ตอน : ไม่รู้จักหมู ไม่รู้จักเต

คู่สร้างคู่สม ดวงใหม่บนสนามหญ้า ที่ชะตากรรมต้องลิขิตมาให้มาพบรักกันในเวลานี้
ช่วงนี้ จะสังเกตุได้ว่า คอลีน แม็คคาฟลีน ไม่มีความสุขเอาเสียเลย เมื่อว่าที่พระสวามีของนางนั้น ได้ทำการแอบมีกิ๊ก ที่ไม่ใช่ปีกพ่อมด ไรอัน กิ๊กส์ ที่อยู่ดีๆ เกิดถูกต้องชะตา พบรักกันในสนามหญ้าสีเขียวในเวลาชั่วพริบตา กับชายหนุ่มวัยและรูปร่างสัดส่วนใกล้เคียงกันอย่าง คาร์ลอส เตเวซ ซึ่งเดิมทีนั้น เจ้าหมูรูนของเขาจะมีรสนิยมแปลกๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะการแอบหนีคอลีนไปขึ้นครูกับสาววัยคุณป้า อย่าง อูลด์ แสลปเปอร์
เดิมที เรื่องที่จะเขียนในวันนี้ ก็คือ เรื่องราวของ Fantastic Four หรือ เลข 4 มหัศจรรย์ ซึ่งเป็นเลขที่ถูกโฉลกกันจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น การถล่มคู่แข่งแต่ละทีมยับเยิน 4 ประตูทุกนัด เป็นเวลาร่วมเดือน เว้นแต่ เกมที่เสมอกับอาร์เซน่อล 2-2 (ถ้ามองในแง่ดี เกมนี้ ก็ยิง 4 ลูก แต่แบ่งให้ปืนโตไป 2 ลูก) หรือการเข้ามามีบทบาทสำหรับ 4 นักเตะใหม่ที่เป็นแรงขับเคลื่อนในฤดูกาลนี้ และเลข 4 นี้มีลางว่า จะเป็นถ้วยแชมป์ที่ยูไนเต็ดจะได้ในปีนี้ด้วย (ชาร์ลิตี้ชิลด์ + พรีเมียร์ + เอฟ เอ + UCL)
แต่ผมอดไม่ได้ที่จะต้องพูดถึง คู่รักคู่อวบคู่นี้ เพราะทั้งคู่มีส่วนช่วยในการถล่มคู่แข่งจนวอดวายทีม 4 ลูกตลอดช่วงระยะเวลา 2 เดือนหลัง ซึ่งเกือบทุกนัด ต้องมีรายชื่อของกองหน้าระดับโลกชาวอังกฤษและอาร์เจนติน่า อยู่เสมอ เกือบทุกนัด จะขาดก็เว้นแต่นัดถล่ม แอสตัน วิลล่าไป 4-1 จนวิลล่า ปาร์ค เกือบไฟไหม้ และนัดสอนเชิง ดินาโม เคียฟ ถึงถิ่น 4-2 และต่อจากนี้ คงจะคาดเดาได้ยากว่า คู่นี้ จะยิงกันไปถึงไหน (แต่ไม่มีใครเบื่อหรอกนะ)

โอเล็กซ์ ลุชนี่ กลับมาโดนยำในโอล์ด แทร็ฟฟอร์ต อีกครั้งอีกครา โดยคราวก่อนนั้นมาในฐานะนักเตะของ เดอะกันเนอร์ส
คนที่อาจจะซวยที่สุดในฤดูกาลนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถึงแม้ว่าเจ้าตัวเองจะยิงประตูได้เยอะถึงเยอะมากในฤดูกาลก่อน แต่ปีนี้ มีแววถูกแบ่งสันปันส่วนจาก คู่รักคู่อวบ ไปจนเสียหมด หลังจากตอนปิดฤดูกาลได้พนันกับป๊ะป๋าแพนด้า เอาไว้ว่า ถ้ายิงไม่ได้เกิน 20 ลูก ไอ้ Jet โด้ ของเรานั้น จะเข้าพิธีอุปสมบท บวชเป็นพระภิกษุ เพื่อทดแทนบุญคุณบิดาและมารดา ที่เฝ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิด

เมื่อ 8 ปีที่แล้ว เราได้ปิติยินดี กับ คู่หูกองหน้าครอบครัวตัวดำ อย่าง แอนดี้ โคล และ ดไวท์ ยอร์ค
อย่างไรก็ตาม การมาของคู่แท้ปฏิหารย์นั้น ทำให้หลายๆ คนย้อนกลับไปนึกถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต เมื่อ 8 ปีก่อน ที่สามารถคว้าทริบเปิ้ลแชมป์ได้ จากการประสานงา เอ้ย! ประสานงานระหว่าง คู่หูผิว(ตูด)หมึก หรือแม้กระทั่งคู่หูคูฮา อีกคู่นึงในปีเดียวกันของทีม ดินาโม เคียฟ ที่ยูไนเต็ดเพิ่งยำไปกลับ 8 ประตูมาเร็วๆ นี้ อย่าง อังเดร เชฟเชนโก้ และ เซอร์เก เรบรอฟ ที่คนหนึ่งไปได้ดีกับ เอซี มิลาน แต่อีกคนหนึ่ง ไปตกอับกับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส

