boypra เขียน:UpToGru เขียน:MinnerZzZ เขียน:
แมน ยู เป็นทีมใหญ่นะครับ ประวัติศาตร์มันมีมานาน ด้วยศักดิ์ศรี ผมเชื่อว่า แฟนบอลสมัยนั้น พร้อมที่จะเชียร์และหวังแชมป์ ทุกปี และในการเปลี่ยนแปลง ผู้จัดการทีม แฟนบอลสมัยนั้นย่อมหวัง การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ อยู่แล้ว
ด้วยเหตุผลของตัวมันเอง และ ทีมอริตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล
เห็นแย้งครับ พอดีผมเป็นแฟนบอลสมัยก่อนเฟอก์กี้เข้าคุม และไม่ได้เมากาว ตอนเฟอร์กี้เข้ามาช่วงนั้นถ้าหวังแชมป์ไม่บ้าก็เมาแล้ว ทุกปีหวังแต่บอลถ้วยเอฟเอคัพครับ กับต่อสู้กับเป็ดให้สมศักดิ์ศรี จนปี92 ที่เฟอร์กี้ปรับทีมจนลงตัว ถึงได้คิดหวังแชมป์ครับ แม้ปีนั้นจะเสียแชมป์ให้ลีดส์ ตั้งแต่นั้นมาถึงหวังแชมป์ทุกปีครับ
อันนั้น เป็นความคิดของแต่ละคนครับ ผมไม่ขอออกความเห็นอะไร ใครจะเมากาวหรือบ้าก็แล้วแต่คนจริงๆครับ เพราะต่างคนต่างมุมมองของแต่ละคนจริงๆ
เพราะถ้ามีคนบอกว่า ทุกๆปีช่วงนั้นหวัง ไม่ให้ตกชั้นก็พอ / ลีคคัพก็พอ / อยู่กลางตารางก็พอ /อยู่กลุ่มหัวตารางก็พอ / เอฟเอคัพก็พอ / ชนะลิเวอร์พูล ก็พอ /ซึ่งจริงๆมันก็แล้วแต่คนจะคิดจะหวัง และไม่ได้ผิดอะไร หรือบ้า หรือ เมากาว อะไร
อีกอย่างผมบอกไว้ข้างต้นแล้ว
และเพราะผมรู้สึกแบบนั้นตามความรู้สึกแฟนบอลคนนึง เหมือนกัน
แต่ก็ต้องดูก่อนว่า ช่วงนั้น สภาพทีมเหมาะกับคว้าแชมป์ หรือเปล่า ไม่ใช่หลับหูหลับตาคิดว่าจะต้องได้ก็ต้องได้ โดยไม่ดูอะไรเลยว่าพร้อมหรือเปล่า
ซึ่งนั้นหมายถึง การอดทนรอของแฟนบอล ของบอร์ดบริหาร จนถึงที่สุดสำหรับ การให้โอกาส ป๋ากี๊
การเปลี่ยนแปลงผู้จัดการ สำหรับทีมใหญ่อย่าง แมน ยู ส่วนตัวผมเชื่อว่า แฟนบอลเขาหวังพาทีมได้แชมป์ อยู่แล้ว หละครับ
หวังเพื่อจะได้แชมป์ในสักวัน
จะแชมป์อะไรก็ได้ เอฟเอคัพ ลีคคัพ(มิกกี้เมาส์คัพ) คัพวินเนอส์คัพ ยูฟ้าคัพ พรีเมียลีค อื่นๆ ได้ทั้งนั้น
เพราะ ศักดิ์ศรีของสโมสร มันมีอยู่ / อริกับ ลิเวอร์พูลมันก็มีอยู่
และมันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิงใหญ๋ อย่างที่ ป๋ากี๊ ได้ทำเอาไว้ และที่แฟนบอลหวังไว้ เท่านั้นเองครับ
๐ข้อความตามความรู้สึกส่วนบุคคล เป็นเพียงความคิดเห็นในอีกแง่หนึ่ง โปรดใช้ สมองส่วนบนในการอ่าน๐
๐ยามคุณมีคุณแอบกิน ผมแปลกใจ ยามผมกิน คุณเมียงมอง ผมข้องใจ คุณกินผมกินไม่แปลกอะไร คุณกินผมควัก ผมหนักใจ๐