โดย mufc » อังคาร เม.ย. 20, 2010 11:18
ผมว่าตั้งแต่เค้าเข้ามา การตัดสินใจ ทำอะไรค่อนข้างเบ็ดเสร็จ การซื้อนักเตะ ก็ค่อนข้างทำได้ดีนะ ซื้อนักเตะที่ค่อนข้างมีคุณภาพสมราคาเข้ามา
เพียงแต่ภาพเหล่านั้นมันเป็นภาพลวงตา ที่พยายามจ่ายเงิน เพื่อลดกระแสต่อต้านเท่านั้นเอง
จุดหมายปลายทางก็ไม่พ้น ต้องการค้ากำไรกับทีม ....
แต่... มีทีมไหนไม่คิดค้ากำไรกับทีมบ้าง....
เชลซี? แรกๆ อาจจะใช่ งบประมาณ ร้อยกว่าล้านในทุกๆปี สร้างทีมเพื่อบำเรอความพอใจของตัวเอง แต่สุดท้ายมันก็ต้องถึงจุดอิ่มตัว ...เงินของอับราโมวิซ เริ่มร่อยหรอ ตอนนี้ไม่ใช่ทีมเจ้าบุญทุ่มอีกแล้ว... แล้วอะไรจะทำให้เค้ากลับมาทุ่มได้อีก ?? ความท้าทายอะไร?? ตอนนี้ผมเชื่อว่าแมนซิตี้กำลังจะกลายเป็นดาบคืนสนอง ให้เชลซีได้รู้รสการถูกแย่งนักเตะบ้างล่ะ... ส่วนเรารึ... เจอมาตลอดทุกยุค ตั้งแต่สมัยแบล็คเบิร์นด้วยซ้ำ...
อาร์เซนอล? จะบอกว่าแฟนอาร์เซนอลมีความสุข? ผมว่าหน้าชื่นอกตรมมากกว่านะ ที่ต้องเห็นบอร์ดบริหาร ได้กำไรทุกปี แล้วเอาเงินไปปันผล+ จ่ายหนี้ค่าสนาม แล้วสโมสรได้กำไรหรือไม่... เท่าที่รู้ ค่าตั๋ว อาร์เซนอล แพงติดอันดับต้นๆ ของพรีเมียร์ลีก...
แมนซิตี้? แน่นอน คงจะเป็นความหวังที่อยากให้เจ้าของสโมสรรวยแบบนี้ แต่จะมีประโยชน์อะไร ยังไงซะ นักเตะก็ลงเล่นได้แค่ 11 คน เต็มที่ทั้งทีม 25-30 คน ดาวรุ่งหน้าใหม่ก็ต้องเกิดขึ้นมาในวงการเรื่อยๆ คุณไม่สามารถกว้านซื้อนักเตะที่เก่งที่สุดเข้ามาในทีมได้ตลอดไป เพราะถึงวันนึง มันก็ล้นทีม แล้วต้องใช้ความสามารถของผู้จัดการทีมเข้ามาบริหาร ห้ำหั่นกันในสนาม ด้วยผู้เล่น 11 ตัวเ่ท่ากัน... และทีมที่จ่ายเงินซื้อความสำเร็จตรงนั้นมา ผมเชื่อว่ายังไงก็จะได้เครดิตน้อยกว่าทีมที่ใช้ฝีมือ+ งบประมาณที่ยิ่งยวด...
ลิเวอร์พูล?? ไม่ต่างจากเราตอนนี้เท่าไหร่ ยิ่งแย่กว่าเพราะเจ้าของมีสองคน และจนกว่า...
สรุปแล้ว สิ่งที่เราต้องการ(หรือเปล่า) นั้นมันไม่ได้อยู่ในรูปแบบการบริหารแบบอังกฤษ แต่มันกลับเป็นรูปแบบบริหารของสเปน ที่แต่ละทีม มีสมาชิกของสโมสร ก็คือกองเชียร์ มีการเลือกตั้งประธานสโมสร เืพื่อบริหารงาน เป็นคนออกนโยบายต่างๆ เพื่อบริหารทีม ซื้อนักเตะ ฯลฯ ผู้จัดการทีมมีหน้าที่คุมทีม เหมือนกับโีค๊ช ทำแต่ด้านเทคนิค ... ไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเหมือนผู้จัดการทีมในอังกฤษ
ซึ่งถ้าจำไม่ผิด ทีมอย่างลีดส์ ยูไนเต็ด สเปอร์ เคยพยายามทำแบบนั้นมาแล้ว และเหลวไม่เป็นท่า กับวัฒนธรรมการบริหารจัดการแบบอังกฤษ ... แล้วเราอยากได้ระบบการบริหารทีมแบบนั้นมาใช้ในอังกฤษ กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดหรือไม่... ผู้จัดการทีมหลายคนที่ปฎิเสธ จะไปคุมทีมในลาลีกา เพราะรับไม่ได้กับระบบแบบนี้ กับการไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จแบบนี้... เราอยากได้หรือไม่??
