
(อาจทิ้งทันทีหรือรอสักระยะจนเบื่อ)
เพราะฉะนั้นผู้หญิงคนไหนที่คิดว่าตัวเอง ไม่สวย
ไม่ต้องเสียใจเลยครับการที่ผู้ชายสักคนจะมาชอบคุณอาจต้องอาศัย
เวลาหน่อยกว่าจะมองเห็นคุณสมบัติในด้านอื่นๆ
แต่ถ้าเขารักคุณด้วยเหตุผลอื่นที่เหนือกว่าคุณกลับมีโอกาสสูงที่จะได้เป็น ภรรยา
ไม่ใช่ คู่นอน
และไม่ต้องถูกทอดทิ้งในภายหลังความเข้าใจผิดประการหนึ่งของผู้หญิงสมัยนี้คือ
ความคิดที่จะผูกมัดผู้ชายด้วย sex กลัวเขาจะทิ้งหากไม่ยอม
ผมกล้าพูดได้เต็มปากชนิด 100% เลยว่า
ถ้าผู้ชายคนไหนบอกว่าจะทิ้งคุณไปเพราะเหตุว่าคุณไม่ยอมมีอะไรกับเขา
ผู้ชายคนนั้นกำลังหลอกคุณและเขาหวังเฉพาะเรือนร่างของคุณโดยไม่ได้รักคุณเลย
!!!!จริงอยู่กามารมณ์เป็นสิ่งที่ผู้ชายต้องการ
แต่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถผูกมัดผู้ชายไว้ได้
เขาจะมีคุณคนเดียวหรือมีผู้หญิงอื่นอีกเท่าไหร่ก็ได้เพราะไม่เกี่ยวกัน
(ชอบกินส้ม ไม่ได้หมายความว่าจะไม่กินทุเรียน น้อยห! น่า ฯลฯ)
กามารมณ์เป็นสิ่งที่จากไปได้เร็วกว่าคุณสมบัติอื่น ๆ (มาก่อนก็ไปก่อน)
คนที่สวยกว่ายังมี อายุมากขึ้นก็สู้สาว ๆ ไม่ได้แล้วหรือพอเคยชินเข้าก็เบื่อ
นอกจากนี้
แรงจูงใจที่ได้รับการ9บสนองแล้วจะไม่สามารถใช้จูงใจได้อีก ดังนั้น
ถ้าผู้หญิงรู้จักใช้แรงจูงใจทาง sex
ที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองของผู้ชายให้เป็นประโยชน์
ดึงให้ผู้ชายผ่านระยะเวลาจนมีพัฒนาการทางด้าน (2) ความรัก และ (3)
ความนับถือ เรื่อยไปจนถึงการแต่งงาน จึงจะนับว่าเป็นผู้หญิงฉลาด
ไม่ต้องเสียคนรักไปในภายหลัง
(ถ้าจะเสียก็เสียผู้ชายเลว ๆ ที่ไม่ได้รักเราจริง
แต่ไม่ต้องเสียตัวเสียใจเมื่อวันนึงเจอผู้ชายดี ๆ
ที่รักเราจริงและเราต้องเป็นแม่ของลูกเขา)
2. สิ่งต่อไปที่ผู้ชายต้องการจากผู้หญิงคือ ความรัก
ความรักหมายถึงการเข้าอกเข้าใจ ความเป็นห่วงเป็นใยเอื้ออาทร การพูดคุยกันรู้เรื่อง
