===============
1. การยิงเลียดพื้นโดนเซฟง่าย การยิงสูงขึ้นเซฟยากกว่า
จากรูปและคำอธิบายที่ผ่านๆมามันคงชัดเจนมากแล้วนะครับ คงไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมให้ยืดยาว >>> ข้อโต้แย้งมันจะมีอยู่แค่ว่ายิงสูงเสี่ยงข้ามคาน
2. เวลาแข่งจริง นักเตะโดนกดดัน ทำให้ยิงพลาด ยิงไม่ได้ดั่งใจ ถ้ายิงสูงอาจจะพลาดข้ามคาน
ทำไมไม่คิดกลับบ้างว่า แล้วยิงต่ำมันไม่โดนกดดันพลาดออกข้างประตูเหรอครับ ... ถ้าจะคิดว่า ยิงสูงก็โดนกดดันพลาดเอาได้ งั้นยิงต่ำมันก็โดนกดดันเหมือนกันก็มีโอกาสพลาดได้อีกเช่นกัน
คือในเมื่อมันต่างก็โดนกดดัน พลาดพอๆกันทั้งคู่ >>> ทำไมไม่เลือกยิงตำแหน่งที่มันมีโอกาสเข้ามากกว่า (นั่นก็คือข้างบน หรือ ยิงสูงขึ้นนั่นเอง)
จะแย้งว่ายิงต่ำโอกาสพลาดน้อยกว่าทำไมกัน >>> ในเมื่อรูปก็สื่อให้ดูชี้ชัดแล้วว่า ตำแหน่งยิงต่ำน่ะมีพื้นที่ให้ยิงเข้าเป้า โคตรน้อยเลยครับ เป็นช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ผมว่ายิงต่ำจะกดดันมากขึ้นไปอีก เพราะช่องมันมีน้อยมาก โดนกดดันแบบนี้ยิงไม่ตรงหรอกครับ (ขนาดในรูปโรนัลโด้ยังยิงไม่ตรงเลย)
พื้นที่ข้างบนมีให้ยิงเยอะแยะ สะดวกมาก กลับไม่เลือกยิงกัน คนเรานี่ก็แปลก อ้างแต่ว่า โดนกดดัน เลยต้องยิงต่ำ ทั้งๆที่ยิงต่ำน่ะสิกดดันกว่า

ไอ้คำว่าโดนกดดันเนี่ย มันแยกได้ 2 อย่างนะ
----------------------------------------------
2.1 โดนกดดัน ร่างกายเลยผิดปกติ มือไม้ ขาแข้งสั่น กล้ามเนื้อเกร็ง ยิงแล้วไม่ตรงที่เล็ง
ก็อย่างที่อธิบายไปครับ ในเมื่อจะ ยิงสูง หรือ ยิงต่ำ มันก็เกร็งอยู่ดี งั้นก็ยิงสูงไปสิครับ เพราะพื้นที่เข้าประตูมีเยอะกว่า ไม่ใช่ว่าขาสั่นแต่ยังจะยิงไปตรงช่องเล็กๆอีก ... เออ แปลก
2.2 โดนกดดัน เปลี่ยนมุม เปลี่ยนความคิด นักเตะสับสน ลนลาน
อันนี้ต้องไปฝึกสภาพจิตใจเพิ่มแล้วครับ หรือไม่ก็ผู้จัดการทีมควรเป็นคนระบุเลยยิ่งดี ว่า คนที่ 1 ยิงบนซ้าย / คนที่ 2 ยิงบนซ้าย / คนที่ 3 ยิงบนขวา / .... เพราะถ้ากำชับสั่งมาแล้ว ยังไงมันก็ต้องยิงตามสั่ง ไม่ต้องมากังวลเปลี่ยนใจอะไรเลย ลดความกดดันให้นักเตะไปในตัว
(เพราะถ้ายิงไปตรงนั้นแล้วไม่เข้า ก็ต้องด่าผู้จัดการทีมนั่นแหละ เพราะเป็นคนสั่ง ถือว่าเป็นการช่วยลดแรงกดดันได้อย่างดี)
ทำไมนักกีฬายิงปืน เขาแข่งขันชิงแชมป์โลก ชิงแชมป์โอลิมปิก เขาโดนกดดันยังไง มือไม้แข็งยังไง เขาก็ยิงได้ปกติ เข้าเป้ากันตลอด อาจจะเพี้ยนไป 1-3 ซ.ม.
