ยิ่งศึกษาข้อมูลของหลุยฟานกัล ยิ่งรู้สึกว่าใช่แฮะ... เหตุผลที่ต้องฟานกัลเท่านั้น
1 นักเตะแตกแถวเหรอ เอาอยู่ การจัดการกับอีโก้... ใครๆว่าเจ้าตัวเป็นกุนซือที่อีโก้สูง ไม่ยอมใคร แต่จริงๆแล้ว หลุยฟานกัล เป็นที่รักของนักเตะ (ที่ไม่แตกแถว) ซึ่งนั่นเป็นคุณสมบัติของนักเตะที่จะประสบความสำเร็จ อยู่แล้ว... เบาเดอไวน์เซ็นเด้น เคยพูดถึงฟานกัลว่า สมัยเค้าอยู่กับบาร์ซ่าเค้าเป็นคนที่ใกล้ชิดเหตุการณ์ที่ริวัลโด้มีปัญหากับฟานกัลมากที่สุด ในตอนนั้นฟานกัล ซึ่งเป็นคนที่ดึงริวัลโด้มาจากลาคอรุนญ่า ปลุกปั้นริวัลโด้ตามสไตล์การทำทีมของตัวเอง ริวัลโด้ถูกจับไปเล่นในตำแหน่ง ปีกซ้ายผลก็คือ ริวัลโด้ได้นักเตะยอดเยี่ยม และเป็นดาวซัลโวของทีม... หลังจากจบฤดูกาล พร้อมแชมป์และรางวัลส่วนตัว ริวัลโด้กลับเดินไปหาเจ้านาย แล้วบอกว่า เค้าไม่ต้องการเล่นปีกซ้ายอีกแล้ว เค้าคิดว่าตำแหน่งที่ดีที่สุดของเค้าก็คือการเล่นหลังกองหน้า... ฟานกัลถามกลับว่านั่นคือการตัดสินใจของแกใช่มั๊ย หลังจากนั้นริวัลโด้ก็โดนดร๊อปเป็นตัวสำรอง ไม่สนว่าจะยอดเยี่ยมแค่ไหน แต่คนที่เลือกทีมคือฟานกัล...ซึ่งฤดูกาลถัดมาก็เป็นแพททริค ไคลเวิร์ท ก้าวขึ้นมาเป็นดาวซัลโวของทีมแทน
2 ปรัชญาและแทคติก ฟานกัลเป็นคนที่เน้นเรื่องแทคติกมาก ปรัชญาของเค้าก็คือ "สิ่งที่เกิดขึ้นในสนามต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือฟลุ๊ค แต่เกิดจากการเตรียมทีม" รูปแบบการฝึกซ้อมของฟานกัลนั้น จะเน้นไปที่สิ่งที่นักเตะต้องทำในสนาม หรือการตัดสินใจของนักเตะในสนาม การฝึกซ้อมกับบอล ก็เป็นส่วนนึงที่สำคัญ แต่สำหรับฟานกัลแล้ว มันเป็นเรื่องรอง สิ่งสำคัญคือนักเตะต้องเข้าใจแทคติกตรงกันกับที่เค้าต้องการให้เล่น การตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ ต้องเป็นไปตามแทคติกไม่ใช่มั่ว นี่คือสิ่งที่ผมคิดว่าแมนยูฯ ขาดหายไปนาน การเล่นในแต่ละจังหวะ โดยเฉพาะการวิ่งโต้กลับเร็ว สะเปะสะปะมาก ตั้งแต่หมดยุครอยคีน...
3 เกมของฟานกัลคือเกมบุก ฟานกัลบอกว่า ในพจนานุกรมของเค้า ไม่มีคำว่าเค้าเตอร์แอทแทค... เกมของเค้าคือการครองบอล และบุกๆๆ เข้าไปจนคู่ต่อสู้ทำอะไรไม่ได้นอกจากถอยไปตั้งรับ ซึ่งการรุก ก็คือเกมรับที่ดีที่สุดอยู่แล้ว....เกมและปรัชญาของฟานกัลเป็นต้นแบบของเกมบุก ของนักเตะที่เคยร่วมงานกับเค้าและก้าวมาเป็นโค๊ชอย่างกวาดิโอล่า...