ฯลฯ
ที่เป็นเรื่องของจิตใจล้วน ๆ แบบเดียวกับที่ผู้หญิงรักผู้ชายนั่นแหละไม่ต่างกัน
ความรักจะมีอิทธิพลในระดับสูงกว่ากามารมณ์ที่กล่าวถึงในตอนต้น
แต่สำหรับผู้ชายการที่จะพัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นความรักจะช้ากว่าผู้หญิงเ
พราะมัวไปหลงด้านกามารมณ์ซะมาก
(ที่บอกว่ารักก็อิงกับกามารมณ์ไม่ใช่รักแบบที่ผู้หญิงคิด)
จนเมื่อเวลาผ่านไป ผ่านอุปสรรคความยากลำบากต่าง ๆ
มีการพิสูจน์ใจกันมีการมุ่งมั่นสร้างหลักฐานเก็บเงินแต่งงาน สร้างอนาคต
พิสูจน์ตัวเองให้พ่อ-แม่ฝ่ายหญิงยอมรับ ฯลฯ จึงเกิดเป็นความรัก
ผู้หญิงสมัยนี้ชอบเสียท่าผู้ชายก่อนที่ผู้ ชายจะเกิดความรักจริง ๆ
จึงต้องเสียใจที่ถูกทิ้ง
ที่จริงแล้วคนสมัยก่อนเขามีกุศโลบายให้ผู้หญิงรักนวลสงวนตัว
ให้ผู้ชายอดทนทำงานเก็บเงินมาสู่ขอ ก็เพื่อพัฒนาตรงจุดนี้
เพราะมันต้องใช้เวลาและผ่านความยากลำบากมาจึงจะเกิดความรักแบบนี้ได้
(สำหรับผู้ชาย) ก็ไปหาว่าหัวโบราณบ้าง ไม่ทันสมัยบ้าง
ที่จริงคนสมัยนี้ยิ่งเรียนก็ยิ่งโง่
แล้วก็มานั่งเสียใจไม่รู้ว่าชีวิตทำไมมีแต่ปัญหา
อีกเรื่องที่ไม่ค่อยยุติธรรมคือ
ส่วนใหญ่ผู้ชายที่รักผู้หญิงจริงชนิดหมดหัวใจกลับไม่ค่อยกล้าที่จะบอกหรือแสดงว่ารัก
ส่วนผู้ชายที่ปากหวานบอกรัก
กลับเป็นผู้ชายประเภทเจ้าชู้ที่ผ่านผู้หญิงมามาก (และจะผ่านต่อไป)
สาเหตุก็คือ
ผู้ชายที่รักเดียวใจเดียวจะไม่ค่อยสันทัดกับการจีบผู้หญิงและไม่ค่อยมีประสบการณ์ทางด้านนี้
กลัวว่าหากทำอะไรผิดพลาดอาจสูญเสียคนที่ตนรักไป
ในขณะที่ผู้ชายเจ้าชู้จะมีประสบการณ์มามากในการจีบผู้หญิง
รู้ว่าจะต้องพูดอย่างไรและถึงจีบไม่สำเร็จก็ไม่กลัวเพราะไม่ได้รักอะไรมากมาย
.. แต่เชื่อไหม?
ผู้หญิงส่วนใหญ่กลับมองไม่ออกว่าผู้ชายคนไหนที่รักจริง (รำคาญด้วยซ้ำ)
ชอบแต่จะฟัง คำพูด แค่บอกว่ารักก็เชื่อสนิท...เสร็จเสือผู้หญิง!
