ปรีวิวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2010/11
รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
วันอังคารที่ 26 เมษายน 2554
ชาลเก้ 04 (เยอรมนี) - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
สนาม : เฟลตินส์ อารีน่า
เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบตัดเชือก คู่แรก ชาลเก้ 04 ฉะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากฝ่ายแรกโชว์ฟอร์มสยบแชมป์เก่า อินเตอร์ มิลาน ขาดลอยในสกอร์รวม 7-3 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วนฝ่ายหลังโค่นทีมร่วมลีก เชลซี สกอร์รวม 3-1
ชาลเก้ 04 เพิ่งมีการเปลี่ยนเทรนเนอร์จาก เฟลิกซ์ มากัธ มาเป็น ราล์ฟ รังนิค เมื่อเดือนที่แล้วเท่านั้น และผลงานออกมาน่าพอใจอย่างยิ่ง ชนะติดต่อกัน 4 นัด ทว่า 2 เกมหลังเริ่มแผ่ว เสมอ แวร์เดอร์ เบรเมน 1-1 กลางเดือน และล่าสุดแพ้ ไกเซอร์สเลาเทิร์น คาบ้าน 0-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี การแพ้ ไกเซอร์ฯ นัดล่าสุด พอจะอ้างได้ว่าเป็นเพราะการจัดทัพชุดสอง เพื่อเตรียมรับมือ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะ เนื่องจากมีตัวสำรองได้โอกาสเล่นหลายรายพอควร แม้ตัวหลักอย่าง ราอูล กอนซาเลซ, คริสโตฟ เม็ตเซลเดอร์ รวมถึง มานูเอล นอยเออร์ จะอยู่ในสนามครบ 90 นาทีก็ตาม
รังนิค ไม่มีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายเพิ่มเติม ตัวที่เจ็บอยู่อย่าง คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์ (กล้ามเนื้อ), คริสโตฟ โมริทซ์ (เอ็นสะบ้าหัวเข่า), คริสเตียน พานเดอร์ (นิ้วเท้า) และ มาริโอ กาฟราโนวิช (ข้อเท้าขวา) ยังไม่อาจลงเล่นได้ ขณะที่ก็ไม่มีนักเตะเจ็บเพิ่มจากเกมสุดสัปดาห์
ที่เริ่มหายเจ็บ และเกมนี้ต้องเช็กสภาพว่าจะพร้อมเล่นหรือไม่ มี เพียร์ คลูเก้อ ที่กลับมาซ้อมแล้ว แต่ยังไม่มีชื่อในนัดล่าสุด เช่นเดียวกันกับ เบเนดิคท์ โฮเวเดส
สำหรับการจัดทัพ รังนิค จะเรียกตัวหลักหลายรายกลับคืนทัพ อาทิ คีเรียกอส ปาปาโดปูลอส มิดฟิลด์กรีก, อเล็กซานเดอร์ เบาม์โยฮันน์ กองกลางด๊อยท์ช, โฆเซ่ ฆูราโด้ มิดฟิลด์สแปนิช และ อัตสึโตะ อูจิดะ แบ็กญี่ปุ่น กลับลงตัวจริง
นายทวารยังคงเดิม มานูเอล นอยเออร์ ประตูมือหนึ่งทีมชาติ ที่มีข่าวโยงกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ตลอดมา เฝ้าเสาตามปกติ
เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน ตัวจี๊ดเปรู พ้นโทษแบนในเกมยุโรปกลับมาเล่นได้แล้ว และจะลงตัวจริงทันที โดยเป็นส่วนหนึ่งในแผงกลางที่ประกอบด้วย ปาปาโดปูลอส, เบาม์โยฮันน์ และ ฆูราโด้
ข้างหน้า เมื่อ "เดอะ ฮันเตอร์" ฮุนเตลาร์ ยังคงบาดเจ็บ ตัวเลือกก็มีชัดเจนอยู่แล้วคือ ราอูล กอนซาเลซ หัวหอกสแปนิชจอมเก๋า ที่เคยฝากรอยแผลกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาแล้ว ในสมัยค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด
