จบแล้วนะครับ ฤดูกาลที่เราต้องเจออะไรหลายอย่างเหลือเกิน กับการพยายามมองโลกในแง่ดีอย่างที่สุดแล้ว... อย่างน้อย เป็ดไม่ได้แชมป์ ก็ถือว่าเป็นเรื่องแฮปปี้เอ็นดิ้งอย่างนึงของผมครับ ไม่มีใครจำอันดับ 2 หรอกครับ ...
อีกอย่างที่น่าสนใจก็คือสถิติ ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 1 ของไรอันกิ๊กซ์ ก็น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้อะไรๆมันง่ายขึ้น ... ผมเชื่อว่ากิ๊กซ์ สามารถพาทีมชนะรวดได้ เพียงแค่ง่ายๆ ก็คือใช้ทีมเดิม 4 นัด... แต่เค้าเลือกที่จะซื้อใจลูกทีมด้วยการหมุนเวียนให้โอกาสทุกคน ผลที่ออกมาก็คือ ทุกคนน่าจะดูมีความหวังที่จะแข่งขันกลับมามีชีวิตชีวาในการแย่งตำแหน่งเหมือนเดิม ไม่ถอดใจคิดเดินออกจากทีมไปเหมือนสมัยมอยส์ ที่ดองคากาวะ ชิชาริโต้จนเกินงาม ... การทำแบบนี้ของกิ๊กซ์ นั่นน่าจะเป็นจุดเริ่มที่ดีที่จะรั้งตัวนักเตะหลักๆไว้ได้ ... ผมว่าเค้าเองก็อาจจะรู้ดีด้วยซ้ำ ว่าไม่มีทางได้เป็นผู้จัดการทีมถาวร แต่ก็ทำเต็มที่เพื่อเรียกสปิริท และความเชื่อมั่นของนักเตะในทีมไว้... ซึ่งตอนจบแบบนี้ ก็ทำให้ฝ่ายบริหาร เดินหน้าแต่งตั้งกุนซือถาวรได้ไม่ตะขิดตะขวง ไม่ต้องเจอกับกระแสต่อต้านของคนอยากได้ไรอันกิ๊กซ์มาเป็นผู้จัดการทีม... ซึ่งเป็นอีกสิ่งนึงที่ทำให้ผมโล่งใจ เพราะถ้าหากกิ๊กซ์ เป็นกุนซือ แน่นอน ความผูกพันธ์กับนักเตะแบบเฟลทเชอร์ ยัง หรือความเกรงใจนักเตะอย่างรูนี่ ก็จะทำให้เค้า "มั่นใจในทีมเกินไป" อาจจะก่อความผิดพลาดซ้ำอีกครั้ง และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด สัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้ ก็น่าจะเป็นการเปิดตัวเป็นทางการซักที กับหลุยฟานกัล ที่รอจังหวะเหมาะสมมานาน...
ผมเชื่อว่า การให้ไรอันกิ๊กซ์ ได้ทำหน้าที่จนครบ เพื่อเป็นการให้เกียรติ และจังหวะ ก่อนที่จะเริ่มเกมอุ่นเครื่องในการเตรียมทีมบอลโลก ซึ่งก็คือสัปดาห์ที่กำลังมาถึงนี้ น่าจะเป็นจังหวะที่ลงตัวที่สุดในการประกาศแต่งตั้งฟาน กัล ... เนื่องจากจะเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินหน้าเสริมทีม อย่างเป็นทางการ โดยนักเตะที่ไม่มั่นใจในอนาคตของสโมสร ก็น่าจะหมดข้อกังขา กับกุนซือที่จะต้องร่วมงานด้วย ... จากความผิดพลาดในการเข้าตลาดช้า เนื่องจากรอเดวิดมอยส์ หมดสัญญาคราวที่แล้ว ก็คงจะไม่เกิดขึ้นซ้ำสอง และสไตล์ฟานกัล ก็น่าจะมีนักเตะในดวงใจที่จะสั่งการให้เอ็ด วู้ดเวิร์ดไปจัดการล่าตัวมาอยู่จำนวนนึงแน่ๆแล้ว...
การมาของฟานกัล น่าจะทำให้เราเริ่มต้นนับ 1 ใหม่อีกครั้งอย่างสมบูรณ์แบบ น่าจะหมดยุคการเกรงใจให้นักเตะอย่างรูนี่ยิงจุดโทษ หรือเตะมุมซักที หรือแม้แต่ยึดตำแหน่งจอมฟรีคิก ... ทั้งๆที่เปอร์เซ็นต์การยิงเข้านั้นน้อยซะเหลือเกิน ความแม่นยำในการเปิดก็งั้นๆ จากนี้ คนที่จะรับหน้าที่ต่างๆ ก็น่าจะรับด้วยความสามารถล้วนๆ สิ่งที่ผมเชื่อว่าจะได้เห็น ก็คือการต่อสู้แย่งตำแหน่งด้วยความสามารถล้วนๆ ใครอยากได้รับโอกาส ก็ต้องทุ่มเท นั่นจะทำให้เรากลับมาเริ่มต้นเดินหน้าอย่างมั่นคง ซึ่งผมเชื่อว่า ถ้าแมนยูฯตัดสินใจเลือกฟานกัล นั่นก็คืออำนาจสิทธิ์ขาด ในการตัดสินใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องมาจากฟาน กัล เท่านั้น ใครแตกแถวก็เก็บข้าวของออกไปได้เลย... และโค๊ชอย่างฟานกัล ที่ทำทีมแบบนี้มาตลอด ย่อมรู้ดี ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เจอขาใหญ่ตั้งป้อมเตะไล่โค๊ช... เราจะได้เห็นจากการเสริมทีมซัมเมอร์นี้แหละ...