พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2011 - 2012 เปิดฉากขึ้นแล้ว เริ่มต้นด้วยบรรดาทีมใหญ่อย่างลิเวอร์พูล อาร์เซนอล และเชลซี ต่างมีผลเสมอในนัดแรกของฤดูกาล
สาวกอสูรบางท่านอาจต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่กับนัดแรกของปีศาจแดง เซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน จัดทีมโดยใช้ดาวรุ่งที่กำลังฟอร์มแรงลงผสมกับตัวจริงโดยใช้แผนการเล่นระบบ 4-4-2 และดาบิด เดเกอาลงเฝ้าเสาเป็นนัดแรกในพรีเมียร์ลีก
ปราการหลังยังคงใช้งานวิดิช และริโอ ยืนตัวหลัก ส่วนแบ๊กซ้ายขาดเอวร่า ที่มีอาการบาดเจ็บจากศึกจมเรือจึงเป็นโอกาสของฟาบิโอ ได้ลงทำหน้าที่แทน ส่วนแบ๊กขวาเป็นหน้าที่ของสมอลลิ่ง
แอนเดอร์สัน และเคลฟเวอร์ลี่ย์ เป็นตัวทำเกมในแดนกลาง ปีกซ้ายและขวา ได้ ยัง และ นานี่ ลงไปลากเลื้อยเช่นเดิม
กองหน้าเซอร์อเล็ก ยังคงให้โอกาสเวลเบ็ค ยืนคู่กับรูนี่ย์ รายชื่อตัวสำรองของปีศาจแดงได้แก่ ลินเดการ์ด - ฟิล โจนส์ - ปาร์คจีซุง - กิ๊กส์ - คาริค และเบอบาตอฟ
เริ่มเกมมาเกมรุกของปีศาจแดงสามารถสยบเสียงเชียร์ของเดอะแบ็กกี้ส์ได้ในต้นครึ่ง การประสานงานระหว่างกองกลางและปีกทำให้เกมรุกของแมนยูไปถึงหน้าประตูของเวสต์บรอมวิช ได้เรื่อยๆ และก็ได้จังหวะของแอชลี่ย์ ยัง กับรูนี่ย์ต่อบอลกัน ก่อนรูนี่ย์ได้โอกาสสับไกในกรอบเขตโทษ ทำประตูขึ้นนำเวสต์บรอมวิชไปก่อน 0 - 1 ในนาทีที่ 13
ด้วยบทเด่นที่เป็นของ ยัง ซะส่วนใหญ่ทำให้นานี่ เรียกร้องบทเพิ่มและได้มีโอกาสสับไกระยะได้ลุ้นถึงสองครั้ง แต่ข้ามคามและยิงนกไปอย่างน่าเสียดาย
เกมเริ่มเปิดแรกกันในท้ายครึ่งหลังโดยเวสบอมฯ ได้ชอรี่ย์ และเชน ลอง ลุยขึ้นด้านริมเส้น โจมตีปีศาจแดงเป็นระยะๆ และเป็นผลในนาทีที่ 37 เมื่อเชน ลอง ลากจากด้านข้างจี้เข้าหาสมอลลิ่ง ก่อนตบเข้าในซัดหนีมือเดเกอา พุ่งปัดไม่ทัน เวสต์บรอมวิชตามตีเสมอเป็น 1 - 1 และคงสกอร์นี้จนจบครึ่งแรก
ต้นครึ่งหลังเซอร์อเล็ก ส่งอีแวนส์ ลงมาแทนวิดิช ที่มีอาการบาดเจ็บตั้งแต่ครึ่งแรก วิดิชส่งกับตันทีมต่อให้ริโอสวมปลอกแขนแทน และเหมือนปลอกแขนนั้นถูกมนต์ดำจากกองแช่งปีศาจแดง ริโอมีอาการบาดเจ็บอีกคน เป็นฟิล โจนส์ที่ลงมาแทนในนาทีที่ 75 เหมือนกับนัดจมเรือที่วิดิช ถูกเปลี่ยนตัวออก ให้เอวร่าสวม ปลอกแขนแทน จากนั้นเอวร่าก็มีอาการบาดเจ็บและถูกเปลี่ยนตัวออกให้ราฟาเอล ได้ลงมาและสวมปลอกแขนแทนก่อนที่เจ้าตัวจะเจ็บและต้องพักถึง 10 สัปดาห์
เดเกอา ยังคงถูกทดสอบเรื่อยๆ จังหวะแท๊กเกิล การออกมาตัดบอล การสื่อสารกับกองหลัง กลายเป็นปัญหาที่เริ่มหันกลับมามองถึงฟอร์มของเดเกอา
ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนคิดว่าเดเกอายังคงบางไปสำหรับการแท๊กเกิล การออกมาตัดบอลนั้นก็คงขาดจังหวะควบคู่กับการสื่อสารการออกคำสั่งกับกองหลัง (ถ้าเกิดเป็นเรื่องการสื่อสารนั้น เป็นไปได้มั้ยว่าให้เดเกอา ได้เรียนรู้ภาษาอย่างเต็มที่ซะก่อน ก่อนที่ปัญหาด้านการสื่อสารจะกลายเป็นปัญหาการเสียประตูของปีศาจแดง)
