r_devil เขียน:Norse เขียน:ลองคิดดูว่า ถ้าคุณเป็น CEO ของ สเปอร์ส คุณจะขาย เบล ราคา 30-40 ล้าน หรือไม่ ? (ข้อนี้ลองจินตนาการช่วยนะครับ คิดให้แน่นๆ ลึกๆ)
ผมคิดว่าถ้า เบล ค่าตัวแค่ 30-40 ล้าน เชลซี กับ แมนซิตี้ คงซื้อตัวไปนานละครับ ถูกยังกะขี้เลย
1.ผมคิดว่าคุณคงไม่ซื้อขี้แพงขนาดนั้น และคงไม่มีใครซื้อ หรือคุณจะซื้อ จงอย่าใช้วาจาเช่นนั้น
2.ทั้งหมดมันเป็นแค่การคาดการณ์เนื่องจากนักข่าวมันชอบเขียนโม้ไปเรีือยทั้งที่ความจริงดิลต่างๆก็ไม่เกิดและไม่มีจริง
3.ลองเทียบ เบล กับ รูน เบล กับ เชส แล้วดูราคาที นอลขอซื้อ เชส 25 ล้าน แมนยูก็ขอซื้อ ราคาเท่ากันหลังจากนั้นจึงเพิ่มเป็น 30 ล้าน และมาดูข่าวที่บอกว่่า เซลซีจะซื้อรูน 60 ล้าน ทั้งที่ความจริง นอลและเซลซีขอซื้อรูนที่ 30-35 ล้าน เป็นธรรมดาผู้ซื้ออยากซื้อถูก ผู้ขายอยากขายแพง ถ้าตกลงไม่ได้ดิลก็ไม่เกิด
ปล. ผมไม่เคยบอกนะว่าราคาเบลแท้จริงควรเป็นเท่าไร แต่ผมตามข่าวจากหลายสำนักและวิเคราะห์จากข่าวที่ตรงกัน และผมก็ไม่ชอบการตอบโต่้กับใคร แต่เห็นบอร์ดแมนยูซักจะพูดจาเหมือนคนไม่มีการศึกษามากขึ้นทุกวัน หวังว่าคงเข้าใจ

ข้อ 1 นั่นมันก็เป็นแค่คำพูดเปรียบเทียบ ผมคิดว่ามันก็ไม่มีไรผิดนะครับ อันนี้คง นานาจิตตัง บางทีเราก็คุยกันในกลุ่มเพื่อนพูดกันยิ่งกว่านี้อีก
ข้อ 2 นี้ก็ อย่าไปเชื่อนักข่าวกันมากครับ เราดูบอลมานาน เราควรจะรู้แล้วว่า ความเหมาะสมมันอยู่ที่ประมาณไหน ... ตัวผมเอง เวลาจะประมาณราาคานักเตะผมก็ไม่ได้เอาราคาที่สื่อต่างๆตั้งไว้มาเป็นบรรทัดฐาน แต่ผมเอาจาก ยุคสมัยของการเงินการตลาด / ฝีเท้าตัวนักเตะเอง / เทียบกับราคาคนที่แพงที่สุด (ราคาจริง ไอโด้) คนล่าสุดดู ก็จะรู้แล้วว่า นักเตะคนไหนควรจะราคาประมาณเท่าไหร่
ข้อ 3 เบล เทียบ กับ รูนนี่ ตอนนี้ยังไงเบล ก็แพงกว่าพอสมควร ค่าตัวรูนนี่ 30 ล้าน ค่าตัวเบลคงจะ 30 เท่ากันเป็นไปไม่ได้ ขนาด 40 ล้านยังเป็นไปไม่ได้เลย เพราะว่า เบลเพิ่งจะอายุ 23 แต่ฟอร์มเทพขนาดนี้ (ไม่ต่างจากเนย์มาร์) 50 ล้านจึงเป็นราคาที่ดูแล้วสมเหตุสมผล
