"ผมจะคุมทีมสโมสรก็ต่อเมื่อผมสามารถสื่อสารเทคนิคต่าง ๆ ด้วยภาษาเยอรมันเท่านั้น"
เป็นประโยคหนึ่งที่ผมเคยอ่านนานแล้ว ซึ่งถ้าจำไม่ผิดน่าจะมาจากา อ๊อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ คำพูดอาจจะไม่เหมือนแต่ก็หมายความตามนั้น
จากการพ่ายแพ้ 2 นัดติดของเชลซีทั้งในบ้านและนอกบ้าน สื่อหลายสำนักรวมทั้งผม ก็มุ่งประเด็นไปที่เดียวคือ การปลดผู้ช่วยผู้จัดการทีมอย่าง
เรย์ วิลกิ้นส์ ผู้ช่วยมือพระกาฬ ที่ผ่านการเป็นผู้ช่วยโค้ชระดับ 5 ดาวอย่าง หลุยส์ เฟริเป้ สโคลารี่ และ กุส ฮิดดิ้งค์
และจากการที่ วิลกิ้นส์ มีความสามารถในการพูดภาษาอิตาลีได้ จึงทำให้เข้าสามารถที่จะเป็นตัวกลางสื่อสารกันได้หว่าง คาร์โล อันเชล็อตติ กับ นักเตะ
แต่จากคำให้การของบอร์ดหริหารของเชลซี แปลแบบแรง ๆ ได้ว่า "เราไม่ต้องการล่ามอย่าง วิลกิ้นส์ อีกแล้ว"
แม้หลายคนจะบอกว่าเป็นเพราะนักเตะตัวหลักเจ็บกันหมดหรือเปล่าจึงทำให้แพ้ ข้อนี้ก็อาจมีส่วนแต่ทีมระดับเชลซีแล้ว
การเจ็บหรือโดนแบบตัวหลักแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก พวกเขาเคยประสบปัญหานี้มาแล้วหลายครั้งแต่ก็สามารถผ่านไปได้โดยไม่แพ้ 2 นัดติดแบบนี้
ที่สำคัญคำว่าขาดนักเตะหลักในที่นี้มีแค่กองหลังเท่านั้น ส่วนแดนกลางมีแค่แลมพาดเพียงคนเดียว คนอื่นยังอยู่กันครบ
จึงอาจจะเป็นข้ออ้างในการเสียประตูเพียงเท่านั้น ไม่ได้หมายรวมไปถึงการทำประตู จนทำให้ทีมแพ้และยิงประตูไม่ได้ด้วย
และที่สำคัญมีข่าวเล็ดรอดออกมาเยอะมากที่เกี่ยวกับการร้าวฉานของคนในมุงหอยเม้นอย่างมากมาย (เรื่องแบบนี้ไม่มีมูล สุนัขไม่อุจาระ ครับ)
ฉะนั้นจากการแพ้ 2 นัดติดหลังจากปลด วิลกิ้นส์ บวกกับคำพูดของ อ๊อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์
ทำให้ผมคิดคุณสมบัติของผู้ช่วยโค้ชได้มาอีกอย่างหนึ่ง นอกเหนือจากความสามารถในเทคนิกเรื่องฟุตบอลแล้ว
เรายังจะต้องมีคุณสมบัติในเรื่องของภาษาอีกด้วย โดยเฉพาะภาษาที่เป็นของโค้ช เพราะว่าถ้าเขาสามารถที่จะเข้าใจในเทคนิคต่าง ๆ
ที่ผู้จัดการทีมบอกแล้ว เขาก็สามารถที่จะนำมาอธิบายให้กับลูกทีมที่มาจากทั่วทุกมุมโลก ได้เป็นอย่างดี
ดังที่ปรากฏกับ แมนยู มาแล้วในช่วงของ คาร์ลอส คีรอส ว่ากันว่าเขาผู้นี้มีความสามารถในการพูดได้กว่า 10 ภาษา กันเลยที่เดียวเชียว
จึงทำให้เขาสามารถที่จะถ่ายทอดเทคนิคที่ ป๋า ได้ว่างไว้ไปยังนักเตะทุกคนเป็นอย่างดี จึงทำให้แมนยูประสบความสำเร็จอย่างมากมาย
ถึงเวลาหรือยังที่ คีรอส จะกลับมาเรียนเคล็ดลับวิชาบทสุดท้ายจากปรมาจารย์อย่าง ป๋า หลังจากที่ออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในยุทธจักร
อย่างการคุมทีมซุปเปอร์สตาร์อย่าง มาดรีด และทีมชาติโปรเกตุ
จงกลับมาเรียนให้จบหลักสูตร พร้อมก้าวขึ้นรับตำแหน่ง สืบทอดเจตนารมณ์ ของ ป๋า ต่อไปเถิด