ส่วนคู่ขาก็คงเดิม กับ เอดูอาร์โด้ กอนซัลเวส เด โอลิเวยร่า "เอดู" ศูนย์หน้าแซมบ้า ที่เพิ่งย้ายจาก ซูวอน ซัมซุง บลูวิงส์ ในเกาหลีใต้ มาเล่นกับราชันสีน้ำเงิน เมื่อต้นปีที่แล้ว และสร้างผลงานในรอบก่อนหน้านี้ที่ยิง อินเตอร์ 2 ประตูในเกมแรก
ทั้งนี้ แข้งชาลเก้ ต้องเล่นอย่างระมัดระวังทีเดียว เมื่อติดคาดโทษใบเหลืองอยู่ถึง 3 คน คือ ราอูล, ฆูราโด้ และ ปาปาโดปูลอส ไม่นับ คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์ ที่เล่นไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าโดนอีกเหลืองจะชวดเล่นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทันที
ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด ใจหายใจคว่ำกว่าจะชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 เมื่อวันเสาร์ เท่ากับกลับสู่ชัยชนะอีกครั้งหลัง 2 เกมก่อนหน้านี้ฟอร์มหลุด พ่าย แมนฯ ซิตี้ ในเอฟเอ คัพ และเสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แบบไข่ไม่แตก
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พร้อมคุมทีมข้างสนามตามปกติ หลังติดโทษแบนยาว 5 นัดสำหรับเกมในประเทศ ซึ่งครบไปแล้วก่อนเกมล่าสุด ซึ่งการบุกเยือน เฟลตินส์ อารีน่า จะมีการเปลี่ยนแปลงทีมมากทีเดียวจากวันเสาร์
ขุมกำลังสำรองที่ได้เล่นตัวจริงเกมล่าสุด อย่าง จอนนี่ อีแวนส์, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, อันแดร์สัน และ ดาร์รอน กิ๊บสัน จะหลุดออกไปทั้งกระบิ เปิดทางให้กำลังหลักอย่าง เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, พาร์ค ชี-ซอง และ ไมเคิ่ล แคร์ริค เสียบแทนตำแหน่งต่อตำแหน่ง
ริโอ เฟอร์ดินานด์ แม้จะเจ็บออดๆ แอดๆ ทั้งซีซั่น แต่เกมนี้จะพร้อมลงสนามต่อเนื่อง หลังจากเมื่อวันเสาร์ก็เล่นมาเต็ม 90 นาที และกัปตันทีม วิดิช ที่เพิ่งได้พักมา ก็จะกลับมาจับคู่ด้วย โดยมี สมอลลิ่ง เป็นอะไหล่ฉุกเฉิน
ราฟาเอล ดา ซิลวา แบ็กขวาแซมบ้า หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาแล้ว จะแทนที่ จอห์น โอเช ที่เจ็บเล็กๆ มาจากเกมกับ เอฟเวอร์ตัน แต่ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ที่ป่วยจากอาการติดเชื้อไวรัส ยังคงไม่อาจกลับมาเล่นได้
ไรอัน กิ๊กส์ ปีกตัวเก๋าที่เป็นสำรองเมื่อวันเสาร์ จะกลับคืนตัวจริงเช่นกัน ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นอย่าง พอล สโคลส์ ก็สามารถเล่นได้แม้จะยังติดโทษแบนในประเทศอยู่ แต่จะเป็นสำรองไปเท่านั้น
เป็นที่คาดว่า นานี่ ที่ตกไปในระยะหลัง อาจจะถูกดร็อปบ้าง โดยมี อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่มีประโยชน์มากกว่าในการช่วยเกมรับ ลงยืนริมเส้นขวา ร่วมด้วย กิ๊กส์, แคร์ริค และ พาร์ค ชี-ซอง
เฟอร์กี้ มีข่าวร้ายเพิ่มเติมที่ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ผู้นำดาวซัลโว 21 ประตูในพรีเมียร์ลีก เจ็บโคนขาหนีบ ไม่สามารถเล่นเกมนี้ได้แน่นอนแล้ว และไม่ได้บินไปแอ่วเมืองเบียร์ร่วมกับเพื่อนด้วย
