1. แมนยูฯ จะเป็นอย่างเชลซี แมนซิฯ ที่ทุ่มเงินเพื่อความสำเร็จในระยะสั้นๆ หรือจะเป็นแบบ ควีนส์ปาร์คเรนเจอร์ ที่เจ้าของรวย แต่ก็บริหารงานอย่างค่อยเป็นค่่อยไป ตรงนี้น่าคิด เพราะทีมที่มี ก็เป็นทีมที่เฟอร์กี้ปลุกปั้นมากับมือ การจะจ่ายเงินเพื่อซื้อนักเตะใหม่มา นั่นหมายความว่านักเตะที่เสี่ยงลงทุนเพื่ออนาคตอาจจะไม่มีอนาคตรออยู่ เพราะสถานะของทีมอาจจะเปลี่ยนไปแบบที่ระดับความคาดหวังจะมากขึ้น ไม่สามารถลองผิดลองถูกได้อีกต่อไป...
2. เฟอร์กี้จะยังมีความท้าทายเหลืออีกหรือไม่ เค้าจะเลือกที่จะได้ใช้ิเงินมือเติบตอนแก่ เช่นเดียวกับที่กุนซืออย่าง รานิเอรี่ หรือมูรินโญ่ หรือวางมือไปหลีกทางให้กับกุนซือระดับเวิลคลาสที่จะมาสานงานต่อ ซึ่งตอนนี้กุนซือระดับสุดยอดคู่ควรกับทีมอย่างแมนยูฯ ที่ติดอาวุธหนักแล้วก็มีแค่ สายบู๊ อย่างเป๊บ กวาดิโอล่า กับสายบุ๋น อย่างโจเซ่ มูรินโญ่ เท่านั้น ซึ่งด้วยแนวทางของแมนยูฯ ที่เน้นเกมบุก กวาดิโอล่า นั้นมีภาษีเหนือกว่าเห็นๆ... ถ้าผมเป็นเฟอร์กี้ คงเลือกที่จะวางมือ เพราะการทุ่มเงินสร้างทีม ครั้งนี้ไม่ได้มีความท้าทายอะไรอีกแล้วในอาชีพ การที่เฟอร์กี้พาทีมมาถึงจุดนี้ ทำให้ทีมมีมูลค่าการตลาดเป็นเบอร์ 1 ของโลก และประสบความสำเร็จมากมาย นั้นเพียงพอต่อการเป็นตำนานแมนยูฯ แล้ว ที่เหลือก็เลือกแนวทาง ด้วยตัวผู้สืบทอด ให้มาใช้เงินสร้างทีมอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยไปเลยดีกว่า...
3. นักเตะที่จะเข้ามาสู่ทีม ในยุคใหม่ ถ้าสมมติเิฟอร์กี้วางมือ คำว่าเป็นไปไม่ได้ คงไม่มีอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการดึงเมสซี่ และชาบี มาเป็นแกนใหม่ของทีม พร้อมกับเป๊บ หรือแม้กระทั่งการดึงตัวโรนัลโด้กลับมา...เพราะอย่างที่บอก แมนยูฯ จะกลายเป็นทีมที่สุดยอดอยู่แล้ว แถมติดอาวุธหนักเข้าไปในทันที...คนละเรื่องกับเชลซีที่มีเงินแต่ต้องสะสมบารมีอยู่นาน หรือแมนซิฯ ที่มีเงินแต่บารมีไม่ถึง...แง่นึงมันก็น่าสนุกไม่น้อย แต่อีกแง่นึง ก็สงสารนักเตะที่ร่วมหัวจมท้ายกันมา ที่อาจจะต้องกลายเป็นส่วนเกิน... กับความเปลี่ยนแปลง... ข้อนี้ แหละน่ากังวลที่สุดในความคิดผมนะ... แต่อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิดล่ะนะ...
4. นักเตะที่ทิ้งทีมไปขุดทองอย่างเตเบซ คงต้องน้ำตาตกเป็นผู้พ่ายแพ้ไป... อิอิ...อันนี้แถมด้วยความหมั่นใส้










