เขียนเป็น: เรียนคุณ บอ.บู๋ ผู้ขายวิญญาณให้ปีศาจแดง
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจและไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติที่ญี่ปุ่น ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีแต่ข่าวน่าโศกเศร้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ในทีวี แต่ผมดันเจอสิ่งที่น่าสลดและสมเพชยิ่งกว่า เมื่อดันทะลึ่งเปลี่ยนช่องไปเจอ ส.ส.ที่เข้าไปเห่าแข่งกับหมาในสภาอย่างเมามันส์บนความดิบเถื่อน ก้าวร้าว รุนแรง หยาบคาย และสถุลหมายิ่งนัก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าชาวบ้านเลือกคนประเภทนี้เข้ามาเป็นผู้แทนของตัวเองได้อย่างไร ขอบอกว่าปวดตับอย่างจงหนัก ว่าแล้วก็มีข้อสงสัยประมาณ 2-3 ประการ
ข้อแรกกว่าพลพรรคปีศาจแดงจะยัดเยียดความปราชัยให้ผู้มาเยือนอย่าง โบลตัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาโลหิตแทบกระอักออกมาเป็นลิ่มๆ เลยนะครับ ในความเห็นของพี่ คิดว่าการถูกลงโทษแบนห้ามคุมทีมข้างสนามของท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะส่งผลกระทบต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด มากขนาดไหน แล้วทำไมคุณพ่อใหญ่แห่ง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถึงไม่ยอมอุทธรณ์เพื่อขอลดโทษ สุดท้ายอยากทราบว่าเขาแบนป๋าหาอะไรเหรอครับ?
คนรักป๋า
...
ส่งไม่ตาย: พูดถึงชัยชนะนัดล่าสุดของปีศาจแดงต้องยอมรับนะครับว่ากว่าจะได้มาก็เกือบจะเด๊ดห่าอยู่รอมร่อ
เพราะนอกจากจะเล่นไม่ค่อยออกแล้วยังเหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่าอีกต่างหาก
แต่อาการตายยากยิ่งกว่า "เจสัน" ทั้ง 80 ภาคนี่แหละคือเอกลักษณ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งผมดันอุตริคิดว่าเหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ช่วยให้ปีศาจแดงได้รับชัยชนะก็เพราะการถูกไล่ออกจากสนามของ จอนนี่ อีแวนส์ นี่แหละ
นึกถึงเรื่องนี้แล้วก็โคตรจะภูมิใจแทนผู้ขายวิญญาณให้ท่านซาตานซะจริงๆ
"ไอ้บ่าว" (เวส บราวน์) ไม่อยู่ (เพราะถูกเปลี่ยนตัวออก) แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมี "ไอ้จ้อน" (จอนนี่ อีแวนส์) ฮ่า-ฮ่า-ฮ่า
ขอเรียนตามตรงว่า "บักหำจอน" ไม่มีความจำเป็นต้อง "จัดหนัก" ขนาดนั้นเลยนะครับ นอกจากจะไม่มีความจำเป็นใดๆ การพุ่งเข้าเสียบแบบทะลุจุดแตกต้องถูกตะเพิดออกจากสนามเพียงสถานเดียว
ขอโทษ! ผู้ตัดสินไม่ได้ชื่อ ฟิล ดาวด์ นะครับจะได้ให้แค่ใบเหลืองจากการเจตนาอัดหน้าแข้งคู่แข่งจนยับเยิน
เห็น "ไอ้จ้อน" พุ่งเข้าเสียบคู่แข่งดอกนั้น ผมถึงกับอุทานออกมาโดยไม่รู้ตัวว่า "มึงจะบ้าป่าวเนี่ย?"
เพราะมันต้องได้ใบแดงและถูกแบนแน่นอน เฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเต็มไปหมด
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะทำไปเพื่ออะไร
อย่างไรก็ตามการเหลือผู้เล่นน้อยกว่าทำให้ผู้เล่นสายพันธุ์ปีศาจต้องมุ่งมั่นและทุ่มเทเป็นยกกำลังเพื่อทดแทนสิ่งที่ขาดหาย ตรงกันข้ามกับผู้มาเยือนที่ดูเหมือนจะย่ามใจไปหน่อยที่มีตัวผู้เล่นมากกว่า
ที่สำคัญคือการโดนใบแดงของ จอนนี่ อีแวนส์ แลกมาด้วยอาการบาดเจ็บของ สจ๊วร์ต โฮลเด้น ผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของ โบลตัน
การปราศจากตัวตัดเกมอย่าง โฮลเด้น นี่แหละครับช่วยให้ปีศาจแดงเล่นเกมรุกได้ง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นจนกะซวกประตูชัยได้ในที่สุด
ดังนั้นการได้รับใบแดง แถมโดนแบนห้ามลงสนาม 3 นัด ของ "ไอ้จ้อน" จึงถือว่าคุ้มค่าในชัยชนะที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า "Ugly Winning" เนื่องจากเป็นชัยชนะที่ไม่สง่างามสักเท่าไหร่
แต่ชัยชนะอย่างน่าเกลียดแบบนี้แหละครับมักจะทำให้ใครหลายคนดิ้นพล่านอย่างกับไส้เดือนบนกระทะทองแดง
ไม่เข้าใจเหมือนกันเวลา แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะคู่แข่งแบบหืดจับ ทำไมต้องดิ้นพล่านกันซะขนาดนั้นด้วย
เอ๊ะ!...กลัวอะไรหรือเปล่าเนี่ย?