แต่มันแสดงให้เห็นว่า พวกแรงกดดันมันไม่มีผลหรอกครับ หลักๆก็อยู่ที่ศูนย์ปืน เล็งตรงแล้วแต่ปืนกากปืนมันเพี้ยนไปเอง ไม่มีใครกดดันจนต้องเปลี่ยนมุมยิง ไปยิงข้างเป้า นอกเป้า เพราะต่างก็รู้อยู่แก่ใจว่าต้องยิงให้เข้าเป้า ยิงตรงวงกลมสีดำ เท่านั้น
คือที่ยกตัวอย่างการยิงปืนนี้ ผมรู้ครับว่าการยิงปืนมันง่ายกว่าการเตะใช้เท้าเตะบอล ... แต่ก็อย่าลืมว่า ผมไม่ได้ต้องการให้นักเตะ เตะเข้าเป้าตลอด 100% คือ ผมอธิบายไปแล้วว่า มันต้องมีพลาดแน่ มีรัสมีความผิดพลาด เตะแล้วไม่ตรงตำแหน่ง แต่มันคงไม่เวอร์เกิน 1 เมตร (นับเส้นรัศมี) จากตำแหน่งที่เล็งหรอกครับ คนฝึกมาดี มันต้องทำได้ครับ
ที่เห็นว่ายิงออกข้างประตูกัน หรือยิงข้ามคานกัน นั่นเป็นเพราะกะตำแหน่งไม่ดี เล่นมุมมากไป เล็งสูงมากไป ต้องไปฝึกมาครับ ... หรือไม่ก็พวกขาสั่น กล้ามเนื้อเกร็ง ซึ่งพวก สั่นๆเกร็งๆนี้ ยิงตรงไหนมันก็สั่นหมดอยู่ดี ดังนั้นยิงไปตรงจุดที่มีพื้นที่เข้าประตูเยอะๆจะดีที่สุด ขืนเล็งไปตรงช่องเล็กๆมันคงจะเพี้ยนหนักกว่าเดิม
เรื่องจิตใจเนี่ย จะโต้แย้งยังไงสุดท้ายแล้วก็ต้องยอมรับกันอยู่ดีว่าทีมเรายิงจุดโทษได้กาก แต่ทำไมทีมคู่แข่งของเรายิงจุดโทษได้ดีกว่าเรา ทีมอื่นเขาทำได้ แต่ทำไมทีมเราทำไม่ได้
สมควรฝึกเพิ่มหรือยังครับ >>> ก็สมควรฝึกเพิ่มเติมอยู่แล้ว ... อันนี้มันก็ตรงตามที่ผมพยายามบอกให้ฝึกเพิ่มกันอยู่แล้วนี่ครับ
3. ประเด็น คุณคิดว่าทีมเราอาจจะสอน กำชับ หรือสั่งฝึกแล้ว ... หรืออาจจะยังไม่ฝึก ไม่สอน ก็เป็นไปได้เหมือนกัน อันนี้ไม่มีใครรู้ ใช่มั๊ยครับ
นั่นล่ะครับ ... ประเด็นมันอยู่ที่ว่า
3.1 ถ้าสอนแล้ว ทำไมยังกาก ... แต่ทีมอื่นเขาเตะดีกว่าเรา >>> ก็แสดงว่า ทีมเราต้องฝึกเพิ่ม ทั้งตัวนักเตะ และผู้ฝึกสอนต้องหาวิธีการสอนใหม่ๆมาใช้
3.2 ถ้ายังไม่สอน ปล่อยให้มันเตะตามใจชอบกันเอง >>> ก็ยิ่งชัดเจนว่า ต้องสอนกันได้แล้วครับ ขืนปล่อยไว้จะเน่าอยู่อย่างนี้ ไม่พัฒนา ไม่ดีขึ้น
นั่นคือ ... ไม่ว่าจะสอน หรือไม่สอน ยังไงก็ต้องฝึกเพิ่มกันอยู่แล้ว และฝึกให้ดีขึ้นไปอีก >>> แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับคนวงใน หรือคนวงนอก ... ข้อนี้ไม่ต้องมีคนรู้จริงเลยครับ ไม่ต้องไปเป็นคนทำงานในสโมสรเลย เพราะว่าสิ่งเดียวที่ชัดเจนคือ ทีมเราต้องเรียนรู้ ฝึกสอน และฝึกซ้อมเพิ่ม เพื่อให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ครับ
4. เรื่องมุมมองทรรศนะคติการดูบอล แยกได้ 2 ประเด็น
