1.โถคุณไปรษณีย์
หญิงสาวนางหนึ่งวิ่งออกมาเปิดตู้จดหมายหน้าบ้าน แล้วก็ร้องโวยวายกลับเข้าบ้านไป
สักพักเธอก็วิ่งออกมาเปิดตู้จดหมายดู แล้วก็โวยวายกลับเข้าบ้านไปอีก
อีก 10 นาทีต่อมาเธอก็วิ่งมาเปิดตู้จดหมายอีก
ชายหนุ่มข้างบ้านเห็นเธอวิ่งเข้าวิ่งออกทั้ง 3 รอบ สงสัยเลยถามว่าเธอเป็นอะไร
"ก็คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่นี่สิ มันบอกว่า "You''ve Got Mail." ตั้ง 3 รอบแล้ว"
2.แท็กซี่กับผีสาว
แท็กซี่คันหนึ่งขับรถกะกลางคืนวิ่งรับส่งหาผู้โดยสารคนอยู่แถวถนนสุขาภิบาลหนึ่ง
คืนวันหนึ่งราวๆ ห้าทุ่ม แท็กซี่คันนี้ก็ออกหาผู้โดยสารตามปกติ
ระหว่างที่ขับมาเรื่อยๆ ก็มีผู้หญิง คนหนึ่งใส่ชุดสีขาวเรียบๆ กวักมือ
เรียกเขาให้จอดรับ แท็กซี่ใจหายวาบเหมือนกันที่ผู้หญิงคนนี้แต่งชุด ดูชอบกล
แต่ความที่ชักดึกแล้วและผู้โดยสารก็ไม่ใช่ว่าจะหากันง่ายๆ เขาก็เลยตัดสินใจรับ
ระหว่างที่ขับรถไปส่ง ผู้โดยสารสาวคนนี้จะนั่งเงียบตลอด ชวนคุยก็ไม่ยอมคุย
สังเกตดูจากกระจก เจ้าหล่อนก็หน้าตาออกจะซีดๆ ปากแห้งๆ
และปล่อยผมยาวสยายเชียว แท็กซี่เริ่มรู้สึกอึดอัดและรู้สึกเย็นวูบๆ
ขึ้นมาชอบกล แต่ก็ไม่คิดอะไร ช่วงหนึ่งที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ
แท็กซี่ก็เหลือบตามองกระจกดูผู้โดยสารที่เบาะหลังอีกครั้ง คุณพระช่วย!
เธอหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ แท็กซี่ใจหายวาบใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มและ
ตกใจเหยียบเบรกเต็มแรง จนตัวเขาเองหัวคะมำ
เมื่อรถหยุดนิ่งเขาก็หันไปมองเบาะหลังให้เต็มตา เหมือนเดิม!!
ที่เบาะหลังไม่มีใครนั่งอยู่เลย พอตั้งสติได้เขาก็เลยเหยียบคันเร่งพุ่งรถออกไปทันที
เขาสูดลมหายใจเต็มปอดหันไปมองกระจกหลังอีกครั้ง คุณพระช่วย!!!
สาวคนนั้นโผล่กลับมานั่งที่เก่าอย่างไม่คาดฝัน หน้าซีดๆ ของเธอตอน
นี้มีเลือดสดๆ ไหลแดงฉาน ออกมาจากทั้งปากและจมูก จ้องแท็กซี่ตาไม่กระพริบ
แท็กซี่ท่องนะโมสามจบ ค่อยๆ จอดรถที่ข้างทาง เป็นไงเป็นกัน ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วเลยทำใจกล้า หันไปถาม
"พะ พะ พี่ พี่ครับ ไม่ทราบเป็นอะไรตายครับ"
ผีสาวตอบด้วยความโกรธ
"ตายพ่อตายแม่มึงเหรอ คนกำลังก้มลงแคะขี้มูก เสือกเบรกทำไม??"
3.เที่ยวเหมือนกัน
เหรียญบาทกับแบ้งค์ห้าร้อยพบกัน
เหรียญบาท : เราไม่พบกันนานแล้วนะ
แบ้งค์ห้าร้อย : ใช่ เราไปเที่ยวมาไกลมากเลย ได้ไปนั่งเรือเที่ยว ไปดู
ฟุตบอล ไปห้างสรรพสินค้า โอ๊ย ไปมาหลายที่ แล้วนายล่ะไปเที่ยวไหนมาบ้าง
เหรียญบาท : เราเหรอ ไปเที่ยวซ้ำๆ อยู่ไม่กี่ที่ วัด ขอทาน วัด ขอทาน
4.เทคโนโลยีชั้นสูง
ผู้บริหารสี่คนออกรอบตีกอล์ฟด้วยกัน ระหว่างตีกอล์ฟอยู่ที่หลุมสอง
เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผู้บริหารชาวแคนาดาควักโทรศัพท์มือถือ ออก
สั่งการให้ซื้อหุ้นไมโครซอฟท์ 1000 หุ้น เสร็จแล้วก็หันมาคุยอวด
"ผมต้องพกโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ลูกน้องติดต่อผมได้ตลอดเวลา"
กำลังไดร์กันอยู่ที่หลุมสาม โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก ผู้บริหารชาวอเมริกัน
ก็ยกนิ้วชี้ไว้ที่ปาก และยัดนิ้วโป้งเข้าที่หู เขาพูดโทรศัพท์จบก็หันมาคุยโม้
"ผมฝังไมโครโฟนและหูฟังไว้ในนิ้วมือ ผมไม่อยากพกโทรศัพท์มือถือ อันโตให้เกะกะ"
ทั้งหมดตีกอล์ฟกันต่อไป ขณะที่กำลังพัทกันอยู่บนกรีน โทรศัพท์ก็ดัง
ขึ้น ผู้บริหารชาวเยอรมันลุกขึ้นยืนหันซ้ายหันขวาและสั่งการลูกน้อง เสร็จแล้วก็หันมาคุยโอ้อวดบ้าง
"ผมฝังไมโครโฟนไว้ที่ลิ้น และฝังหูฟังไว้ในหู ผมเพียงแค่ยืนขึ้นให้สัญญานชัดก็พอแล้ว"
ทั้งก๊วนทึ่งในเทคโนโลยี่นี้จริงๆ
โทรศัพท์ดังขึ้นอีกที่หลุมถัดมา ผู้บริหารชาวญี่ปุ่นรีบวิ่งหายเข้าไป
หลังพุ่มไม้ เพื่อนร่วมก๊วนเห็นเขาหายไปนานจึงเดินไปดู พวกเขา
เห็นชาวญี่ปุ่น ถอดกางเกงนั่งยองๆ อยู่ พวกเขาจึงถอยหลังออกมา
"ไม่เป็นไรหรอกครับ" ชาวญี่ปุ่นว่า "ผมกำลังรับแฟกซ์อยู่"