
เบน ฟอสเตอร์ไม่ยอมให้การต้องอยู่ข้างสนามจากอาการบาดเจ็บเข่าทำให้เค้าผิดหวัง และยังบอกว่ามันอาจจะทำให้เค้าเป็นผู้รักษาประตูที่ดีขึ้นไปด้วยซ้ำ
ฤดูกาลนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่ยากลำบากที่สุดของนายทวารวัย 24 ปี หลังจากเมื่อสองปีก่อนเค้าก็ไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งในทีมสโต๊ค ซิตี้สโมสรเดิมของเค้าได้
มันเป็นการก้าวกระโดดที่น่าจดจำ สำหรับนักเตะที่ย้ายมาร่วมทีมแมนยูในแบบที่แทบจะไม่มีใครรู้จักในปี 2005 แม้ว่าจะยังไม่สามารถอยู่ในทีมชุดใหญ่ของปีศาจแดงได้ แต่ฟอสเตอร์ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดระยะเวลาสองฤดูกาลที่ถูกยืมตัวไปเล่นที่วัตฟอร์ด จนถึงขั้นก้าวไปติดทีมชาติอังกฤษเรียบร้อยไปแล้ว และถูกคาดหมายว่าจะเป็นตัวแทนที่ยอดเยี่ยมของเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซาร์ที่ยูไนเต็ด
อย่างไรก็ตามฟอสเตอร์ต้องเข้ารับการผ่าตัดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อเอากระดูกแตกออกจากเข่า ซึ่งการผ่าตัดครั้งนั้นเค้าบอกว่าเป็นการต่ออาชีพให้เค้าเลยทีเดียว
แม้ว่าจะผ่านความผิดหวังมา แต่ฟอสเตอร์ก็ยังคงมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ "ตอนแรกมันเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบเลยครับ หลายคนบอกว่าผมกำลังจะไปรุ่งทั้งในทีมและในทีมชาติปีนี้" ฟอสเตอร์พูดไว้เมื่อต้นฤดูกาล 2007-08
"การบาดเจ็บมันค่อนข้างรุนแรงเลยครับ คุณอาจจะเริ่มทรมานตัวเองด้วยการคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นในปีนี้ เรื่องการลงสนามทั้งในทีมแมนยูและทีมชาติก็ลอยหายไปอย่างรวดเร็วเลยสำหรับผม"
"แต่หลังจากนั้นผมก็เริ่มจะเปลี่ยนความคิด แล้วก็เอาคำว่า "ถ้า" ไปจากหัวผม ผมไม่มีเวลามานึกเรื่องแบบนั้นแล้ว"
ฟอสเตอร์มองว่าการที่เค้าต้องห่างสนามไปนานเป็นโอกาสที่จะเพิ่มความสามารถในด้านอื่นๆ "ตอนนี้ผมมองว่าผมมีโอกาสที่ดีที่จะได้พัฒนาส่วนที่คุณคงไม่ได้ทำได้ถ้าคุณต้องลงเล่น"
"ผมมีโอกาสที่ดีมากที่จะเพิ่มความสามารถด้านอื่น อย่างความแข็งแรง หรือการสปริงตัว นั่นอาจจะทำให้ผมเป็นผู้รักษาประตูที่ดีขึ้นมากเลยก็ได้"
"ครั้งสุดท้ายที่ผมต้องเจ็บจนพักยาวแบบนี้ก็คือตอนอยู่กับสโต๊ค ผมต้องพักไปถึงหกเดือน แต่ผมจำได้ว่าพอผมกลับมาลงเล่นได้ผมก็รู้สึกว่าร่างกายตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ผมมีวันนี้ได้ก็เป็นผลจากตอนนั้นแหละครับ"
"ตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าแข็งแกร่งขึ้นแล้วนะ และคิดว่าฟิตที่สุดตั้งแต่เป็นนักฟุตบอลมาเลยหละครับ นั่นคงเป็นเรื่องดีๆที่ได้จากการบาดเจ็บครั้งนี้หละนะ"
สู้ต่อไปนะฟอสเตอร์ เรายังรอนายกลับมา ^_^