4.1 เรื่องคุณมองเกมการแข่งขันว่า คุณพอใจที่จะมีส่วนร่วมกับเกมการแข่งขันแค่ 120 นาทีเท่านั้น ส่วนการเตะจุดโทษผลจะเป็นยังไงคุณไม่สนใจ จะยิงเข้าไม่เข้า จะแพ้หรือชนะ คุณไม่ได้อะไรด้วยเลย
ตรงนี้ก็อยากจะถามว่า แล้วคุณจะมาโพสต์โต้แย้งทำไมเนี่ย ... เมื่อผมกำลังชี้แจงให้เห็นว่า การเตะเลียดพื้นมันรับง่าย แถมจะยิงให้เข้าเป้าก็ยากอีก สมควรเตะให้สูงขึ้น ... คุณกลับมาโต้แย้งเหมือนกับว่า ยิงเลียดพื้นดีกว่า ทั้งๆที่คุณบอกไม่สนใจ
4.2 คุณมองว่าการยิงจุดโทษ คือ การวัดดวงตัดสิน แต่ตรงนี้มันไม่ใช่นะครับ ผมพยายามชี้หนักมากว่าการยิงจุดโทษคือการใช้ความแม่นยำ เพราะถ้ายิงเข้าเป้าก็ได้ประตูแล้ว
ตัวอย่าง สมมติว่า คุณเล็งสามเหลี่ยมข้างบน ถ้าคุณเตะเข้าเป้า คุณก็ได้ประตู ใช่มั๊ยครับ ... คือ มันไม่ต้องไปวัดดวงอะไรกับใครครับ หรือคุณจะยิงเลียดพื้นก็เล็งโคนเสาประตูแค่นี้ก็ได้ประตูแล้ว ถูกมั๊ยครับ ... ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องของการวัดดวงอะไรเลย แต่มันเป็นเรื่องของความแม่นยำ ความชำนาญ
(ถ้าจะวกกลับไปเรื่องเดิม คือ ต่อให้แม่นยำยังไง ก็ยังต้องพลาดอยู่ดี เพราะขนาดนัดกเตะระดับโลกยังพลาดได้ ... ผมก็จะให้คิดกลับกันครับว่า ในเมื่อยิงต่ำก็กดดันมีโอกาสพลาด ยิงสูงก็กดดันมีโอกาสพลาดเหมือนกัน แล้วจะไปยิงต่ำทำไมครับ ในเมื่อข้างบนมีพื้นที่ให้ยิงเยอะมากกว่า)
สุดท้ายก็ขอย้ำเลยครับว่า การยิงจุดโทษไม่ใช่การวัดดวง >>> ตัวอย่าง นักกีฬายิงปืน ถามว่าเขาไปแข่งวัดดวงกับใครหรือเปล่า ? คงไม่มีตอบหรอกนะว่าใช่แล้ว การยิงปืนคือการวัดดวง !!!
*** นั่นแหละครับท่านผู้ชม ... ถึงเวลาเปลี่ยนทรรศนะคติกันใหม่ได้แล้ว ***
ปล. คาดว่าไอ้พวกผู้ฝึกสอนทีมเราก็คงมัวแต่คิดว่าการยิงจุดโทษคือการวัดดวงนี่ล่ะ มันเลยไม่ยอมฝึกนักเตะกัน ปล่อยให้ยิงนกตกปลาไปวันๆ
คำถามครับ (ถามทุกคนที่ได้อ่าน)
==================
ยิงไปตรงไหนมีโอกาสเข้ามากกว่า (ณ. จุดนี้กำลังสมมติว่าเรายิงไปด้านซ้ายมือนะครับ อย่า ... ตอบเอาฮาว่ายิงไปทางขวา)
- ในเมื่อยิงข้างล่างก็กดดันจังเลย กลัวออกข้าง กลัวเตะไม่ดีไม่ชิดมุม คือเตะไปให้ผู้รักษาประตูเซฟ เพราะว่าพื้นที่ให้ยิงมีน้อยนิด (ช่อง 4 เหลี่ยม)
- ถ้ายิงข้างบนก็กดดันกลัวข้ามคานอีก
ต่างคนก็ต่างกลัว ต่างกดดันทั้งนั้น (ตรงนี้ล่ะครับ ผมเลยบอกว่า มันไม่มีผลของความแตกต่าง) แต่มองเห็นกันป่ะครับ ว่าตรงไหนมีพื้นที่ให้ยิงมากกว่า โอกาสผิดพลาดน้อยกว่า (หมายถึงว่า ต่อยิงให้พลาดยังไง ผู้รักษาประตูก็ยังเอื้อมมือไม่ถึงอยู่ดี เข้าอยู่ดี)
