โดย akillis » อาทิตย์ พ.ย. 20, 2011 09:33
จะบอกว่าแมนยู ณ ปัจจุบันนี้ ฟอร์มการเล่นและการเข้าทำยังห่างไกลจากต้นซีซั่นเป็นอย่างมาก
เหตุเพราะขาดเคลฟไปคนเดียวก็ไม่ถูก นักเตะหนึ่งคนคงไม่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับ 10 คนที่เหลือได้ (ยกเว้น โด้กับเมสซี่)
สังเกตุมาหลายนัดแล้ว ทีเด็ดจากริมเส้นหายไปนาน นานี่อาจจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ต่อให้สมบูรณ์ฟิตเต็มร้อยกว่านี้ก็คงไม่ต่างจากเมื่อคืนเท่าไหร่ บ่อยครั้งที่มักเลือกเล่นยากด้วยการครองบอลไว้กับตัวนาน พอโดนบีบเข้ามาสามที่ว่างจะจ่ายก็ไม่มี เพื่อนเข้ามาช่วยไม่ทัน สุดท้ายไม่จ่ายย้อนหลังก็เลี้ยงไปเสียบอลหรือทำออกเอง
วาเลนเซียการเปิดบอลยังต่ำกว่าเดิม ไม่แม่นเหมือนปีก่อนที่จ่ายให้รูนี่ย์ทั้งโหม่งทั้งยิงกระจาย ที่สำคัญพอจะเปิดมักไม่มีรูนี่ย์ เพราะเจ้าหมูลงไปต่อบอลแดนกลางขึ้นมาไม่ทันหลายจังหวะ และพักหลังๆ วาเลนเซียมักไม่หลุดไปเปิดง่ายๆ ได้อีกแล้ว (เพราะคู่แข่งจับทางได้) ถ้าวาเลนเซียเปิดบอลได้แม่นและเร็วใกล้เคียงระดับเบ็ค คงไม่ต้องเสียเวลาเลี้ยงไปจนสุดเส้นแน่นอน
ส่วนยัง พอจะก้าวมาเติมมิติให้ปีก ก็ดันเจ็บออดๆ แอดๆ ซะงั้น
ในทีมแมนยูที่เน้นการโจมตีริมเส้น แต่เหลือปีกอาชีพ เพียง 3 คน ที่สำคัญทั้งสามคนดันถนัดเท้าขวาอีกต่างหาก ถ้าไม่เติมปีกเท้าซ้ายตัวเจ๋งๆ สักคน เกมริมเส้นของแมนยูก็หืดจับอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ
พอจะขยับมาเล่นบอลตรงกลางสนามมากขึ้น ก็ไม่มีใครตอบโจทย์ตัวเบ้อเริ่มที่คีนกับสโคลส์ทิ้งไว้ให้ คีนไม่ใช่เพียงคนคุมจังหวะเกมเท่านั้น แต่ยังมีภาวะผู้นำในสนามที่เด็ดขาด ใครมาเดินเล่นเหยาะๆ แหยะๆ ถูกแยกเขี้ยวใส่ฮึ่มๆ แน่นอน และเมื่อครั้งที่ทีมถูกกดดันจากเกมรุกฝั่งตรงข้ามก็มีคีนนี่แหละที่คอยกระตุ้นให้เพื่อนๆ กลับมามีสมาธิไม่ลนลานเหมือนปัจจุบันนี้ ถึงคาริกจะสามารถคุมจังหวะของเกมได้ดีแต่ด้วยบุคลิกที่เรียบๆ ไม่เกรี้ยวกราด
แม้ริโอกับวิดิชจะมีบุคลิกเป็นกัปตันทีมได้ แต่ระยะหลังริโอมักเงียบผิดปรกติ ไม่โวยวายกระตุ้นเพื่อนๆ เหมือนก่อน ส่วนวิดิชก็ได้แค่กระตุ้นในส่วนแนวรับเท่านั้น ในแดนกลางและหน้าไม่เคยเห็นวิดิชคอยกระตุ้นได้เลย
ระยะหลังจึงเห็นแนวรุกของทีมคู่แข่งผ่านด่านแดนกลางมาได้อย่างง่ายดายกว่าเดิม เพราะแดนกลางแมนยูไม่ได้น่าเกรงกลัวอีกเลยนับตั้งแต่หมดกัปตันคีโน่ไป
คนที่คอยบัญชาเกมรุกแทนที่สโคลส์ อย่างอันแดร์สันแม้จะพาบอลทะลุทะลวงได้ดี แต่ก็ไม่สามารถจะทำผลงานได้ดีเลยทั้งรุกหรือรับ ความสม่ำเสมอของฟอร์มก็หดหาย เล่นดีนัดเดียวฟอร์มก็หายไปอีกหลายอาทิตย์หรืออาจจะนานร่วมเดือน ส่วนเฟล็ทเชอร์ได้ขยับจากตัวผึ้งงานขึ้นมาเชื่อมเกมรุก ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เท่าที่เห็นถ้าไม่จับบอลม้วนไปม้วนมาก็โชว์การวางบอลยาวให้กองหน้าวิ่งตับแลบโกยไปเก็บบอล
ระยะหลังมีเคลฟที่ถนัดการเล่นบอลสั้นเร็วหนึ่งสองมาเพิ่มมิติในแดนกลาง แต่คงไม่เพียงพอต่อการลงแข่งขันทั้งในหรือนอกประเทศ นี่ลงไม่กี่นัดก็เจ็บยาวไปแล้ว
พอปีกกับกลางหมดทีเด็ด แดนหน้าก็ต้องลงมาช่วยรับบอลขึ้นไปเอง ซึ่งรูนี่ย์ทำให้เห็นมาหลายครั้งแล้ว เพื่อนๆ ไม่มีใครขึ้นมาสนับสนุนแดนหน้าเลย พอรูนี่ย์ลงต่ำ คู่หูอีกหนึ่งคน ถ้าเป็นเวลเบ็ค เจ้าโย่งก็มักจะพาตัวเองหนีตัวประกบไปริมเส้น ปล่อยพื้นที่ให้ว่างหน้าเขตโทษเปล่าๆ ถ้าเป็นเอร์นันเดสที่ถนัดกับการเข้าฮอส พอเหลือคนเดียวก็มักถูกรุมกินโต๊ะเสมอ และยิ่งไม่ต้องพูดถึงหัวหอกอารมณ์อาร์ตอย่างเบิปเลยในการยืนเป็นหน้าเป้าตัวเดียว เพราะเป็นเป้านิ่งแน่นอน
สองปีก่อนแมนยูยังแกร่งทุกขุมกำลัง แต่ ณ ปัจจุบันนี้ ดูเหมือนว่าป๋ากำลังค่อยๆ ปรับเปลี่ยนเพื่อให้ทีมก้าวเข้าสู่ยุคสายเลือดใหม่
ถ้าป๋ายังมั่นใจในระบบเยาวชน ไม่ซื้อพวกตัวเก่งๆ ดังๆ มาร่วมทีม แต่เน้นการปั้นดาวรุ่ง ก็อาจจะเห็นแมนยูกระท่อนกระแท่นอย่างนี้อย่างน้อยก็สักสองปี กว่าพวกยังบลัดทั้งหลายจะแกร่งขึ้น
*แต่ถ้ารูนี่ย์รอไม่ไหว ขอย้ายทีมอีกครั้ง ปัญหาในแดนหน้าก็จะเพิ่มให้ป๋าแก้ไม่สิ้นสุดอีกครั้ง...