ส่วนการถูกแบน 5 นัดของคุณป๋า
ขอยืนยันว่ามันเป็นอะไรที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ เพราะป๋าไม่ได้ไปด่าพ่อใครในสภาสักหน่อย แต่สมาคมฟุตบอลอังกฤษต้องการแสดงพลังอำนาจว่าพวกกูนี่เจ๋งแบบเต็มประดา ขนาดบรมกุนซือผู้ยิ่งใหญ่ระดับป๋ายังสั่งห้ามคุมทีมข้างสนามได้ถึง 5 นัด!!!
แทนที่จะปรับปรุงคุณภาพของผู้ตัดสินให้ดียิ่งขึ้น "เอฟเอ" กลับลงโทษสถานหนักกับคนที่เอาความจริงมาพูดซะอย่างนั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นตัวอย่าง ต่อไปจะได้ไม่มีใครกล้าวิพากษ์-วิจารณ์ผู้ตัดสินอีก
นอกจากผลทางด้านจิตวิทยาที่อาจทำให้ลูกทีมขาดแรงกระตุ้นจากผู้เป็นมิ่งขวัญและกำลังใจที่ข้างสนาม มันก็คงไม่ส่งจะผลเสียหายอะไรมากมายหรอกครับ แค่ไม่ได้รับอนุญาตให้ลงไปโวยวาย หรือกดดันผู้ตัดสินที่ข้างสนามเท่านั้นเอง อย่างน้อยคุณป๋ายังสามารถวางแผนล่วงหน้าก่อนแข่ง และลงไปแก้เกมในห้องแต่งตัวในช่วงพักครึ่ง ส่วนในระหว่างเกมก็โทรศัพท์ลงมาสั่ง "มือซ้าย" อย่าง เรเน่ มิวเลนสตีน ก่อนที่มือซ้ายของตัวเองจะนำความไปบอก "มือขวา" อย่าง ไมค์ ฟีแลน ให้ไปตะโกนสั่งลูกทีมอีกทอด
ก่อนหน้านี้ "ป๋า" เคยโดนลงโทษแบนห้ามคุมทีมข้างสนามหลายครั้งในปี 2003, 2007, 2008 และ 2009 รวมกันทั้งหมด 8 นัด ปรากฏว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ประสบชัยชนะถึง 6 ครั้งในเกมที่พบกับ เอฟเวอร์ตัน, พอร์ทสมัธ, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, ซันเดอร์แลนด์, เบอร์มิงแฮม และ ลีดส์ ยูไนเต็ด โดยพ่ายแพ้แค่ 2 นัด ต่อ ฟูแล่ม (1-3 ในปี 2003) และ เวสต์แฮม (1-2 ในปี 2007)
ไอ้ที่ไม่ยอมอุทธรณ์ เพราะหลังจากไตร่ตรองแล้ว ป๋าคงคิดว่ายังไงก็อุทธรณ์ไม่ผ่าน ในเมื่อตั้งใจจะ "เล่น" กันซะขนาดนี้ก็เชิญเถิดครับพ่อ เอาให้เหมาะเลยครับ โดย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ในทวิตภพของตัวเองว่า "โธ่...อ้ายฟาย ป๋าไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงต้องมีคนเข้ามาแสดงความเห็นโง่ๆ หรือด่าคนเขียนตรงท้ายคอลัมน์นี้เป็นประจำ ไอ้บู๋มันไปข่มขืนคุณป้ามึงทางรูทวารหนักเหรอครับ พวกมึงถึงเดือดร้อนกันจัง? คือป๋าว่ามันน่าเบื่อพอๆ กับน่ารำคาญนะ เขาอุตส่าห์เขียนเรื่องสนุกๆ ให้อ่านฟรีๆ ทางเว็บไซด์ กลับต้องมาเจอไอ้พวกเกรียนๆ เข้ามาด่าแบบไม่มีเหตุผล บางคนอ่านหนังสือก็ไม่แตก บางคนไม่เข้าใจความหมายที่ผู้เขียนต้องการสื่อ บางคนก็คิดมากเกินเหตุ บางคนแทบไม่ได้อ่านด้วยซ้ำ แค่ขอเข้ามาระบายความถ่อยของตัวเองอย่างเดียว"
เอ่อ..อ..อ..ดูเหมือนป๋าแกจะให้การไม่ค่อยตรงประเด็นสักเท่าไหร่นะครับ แต่ไม่เป็นไร เรากลับมาเรื่องเดิมต่อดีกว่า คือคิดดูนะครับถ้าสมาคมฟุตบอลอังกฤษยอมลดโทษให้นั่นหมายถึงการยอมรับว่าผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน ทำหน้าที่ได้ห่วยแตก
รับรองว่า เอฟเอ ไม่มีทางยอมรับความห่วยแตกของผู้ตัดสินอย่างแน่นอน นอกจากจะฉวยโอกาสแบนป๋าเพิ่มอีก 1 นัด
ด้วยโทษฐานของคอลัมนิสต์ลูกหนังที่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีต่อเด็กๆ และเยาวชนของชาติ ผมคงบ่นอะไรไม่ได้นอกจากคำว่า "พ่อมึงตาย"
อย่าหาว่าหยาบคายหรือเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเด็กๆ และเยาวชนของชาติเลยนะครับ เพราะเมื่อสัปดาห์ก่อนผมเห็นผู้เลอเกียรติท่านหนึ่งออกอาการกระฟัดกระเฟียดพลางคำรามว่า "โห่หาพ่อมึงเหรอ?" ในทีวีอย่างไม่สะทกสะท้าน
เห็นแล้วก็ภาคภูมิใจแทนประชาชนในประเทศเสียจริงๆ ที่เรามีผู้แทนแบบนี้ในสภา
"บอ.บู๋"
เครดิต: www.siamsport.co.th















</center>