4 ทีมต้องมาก่อน ตั้งแต่การเลือกเฟ้นนักเตะแล้ว ฟานกัลไม่เคยสนว่าสักแต่จะซื้อสตาร์ ตราบใดถ้านักเตะคนนั้นไม่ใช่คนที่จะตอบสนองต่อแทคติกหรือแผนการเล่นของเค้าได้ดี เค้าก็ไม่สน ด้วยวิธีการทำทีมแบบนี้ ฟานกัลจะเป็นคนที่เลือกทีม ใส่ลงในแทคติกของเค้า และสิ่งสำคัญที่สุดนั่นคือเค้าจะเป็นคนกำหนดรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ให้กับนักเตะเพื่อทำตามแทคติกของเค้า เป็นสิ่งที่มูรินโญ่ นำมาปรับใช้ได้ดีทีเดียว ต้นตำรับก็คือฟานกัลนั่นเอง
5 เป็นคนที่สร้างทีมได้ดีที่สุด คนที่เคยร่วมงานกับฟานกัล ต่างยกย่องว่า ฟานกัลคือคนที่เยี่ยมที่สุด ในการสร้างทีมจากศูนย์ ผู้คนต่างยกย่องเค้าเป็นอาจารย์ของดัทช์ฟุตบอลสคูล หรือความหมายก็คือฟุตบอลสไตล์บุก และเป็นคนที่วางรากฐานเกมได้ดีเพราะปรัชญาการทำทีมของเค้า บาร์เยินมิวนิค เคยเป็นทีมที่ออกทะเล เต็มไปด้วยสตาร์ ที่กว้านมาจากทีมในลีก หรือนอกลีก กุนซือไม่ว่าจะเป็น ออตมา ฮิทเฟล ที่เคยนำดอร์ทมุนยิ่งใหญ่ หรือเฟลิกมากัธ ที่พุ่งแรงสมัยนั้น ก็ไม่มีใครพาบาร์เยินกลับมาเป็นทีมที่อันตรายในยุโรปได้อีกเลย การมาและวางแทคติกและเกมของบาร์เยิน ถือเป็นจุดเริ่มต้น สร้างบาร์เยินกลับมาอีกครั้ง ซึ่งแมนยูฯ ชั่วโมงนี้ เหมือนกลับมารีเซ็ตที่ 0 ใหม่ ถือว่าถูกคนมาก
6 พร้อมสำหรับการเริ่มงาน ... ใครที่คิดว่าการที่ฟานกัลเป็นผู้จัดการทีมชาติฮอลแลนด์ ซึ่งมีหน้าที่ต้องลุยฟุตบอลโลก 2014 ทำให้เริ่มงานได้ช้า การกลัวจะไม่มีเวลาเตรียมทีม และซื้อผู้เล่น จริงๆแล้วเป็นความคิดที่ผิดถนัด ... จริงๆแล้ว แม้ฮอลแลนด์จะต้องลุยฟุตบอลโลก แต่ตอนนี้ ฟานกัลกำลังว่างอยู่ สำหรับทีมที่จะลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เชื่อว่าเค้าน่าจะมีรายชื่อในใจ 90% แล้ว ถ้านักเตะไม่เจ็บ ตอนนี้ฟานกัลสามารถเริ่มงานได้ทันที แม้แต่เริ่มศึกษาและลิสรายชื่อนักเตะที่ต้องการให้ วู้ดเวิร์ดไปดำเนินการ ซึ่งกว่าแคมป์ทีมชาติจะเริ่มมารวมตัวกันเพื่อเตรียมลุยฟุตบอลโลก เค้าก็ว่างพอที่จะเตรียมการล่วงหน้าได้ทันที
7 ประตูเปิดสำหรับทุกคนเสมอ ... เช่นเดียวกับเฟอร์กี้ การทำงานของฟานกัล คือนักเตะทุกคนสามารถเข้ามาปรึกษา และพูดคุยกับเค้าได้เสมอ ใครที่บอกว่าฟานกัลเป็นกุนซือจอบเฮี้ยบ แต่จริงๆนอกเรื่องฟุตบอล เค้าก็เป็นคนสนุกสนาน และเป็นเพื่อนกับนักเตะได้
8 ฟานกัลเป็นคนที่ไม่ยึดติดกับสต๊าฟ การทำงานของเค้า จะเน้นไปที่คนดั้งเดิมของทีม ตรงนี้ผมว่าสำคัญที่สุด สำหรับแฟนบอลอย่างเราๆท่านๆ ย่อมหวังว่าตำนานของทีมในสนามจะกลับมาคุมทีมประสบความสำเร็จในอนาคต ผมเชื่อว่าฟานกัลจะเลือกแบ็ครูมสต๊าฟจากอดีตนักเตะแมนยุฯ ซึ่งทำให้ได้ประโยชน์สองต่อในอนาคต