เซอร์เก เรบรอฟ และ อังเดร เชฟเชนโก้ ต่างก็เป็นสากกะเบือกันทั้งคู่ เมื่อย้ายเข้ามาเล่นบนเกาะอังกฤษ
แต่ข้อที่น่าสังเกตุของสองคู่ที่มีทีมเวิร์คอย่างเดียวแน่นได้ชัดเจนก็คือ เมื่อยามเล่นคนเดียว โดยไม่มีคู่ขารู้ใจ ก็จะเป็นสากกะเบือไม้ตีพริก ที่แทบจะคลำประตูไม่ได้เลย หรือดูได้จาก แอนดี้ โคล สมัย ที่ "เดอะ คิง" เอริก คันโตน่า ยังค้าแข้งอยู่ นั่นเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่า คิง โคล ในเวลานั้น ยังเร็วเกินไปที่จะจับคู่กับ คิงเอริก แต่กลับทำผลงานได้ดี เมื่อเล่นคู่กับ ดไวท์ ยอร์ค
นอกเหนือจากคู่หูกองหน้าที่เข้าขากันได้ดีแล้ว ตอนนั้นเรายังมี เซ็นเตอร์ ฮาล์ฟ ที่เข้าขากันได้ดีอย่าง รอนนี่ ยอห์นเซ่น และ ยาป สตัม ที่เพิ่งแขวนเกือกไปเมื่อไม่นานนี้เอง เป็นคู่หูในแนวรับ ซึ่งฤดูกาลที่ผ่านมา เราได้คู่หูแนวรับสุดหินอย่าง เนมันย่า วิดิช ที่มาเป็นส่วนเติมเต็มให้กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นสิ่งฤดูกาล 1999 และฤดูกาลนี้ เหมือนกันอย่างเห็นได้ชัดก็คือ การมีคู่หูศูนย์หน้าและคู่หูเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ที่รู้ใจกัน
ไม่น่าเชื่อว่า การพบกันในเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ในโอล์ด แทร็ฟฟอร์ด รูนี่ย์ กับ เตเวซ ต่างต้องเผชิญหน้าในฐานะคู่แข่งกัน ซึ่งวันนั้น อาจจะเป็นงานเลี้ยงฉลองแชมป์ที่กร่อยสำหรับยูไนเต็ดไปนิดนึง เพราะ คาร์ลอส เตเวซ เป็นคนสังหารประตูชัย ให้ เวสต์แฮม ชนะ แมนยูฯ 0-1 พร้อมๆ กับ พาทีมขุนค้อนรอดจากการตกชั้นได้อย่างหวุดหวิด แต่การฉายแววเจิด เจอร์ราร์ด เอ้ย! เจิดจรัส แบบนี้แล้ว เฟอร์กี้ ไม่มีทางเมินนักเตะทักษะสูงคนนี้แน่นอน

ทั้งคู่พบรักกันครั้งแรก กันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว นัดสุดท้าย ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อเร็วๆ นี้นี่เอง
พอย้ายเข้าร่วมทีมยูไนเต็ดแล้ว โชคดันไม่เข้าข้างสักเท่าไหร่ รูนี่ย์ ดันมาเจ็บซะ หายไปร่วมเดือนกว่าๆ ปล่อยให้คู่หูของเขาต้องอดทนรอเวลาที่ฝนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงแตกต่าง ซึ่งผลงานงานตอนต้นฤดูกาลนั้น เตเวซแถมจะไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน เมื่อถูกจับเป็นกองหน้าตัวเดียว ซึ่งการครองตัวเป็นโสดในแนวรุกแบบนี้ ทำให้ไล่ต้อนคู่แข่งได้จำเขี่ยจำกัดวันละ 1 ประตู
แต่หลังจากรูนี่ย์ ออกจากโรงพยาบาลโดยที่ไม่ได้ขอเบอร์พยาบาลสาวๆ รุ่นคุณป้าติดตัวไว้สักคน แล้ว รูนี่ย์คงจะไปทำความคุ้นเคยตีสนิทสนมกันมากขึ้น เมื่ออยู่ด้วยกันนานๆ แล้ว ส่งผลทำให้รูนี่ย์ต้องใช้เลิฟซีน กับ เตเวซ อยู่ตลอดเวลา และนั่นส่งผลดีถึงฟอร์มในสนามซะด้วย เพราะการที่ยูไนเต็ด กลับมาเล่นฟุตบอลสไตล์ "ยิงแม่งเลย" ได้อย่างสมบรูณ์แบบ นี้ ก็มีปัจจัยสำคัญมาจากคู่หูคู่อวบคู่นี้ไม่น้อย
สรุปโดยรวมแล้ว ผลการแข่งขันของเมื่อวาน บวกกับหลายๆ นัดที่ผ่านมา ก็ทำให้ฟันธงได้อย่างชัดเจนมากขึ้นว่า เวย์น รูนี่ย์ และ คาร์ลอส เตเวซ พร้อมแล้ว ที่จะก้าวขึ้นไปเป็นสองคู่หูศูนย์หน้าระดับโลก ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เหลือเพียงแค่รอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า สองคนนี้จะรวมพลังกัน กระชากแชมป์ ต่างๆ มาประดับบารมีสโมสรได้มากแค่ไหน เท่านั้นเอง
ManSmith