ส่วนการพุ่งเซฟคงต้องฝึกกันอีกเยอะ แต่อย่าลืมว่านี่เพิ่งเป็นต้นฤดูกาลไม่ควรตัดสินใครคนเดียวจากระยะเวลาสั้นๆ อยู่แล้ว
เบอบาตอฟ ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนแดนนี่ เวลเบ็ค เกมยังคงเป็นของเวสต์บรอมฯ ได้บุกเยอะกว่าทีมเยือน แต่ในนาทีที่ 79 กลายเป็นปีศาจแดงที่สามารถคว้าชัย โดยการที่แอชลี่ย์ ยัง หลุดเข้าไปในกรอบก่อนจะปาดมาหน้าประตู แต่บอลแฉลบกองหลังเวสต์บรอมฯ ถึงสองต่อและเปลี่ยนทางเสียบเสาสองแบบโชคดี
จบเกมปีศาจแดงแชมป์เก่าคว้าชัยในการประเดิมนัดแรก ด้วยชัยชนะเหนือเวสต์บรอมวิช ในสกอร์ 1 - 2 ขึ้นอันดับสองในตารางตามโบลตันที่ชนะควีนส์ปาร์ค แชมป์จากเดอะแชมป์เปี้ยนชิพด้วยสกอร์ 0 - 4 และตามด้วยวูล์ฟแฮมป์ตันที่ชนะ แบล็คเบิร์น ด้วยสกอร์ 1 - 2
จากนี้ไปคงต้องลุ้นกันต่อว่า อาการบาดเจ็บของ วิดิช ริโอ เอวร่า และราฟาเอล ที่เจ็บตั้งแต่ต้นฤดูกาล จะส่งผลอย่างไรต่อทีมปีศาจแดง ทั้งที่เกมต่อไปต้องเจอกับ สเปอร์ อาร์เซนอล โบลตัน และเชลซี ตามลำดับ รวมทั้งอริอย่าง ลิเวอร์พูล และแมนฯ ซิตี้ ในเดือนตุลาคมอีกด้วย
กองหลังที่เหลืออยู่จะคงมี ฟิล โจนส์ สมอลลิ่ง อีแวนส์ และฟาบิโอ เพียงเท่านั้น คงจะเห็นกองกลางบางคนถอยลงมายืนแบ็กเพื่อทดแทนตำแหน่งแน่ๆ
เกมในนัดนี้เกมรุกในแดนกลางยังพอมีจังหวะจากการประสานงานของแอนเดอร์สัน และเคลฟเวอร์ลี่ย์ ในจังหวะสวยๆ อยู่บ้าง ถ้าได้โอกาสไปเรื่อยๆ เกมรุกต้องฉูดฉาดอย่างแน่นอน แต่กลับผิดกับเกมรับที่เปิดโอกาสให้เวสต์บรอมฯ ได้โจมตีในแดนกลางได้เรื่อยๆ ตลอดทั้งเกม ขาดการตัดบอล ไล่บอลที่ดุดันไปอย่างที่ควร
เวลาในการซื้อขายนักเตะยังมีถึงสิ้นเดือน อยู่ที่การตัดสินใจของเซอร์อเล็ก ว่าต้องใครมาเพิ่มหรือไม่
ส่วนปีกซ้ายอย่าง แอชลี่ย์ ยัง มีบทบาทในเกมนี้เยอะมาก แต่ก็เสียมากเช่นกัน ถ้าไม่นับลูกนิ่ง การเปิดอย่างไม่ลืมหูลืมตาทำให้กองหลังฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสตัดบอลและสวนกลับได้
บทบาทที่น้อยลงไปกลายเป็นนานี่ ที่ต้องหาจังหวะในการครองบอลเองทั้งที่เกมควรจะมีทั้งซ้ายและขวาในการทำเกมที่หลายหลาก แต่บทหนักกลับไปอยู่ที่แอชลี่ย์ ยัง คนเดียวซะงั้น
สุดท้ายครึ่งหลังกลายเป็นเบอบาตอฟ ที่ถูกส่งลงมาแก่คนเดียวในทีม ในทีมที่เหลือกลายเป็นเด็กหนุ่มๆ ซะส่วนใหญ่ ผิดกับฤดูกาลที่แล้วที่นักเตะอายุมากๆ อยู่กันเยอะซะเหลือเกิน เห็นได้ชัดถึงการถ่ายเลือดใหม่ของปีศาจแดง และด้วยพลังหนุ่มของนักเตะเลือดใหม่จะระเบิดฟอร์มในฤดูกาลนี้หรือไม่ คงต้องให้ผู้เขียนบทอย่างเซอร์อเล็ก เป็นผู้กำหนด...
นิกกี้
จากผู้เขียน : ผมเพิ่งหัดเขียนคอลัมภ์โดยใช้ความรู้เล็กน้อย ผิดพลาดอย่างไรขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ












