UpToGru เขียน:ผมเคยบอกไปแล้ว ว่า ความเป็นแมน ยู มันไม่ได้หายไปหรอก ที่ที่เปลี่ยนไปบ้าง คือ แทค ติก
แต่ที่หายไปจริงๆ คือ มาตราฐาน ระดับพัฒนาการ ที่ควรจะมี มัน ไม่ค่อยเติบโตเท่าไหร่
ผมมองในมุมกว้างๆนะ จากสายตาแฟนบอลที่เชียร์มา 20 กว่าปี(เห็นฮิตกันจัง เชียร์มา 10 ปี 20 ปี เลยขอแจมมั่ง 555)
เพราะ มาตราฐาน ตอนนี้ ของแมน ยู ถ้า เอาตอนนี้ ไป แข่ง เมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว รับรอง แชมป์ ง่ายๆสบาย คะแนน ทิ้งห่าง หรือจะเรียกได้ว่า คนละ ระดับ กันเลยทีเดียว เพราะเมื่อก่อน แมน ยู คือทีม ต้นๆที่ มีนักเตะต่างชาติ อยุ่ในทีมมากมาย แต่ทีมอื่น ส่วนใหญ่ จะมีอยู่ใน สหราชอนาจักร เท่านั้น ระดับคุณภาพ เลยเรียกว่า เทพแห่ง เกมส์รุก ทีมไหนๆ เมื่อเจอ แมน ยู ต้อง อุดไว้ก่อนซะส่วนใหญ่ และอื่นๆอีกมากมาย(คนเก่าๆน่าจะเคยเห็นกัน) ละไว้แค่นี้ละกัน
แต่ปัจจุบัน ทีมอื่นไม่ว่า จะใหญ่ กลาง เล็ก พัฒนาการ เรียกได้ว่า ก้าวกระโดด กันขึ้นมาก ช่องว่าง ระหว่าง ระดับที่เคย ห่างอยู่มาก มันแคบลง มาเรื่อยๆ จนเรียกได้ว่า แต่ละเกมส์ไม่ใช่เกมส์ง่ายนักสำหรับแมน ยู เพราะ พวกเขา มีปัญญาซื้อนักเตะดีๆ โค้ชดีๆ การฝึกซ้อม ระบบทีมที่ดี ก็มีมากขึ้น
อีกทั้ง เงินก็เป็นปัจจัยสำคัญในการ ยกระดับทีมของตนเองให้ดีขึ้น อันเนื่องมาจากนักเตะ ยกตัวอย่างง่ายๆ เชลซี หรือ แม้แต่ แมน ซิ ถ้าพวกนี้ไม่มีเงินระดับมหาศาลเข้ามา ถามว่า อีกกี่ชาติ จะ ได้แชมป์ แต่เมื่อ พวกนี้มีโอกาส มีเงินซื้อนักเตะ มีโค้ชดีๆเข้ามา ความสำเร็จ ก็เกิดขึ้น เพียงแต่ว่า จะยาวนาน หรือเปล่า ขึ้น อยู่กับ ปัจจัย อื่นๆประกอบ อย่างที่ มูรินโญ่ เป็นตัวอย่าง
ทำให้ปัจจุบัน ทุกทีม ทุกเกมส์ ไม่ใช่งานง่ายๆสำหรับแมน ยู เมื่อเล่นไม่ง่าย ไอการที่จะบุกแบบที่โหม บุก กระหน่าใส่ มันย่อมเกิดไม่บ่อยอันเนื่องจาก แทคติก หรือ คุณภาพนักเตะบางคนที่ไม่เอื้อ ฉะนั้น ก็ต้องทำใจ ยอมรับตรงนี้บ้าง
แต่ถ้าถามผมว่า ชอบแบบไหน ผมก็ชอบสไตล์แบบที่เจ้าของกระทู้บอกนะแหละ เพียงแต่ว่า มะก่อน กับ ปัจจุบัน มันแตกต่างกัน พอสมควรเท่านั้นเอง
ปล.สิ่งที่หายไปจาก ระบบเกมส์รุกอันร้ายกาจ ของแมน ยู คือ ฟรี คิก ลูกตั้งเตะ ซึ่งบอกตรงๆ พอหมด ยุค เบ็คแฮม แทบไม่ต้องลุ้นกันเลย สำหรับ ลูกฟรีคิก
วิเคราะห์ได้โดนใจจริง ๆ เห็นด้วยเลยครับ