3.สิ่งต่อไปคือ ความนับถือ หรือ ความดี
ผู้ชายต้องการให้ผู้หญิงวางตัวในลักษณะเป็นที่น่านับถือเกรงใจ หรือพูดง่ายๆคือ
เป็นคนดี วางตัวเหมาะสม
ผู้ชายส่วนใหญ่จะชอบผู้หญิงที่อ่อนหวานเรียบร้อย รักนวลสงวนตัว
ให้เกียรติและมีความซื่อสัตย์ต่อสามี และมีวุฒิภาวะทางอารมณ์สูง
(ไม่จู้จี้ขี้บ่น ไม่หึงหวงแบบไร้เหตุผล ไม่ทำตัวหวาดระแวงเป็นนักสืบ ฯลฯ)
อย่างเช่นผู้ชายแอบไปมีเมียน้อยหรือเที่ยวผู้หญิง
(อย่างที่กล่าวข้างต้นกามารมณ์กับความรักสำหรับผู้ชายเป็นคนละส่วนกัน
ผู้ชายทุกคนชอบดูรูปโป๊แต่ไม่เคยจำหน้าผู้หญิงในรูปได้)
แต่จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่วางตัวเหนือกว่าทางด้านวุฒิภาวะ
ลองผู้หญิงนิ่งๆรู้ทัน แต่ไม่เอะอะโวยวายดูสิ ขี้คร้านผู้ชายจะเกรงใจไม่กล้าทำอีก
เรื่องความดีหรืวามนับถือนี่เป็นสิ่งที่สำคัญ
มากที่สุดที่ผู้ชายอยากได้หญิงบริสุทธิ์มาเป็นภรรยาก็เพราะมันมีส่วนสัมพันธ์กับความดี
ไม่ใช่เห็นแก่ตัวอย่างที่ผู้หญิงคิดกัน
(แต่ทางกามารมณ์ก็มีอยากได้ของใหม่ ๆ สะอาด กระชับ ได้อารมณ์
และเป็นของเราคนเดียวไม่ใช้ร่วมกับใคร)
อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายหรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
(ก็ขนาดพ่อแม่รักจะตายยังขาดความยับยั้งชั่งใจแอบหนีไปมีอะไรกับใครได้
จะมั่นใจได้ยังไงว่าต่อไปจะไม่แอบไปมีชู้)
ผู้ชายที่หลอกฟันหญิงบริสุทธิ์แล้วทิ้งก็เพราะเขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนดีที่น่านับถืออีกต่อไป
(ผู้หญิงดี ๆ ที่เป็นหม้ายเพราะสามีตาย
ยังน่าขอแต่งงานด้วยมากกว่าผู้หญิงโสดที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม)
อย่างไรก็ตามผู้หญิงคนไหนที่ชีวิตผิดพลาดไปแล้วขอให้หยุดแค่นั้น
อย่าให้เกิดขึ้นอีก
(ถ้าคุณเป็นคนที่ดีจริง ๆ เขาจะอภัยให้คุณแม้จะเสียใจลึกๆ)
คุณลองดูคู่แต่งงานที่อยู่กินกันมานาน ดูคุณพ่อคุณแม่คุณก็ได้
ทุกวันนี้เขายังหวานแหววแบบหนุ่มสาวไหม เมื่อเวลาผ่านไป
ความสำคัญทางกามารมณ์ลดลง ก็จะมี ความรัก และความนับถือหรือ
ความดี
นี่แหละที่จะทำให้อยู่กันไปได้ตลอด
ที่เขียนมาทั้งหมดก็หวังจะให้เป็นวิทยาทานแก่คุณผู้หญิงทั้งหลายนะครับ
(คุณผู้หญิงคงจะอ่านไปด่าไที่ผู้ชายมีความคิดสกปรกเห็นแก่ตัวแบบนี้)
สำหรับตัวผมเองเป็นผู้ชาย อยู่ในสังคมของผู้ชายย่อมเข้าใจนิสัยของผู้ชายดี
ก็อยากให้ผู้หญิง (ที่พอจะรับฟังในสิ่งที่ผมพูด) มีความสุขสมหวัง
ไม่ต้องเสียอกเสียใจ
และพบกับปัญหาชีวิตคู่ (แบบว่าเห็นมามาก)
ยังไงก็ตามอ่านแล้วก็อย่านึกด่าผมนะครับ
เพราะตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยทำให้ผู้หญิงคนไหนเสียใจ...
ทิ้งท้ายคาถาให้บทหนึ่ง
***ขอให้เป็นกุลสตรีที่รักนวลสงวนตัววางตัวเหมาะสมเรียบร้อย(เขาจะขอคุณแต่งงาน)
แต่เป็นสาวร้อนเวลาอยู่บนเตียง
(เขาจะได้ไม่ไปหาหญิงอื่นเพื่อชดเชย) ***
ปล.ไม่รู้ว่าจะให้ credit ใคร แต่ก็จาก FWD:mail