... แต่แน่นอนว่า ถ้าเราเป็นพวก CEO ทีมสเปอร์ส เราคงไม่อยากขายนักเตะเทพๆด้วยราคาเท่านี้หรอกครับ เพราะถ้าขายเบลไป 50 ล้าน แล้วจะไปหาใครที่ฝีเท้าเ้ท้าๆพอๆกับเบลในราคา 50 ล้านได้อีก มันไม่ใช่เรื่องง่ายในการค้นหา ดังนั้นต้องคิดค่าอะไรต่อมิอะไรอีก พวกค่าเสียเวลาค้นหานักเตะดีๆอย่างเบล ค่าความเสี่ยงที่ขายเบลไปแล้วทีมจะอันดับต่ำลง (ปกติทีมเทพอยู่แล้ว ขายตัวเทพออกก็ต้องเสี่ยงอันดับและผลงานเน่าลงกว่าเดิม) จนสุดท้าย คงต้องขอสัก 60 ล้าน เพื่อเป็นความคุ้มค่าในการที่จะเสีย เบลไป (ดีไม่ดียังมีค่าความเวอร์ ขอแพงไว้ก่อนอีก อาจทะลุ 70-80 ล้าน แล้วค่อยต่อรองจนเหลือ 50-60 ล้าน ก็ว่าไป) แต่ราคา 30-40 ล้านเนี่ย มันเป็นไปไม่ได้จริงๆครับ
ก็เหมือนตอนทีมเราจะขายโด้ออก เราก็ไม่ได้อยากขาย และตอนนั้น โด้ก็ไม่น่าจะมีราคาเกิน 50 ล้านปอนด์ (เทียบกับ ซีดาน / กาก้า ที่เป็นสถิติตอนนั้น ช่วง 50 ล้านปอนดฺ์) แต่ทีมเราก็ขายไปตั้ง 80 ล้านปอนด์ เพราะอะไร ก็เพราะว่า ไหนๆก็จะเสียมันไปละ กุขอเอาโหดๆละกัน จะได้ไม่เสียเปล่านั่นเอง
แม้กระทั่งแฟนบอลทีมเรา ยังรู้สึกเลยว่า น่าจะได้ 100 ล้านปอนด์ ไปเลย (คือไม่อยากขายกันหรอก แต่ถ้าจะต้องเสียไปจริงๆ ขอเวอร์ๆไปเลย) .... คราวนี้ลองกลับมาคิดดูว่า แล้ว สเปอร์ส มันจะไม่คิดแบบเราเหรอ ?
ส่วน เชส ค่าตัวที่บาซ่าซื้อไปตอนนั้นเท่าไหร่ 35-40 ล้านปอนด์รึป่าว แล้วตอนนี้มันผ่านมา 2-3 ปีแล้ว นักเตะเทพๆราคามันแพงขึ้นอยู่แล้วครับ หมายถึง เบล ราคามันจะไม่ทรงตัวเท่ากับนักเตะคนเดิมๆ การตลาดในโลกฟุตบอลมันก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว
ยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ สมมติตอนนี้ มีนักเตะคนนึงชื่อ A ฝีเท้าเก่งเท่า โรนัลโด้ เลย (ย้ำกว่าเก่งเท่ากันเลย โคลนกันมาเลย) อยู่ทีม AC มิลาน แต่ อายุ 23 ปี (ดังมาตั้งแต่ช่วงอายุ 20 แล้ว ดังในยุโรป หลายๆทีมจ้องตาเป็นมัน พาทีมอยู่อันดับ Top 1-3 ของลีก คว้าแชมบอลถ้วยบ้าง ครองดาวซัลโว กัลโซ่ ผลงานมีให้เห็นเยอะแยะ) ถ้าไอ้นักเตะ A เนี่ยย้ายทีม เชื่อผมเถอะ ว่าราคามันจะไม่อยู่ที่ 80 ล้านปอนด์ เท่าโรนัลโด้ หรอกครับ มูลค่าของมัน จะแพงมากกว่าเจ้าของสถิติเดิมแน่นอน นี้คือ กลไก ของตลาดซื้อขายนักฟุตบอล
(เขาจะไม่เอาราคาสถิติเดิมเป็นตัวยืน แล้วเทียบราคานักเตะใหม่ให้ต่ำลง ... แต่เขาจะเอาสถิติเดิมเป็นตัวยืน แล้วเพิ่มมูลค่าของนักเตะให้มากขึ้นกว่าเดิมครับ)
ลองมาทายกับผมดูก็ได้ครับ ว่าถ้าเกิด กาเร็ธ เบล ย้ายทีมจริง มันจะมีค่าตัวเท่าไหร่ (ไม่ว่าจะย้ายไปทีมไหนก็ตาม) ผมเดาเลยว่า 50 ล้านปอนด์ เป็นราคาเริ่มต้น แต่น่าจะขายออกที่ 55-70 ล้านปอนด์ (ในกรณีที่ขายให้ มาดริด หรือ บาซ่า)