ส่วนตัวคำตอบผมคือ ไม่ ไม่มีใครอยากได้แน่ โดยเฉพาะคนที่จะมาเป็นผู้จัดการทีม แม้แต่มูรินโญ่ ยังมีปัญหากับแฟร๊ง อาร์เนเซ่ของเชลซีที่ทำหน้าที่ เรื่องการเฟ้นหานักเตะมาให้เค้าใช้งานมาแล้ว...
ขออนุญาติสรุปว่า ทางออกนี้ เป็นไปไม่ได้แน่นอน กับฟุตบอลอังกฤษ กับทีมอย่างแมนยูฯ...
ถ้างั้นทางออกที่กำลังดิ้นรนกันอยุ่ตอนนี้ล่ะ ... ก็คือการหานายทุน.. จำนวนมาก... ที่มีกำลังจ่าย สามารถซื้อหุ้นสโมสรได้ โดยไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน สามารถ อัดเม็ดเงินเข้าสโมสรได้เพื่อการลงทุนในด้านต่างๆ ได้ตามสมควร โดยไม่ต้องกูหนี้ยืมสิน... มีการคานอำนาจการบริหารกันตามสัดส่วนการถือหุ้น ซึ่งมันคงจะค่อนข้างเพอร์เฟค ถ้าคนที่ถือหุ้น มีศักยภาพจริงๆ และมีจำนวนไม่มากเกินไปนัก ไม่งั้นจะตัดสินใจอะไรได้แต่ละที โดยเฉพาะการซื้อนักเตะ คงจะโดนฉกตัวไปเรียบร้อยล่ะ หรือจะซื้อนักเตะราคาแพงแต่ละที ถ้ามีคนไม่เห็นด้วยขึ้นมา อยากได้ปันผลเยอะๆ โปรเจคก็คงพัง...
ส่วนเดวิด กิลล์ ผมว่าเค้าก็แค่นักบริหารคนนึง ที่พยายามพาทีมไปยังจุดที่ดีที่สุด เค้าไม่ใช่คนที่จะมามองว่าแฟนบอลจะถูกขูดเลือดขูดเนื้อซักเท่าไหร่ แต่งานของเค้าก็คือการบริหารทีมในทุกๆด้าน ให้ดีที่สุด ซึ่งมันจะเป็นงานง่ายขึ้นเยอะ ถ้าเค้าจะบริหารจัดการ โดยที่มีคนที่มีอำนาจตัดสินใจจำนวนน้อยๆ ไม่ต้องขอความเห็นคน 30-40 คนในการทำงานแต่ละอย่าง... ส่วนตัวผมว่าเค้าก็ไม่ได้ผิดอะไร แค่ทำงานของเค้าไป ว่ากันด้วยเรื่องประสิทธิภาพการทำงาน เค้าก็ไม่ได้ขี้เหร่แต่อย่างใด ค่อนข้างดีกว่าด้วยซ้ำ อัตราการจ่ายเงินสูงเวอร์ในการซื้อนักเตะน้อยกว่าเมื่อก่อนเยอะ ยังไงก็ดีกว่าปีเตอร์เคนย่อน จอมทรยศแน่นอน...
สรุปสุดท้าย ผมเชื่อว่า จุดสมดุลที่สุด ก็คือ การมีนายทุน ซัก 3-4 ราย หรือต่ำกว่านั้น หรือแม้แต่รายเดียวก็ได้ ที่มีศักยภาพที่จะเป็นเจ้าของสโมสรได้โดยไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน มาเป็นเจ้าของทีม ซึ่งถ้ากลุ่มที่เรียกตัวเองว่าเรดไนท์ ไม่สามารถหาคนแบบนั้นมาได้ ผมก็มองไม่เห็นว่า มันจะดีกว่าเดิมซักเท่าไหร่ ...ไม่อยากเป็นกบเลือกนาย...
#WelcomeJose