
"ที่ผ่านมาผมเล่นได้ดี และผมยังสามารถเล่นได้ดีกว่านี้"
พอล สโคลส์
จากการที่ต้องเสียพอล สโคลส์ ไปด้วยปัญหาทางสายตา เมื่อครึ่งฤดูกาล 2005/2006 ทำให้แนวรุกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอ่อนลงจากการขาดนักเตะที่มีประสบการณ์อย่างสโคลซี่
ใบแดงจากการอุ่นเครื่องและผลแบน 3 นัดซึ่งถูกเลื่อนมาเมื่อตอนเริ่มฤดูกาลอาจเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก แต่นั่นกลับเป็นการรอคอยที่มีคุณค่า สโคลส์ซึ่งได้พักอย่างเต็มที่กลับมาโชว์ผลงานได้ดีในทันที ด้วยการวางบอลที่แม่นยำ การเคลื่อนที่ การยิงประตู ทุกอย่างยังอยู่ครบถ้วนในตัวเขา
สโคลส์ เปรียบเหมือนคนที่คอยเจาะแนวรับคู่แข่ง และสร้างสรรค์โอกาสทำประตูของทีม ด้วยการวางบอลที่ไว้ใจได้ และลูกยิงอันทรงพลังในเกมกับแอสตัน วิลล่า
มิดฟิลด์คู่หูของเขาคนใหม่อย่างไมเคิล คาร์ริค โชว์ฟอร์มได้ดี และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทีมประสพความสำเร็จในที่สุด
นักฟุตบอลชั้นนำอย่างเธียร์รี่ อองรี และเชสก์ ฟาเบรกาส ต่างก็ยกย่องมิดฟิลด์ที่เป็นหัวใจของทีมอย่างสโคลส์ และทำให้เขาเป็นรองเพียงคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ในการประกาศผลรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพีเอฟเอ
น่าแปลกที่เขาไม่เคยได้รับรางวัลเลย ทั้ง ๆ ที่เขาแสดงให้เห็นถึงคุณค่าในการเป็นนักเตะที่ลงสนามครบ 500 นัดให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมที่ชนะลิเวอร์พูล 2-0 ในเดือนตุลาคม โดยที่เขาเป็นผู้ยิงประตูขึ้นนำ 1-0
หลังเกมนั้น สโคลส์ให้สัมภาษณ์กับสกาย สปอร์ตว่า " มันเป็นเพียงแค่อีกเกมที่เราต้องการชนะ เราต้องมุ่งมั่นที่จะชนะ และนั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ "
การได้สโคลส์ กลับมาสู่ทีม ทำให้แนวรุกของทีมแข็งแกร่งมากขึ้น และแน่นอนว่าเขาคือฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งในความสำเร็จของทีมในฤดูกาลที่ผ่านมา
ช่วงเวลามหัศจรรย์
แอสตัน วิลล่า 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3
23 ธันวาคม 2006 , วิลล่า พาร์ค
เมื่อเขาพูดว่านี่เป็นประตูที่ดีกว่าประตูที่เขายิงแบรดฟอร์ด ซิตี้ เราก็ควรจะบันทึกมันไว้
ลูกโหม่งเคลียร์ของเกวิน แม็คคานน์ ที่เหมือนจะไม่มีอะไร แต่หนึ่งส่วนล้านของวินาทีต่อมา กาบอร์ คิลารี่ ผู้รักษาประตูของวิลล่า ต้องพบกับลูกวอลเล่ย์ดุจสายฟ้ากว่า 20 หลาของสโคลส์ (ซึ่งถูกเลือกให้เป็นประตูยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล) พุ่งไปกองอยู่ที่ก้นตาข่าย
งุงิ