อย่างไรก็ตาม กรณี เบอร์บาตอฟ คงไม่ใช่ปัญหาน่าหนักใจสำหรับ เฟอร์กี้ เนื่องจากกองหน้ามีตัวเลือกที่ชัดเจนอยู่แล้ว อย่าง เวย์น รูนี่ย์ กับ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ที่ยิงรวมกัน 32 ประตู ในทุกรายการของซีซั่นนี้ เป็นของ รูนี่ย์ 13 "ชิชาริโต้" 19 ตุง
ด้วยการออกไปเป็นทีมเยือน เฟอร์กี้ จึงจะเน้นความรัดกุมในแดนกลางมากกว่าปกติ โดยถอย รูนี่ย์ ลงยืนต่ำช่วยเกมตรงกลาง ทิ้ง ชิชาริโต้ ยืนสูงเป็นหน้าเป้าตัวเดียว และมี ไมเคิ่ล โอเว่น เป็นกองหน้าตัวสำรอง
นักเตะเจ็บนอกจาก เฟล็ทเชอร์ ยังมี โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ รวมถึง ติอาโก้ มานูเอล ดิอาส กอร์เรอา "เบเบ้" ตัวรุกโปรตุกีส ที่ไม่ได้เดินทางไปกับทีมด้วย
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ : มานูเอล นอยเออร์ - อัตสึโตะ อูจิดะ, คริสโตฟ เม็ตเซลเดอร์, เบเนดิคท์ โฮเวเดส, ฮันส์ ซาร์ไป - เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน, โฆเซ่ มานูเอล ฆูราโด้, คีเรียกอส ปาปาโดปูลอส, อเล็กซานเดอร์ เบาม์โยฮันน์ - ราอูล กอนซาเลซ, เอดู
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล แคร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์, พาร์ค ชี-ซอง - เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ
ผู้ตัดสิน : การ์ลอส เบลาสโก้ การ์บาโย่ (สเปน)
รังนิคโวนำชาลเก้ดับผีไป-กลับ

ราล์ฟ รังนิค เทรนเนอร์ชาลเก้ 04 โวสนั่นทุ่ง มั่นใจลูกทีมจะผ่านเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ด้วยการเก็บชัยชนะเหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่แข่งจากพรีเมียร์ลีก ในรอบรองชนะเลิศ ทั้งในนัดแรกที่เฟลตินส์ อารีน่า อังคารนี้ และเลกสอง ที่จะบุกไปเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในวันพุธที่ 4 พ.ค.นี้ ด้วย
รังนิค ที่กลับมาคุมชาลเก้ รอบที่ 2 หลังแยกทางไปตั้งแต่ปี 2005 เผยกับ เดอะ ซัน แท็บลอยด์ของอังกฤษ ว่า "เราไม่ได้ต้องการจบเกมด้วยสกอร์ 0-0 เราต้องการที่จะเอาชนะและแน่นอนว่าเราจะเล่นให้ได้เหมือนอย่างที่เจอกับ อินเตอร์ ในบ้าน ผมหมายถึงไม่มีใครที่คาดคิดว่าเราจะชนะด้วยสกอร์ 5-2 ในถิ่นของ อินเตอร์ และเราจะพยายามเอาชนะให้ได้ทั้ง 2 เกมเลย"
นายใหญ่วัย 52 ยืนยันว่า ไม่รู้สึกกังวลกับฟอร์มการเล่นของทีม หลังจากปราชัย ไกเซอร์สเลาเทิร์น 0-1 ใน บุนเดสลีกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากได้พักตัวหลักไปถึง 4 คน
"หากเราใช้ผู้เล่นตัวจริงชุดเดียวกับที่จะใช้ลงสนามในเกมวัน อังคาร ก็จะส่งผลให้เรามีโอกาสน้อยลงที่จะคว้าชัยชนะได้ ผมไม่รู้ว่าการเป็นทีมรองบ่อนจะช่วยเรามากเพียงใด มันขึ้นอยู่กับว่าพวกเราจะทำหน้าที่ได้ดีขนาดไหน หากเราทำได้เหมือนกับ 2 แมตช์ที่เจอกับ อินเตอร์ ผมคิดว่าเราก็มีโอกาสเช่นกัน" รังนิค ระบุ
ฟาร์ฟานห้าวสยบผีฟัดชุดขาวชิงชปล.

เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน กองหน้าทีมชาติเปรูของ ชาลเก้ 04 แสดงความเชื่อมั่นว่า พวกตนจะไม่มีปัญหาในการผ่าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจจากอังกฤษ เข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สนาม เวมบลีย์ ในวันที่ 28 พ.ค. นี้ โดยคาดหวังว่าจะได้เตะกับ เรอัล มาดริด ต่อไป
ฟาร์ฟาน หวังว่า "ราชันสีน้ำเงิน" จะได้ เรอัล มาดริด เป็นคู่ชิงดำ เนื่องจากเชื่อว่า บาร์เซโลน่า จะเป็นคู่แข่งที่เล่นด้วยยากกว่า "ชาลเก้ จะไม่มีปัญหาอะไรในการเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และจะผ่านไปถึงรอบชิงชนะเลิศแน่นอน ผมอยากที่จะดวลกับ เรอัล มาดริด เพราะว่า บาร์เซโลน่า จะทำให้ความฝันของเราในการคว้าแชมป์ยากขึ้น"
อย่างไรก็ตาม อดีตแข้งพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ยอมรับว่าถ้าเลือกได้ ก็อยากที่จะเล่นกับ เชลซี ที่ตกรอบไปเพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด มากกว่า แต่ยืนยันมั่นใจเต็มเปี่ยมในการพบ "ปีศาจแดง" ในนัดแรก ของแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ
"ผมยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรามาอยู่ในรอบรองชนะเลิศของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ มันเป็นความฝันของพวกเราโดยเฉพาะผม ที่ไม่ได้เล่นกับ อินเตอร์ มิลาน ในเกมนัดที่ 2 ผมอยากเจอกับ เชลซี มากกว่า แต่พวกเราก็ยังมั่นใจว่าจะผ่านไปได้" ฟาร์ฟราน กล่าว
โมลเลอร์กระตุ้นชาลเก้ไม่ต้องกลัวผี

อันเดรียส โมลเลอร์ ตำนานแข้งทีมชาติเยอรมนี นักเตะเก่าของ ชาลเก้ 04 ออกมากระตุ้นต้นสังกัดเก่า จงมีความมั่นใจในตัวเอง ไม่ต้องเกรงกลัวความยิ่งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สำหรับการเตะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบตัดเชือก
โมลเลอร์ สมาชิกทีมชาติเยอรมนี ชุดแชมป์โลก 1990 และแชมป์ยูโร 1996, แชมป์ยูฟ่า คัพ กับ ยูเวนตุส ปี 1993 และแชมป์ยุโรปกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ปี 1997 กล่าวว่า "นี่คือเกมยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ชาลเก้ และทั้ง เยอรมนี จะหนุนหลังพวกเขา หวังให้พวกเขาเข้าถึงรอบชิงฯ พวกเขามีโอกาสชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ เฟลตินส์ อารีน่า จุแฟนบอล 54,000 คน และชาวเยอรมันทุกคนที่มีตั๋วจะร้องเพลง ข่มขวัญ ให้กำลังใจทีมรักของพวกเขา"
"มันจะเป็นบรรยากาศที่น่าเหลือเชื่อในสนามที่พื้นหญ้าจะติด คนดูมาก นักเตะจะได้พลังที่หนุนหลังพวกเขา ขณะที่สำหรับแฟนบอลแล้ว นี่จะเป็นช่วงเวลาสำคัญของพวกเขา"
"ชาลเก้ อาจเป็นชื่อแปลกประหลาดในรอบตัดเชือก แต่คุณต้องเข้าใจถึงศักยภาพภายในของทีมๆ นี้ พวกเขาเป็นทีมที่ลงตัวด้วยนักเตะมากประสบการณ์ และดาวรุ่งมากพรสวรรค์ อย่าง เบเนดิคท์ โฮเวเดส และอเล็กซานเดอร์ เบาม์โยฮันน์ นี่คือเวทีให้พวกเขาได้แสดงฝีเท้าให้ทั้งยุโรปได้เห็น"
"ผมเห็น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไปดูพวกเขาเล่นกับ อินเตอร์ มิลาน และเขาคงรู้แล้วว่าทีมของเขามีงานยากรออยู่ ชาลเก้ ไม่ทำให้คู่แข่งมีงานง่าย ทีมมีทั้งความเร็ว พลัง ความฟิต และเล่นได้มีระเบียบ แบบแผน ขณะที่โค้ช ราล์ฟ รังนิค เป็นหนึ่งในโค้ชที่ดีที่สุดในเยอรมนี เราเรียกเขาว่าโปรเฟสเซอร์เพราะเขาเหมือนจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเกม เขามาคุม ชาลเก้ เมื่อเดือนมีนาคมเอง แต่ก็สร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นแล้ว"
"เขามาดูเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ นิวคาสเซิ่ล และเขาจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับพวกเขา ในฐานะโค้ชแล้ว เขาเก่งมากๆ"
ชูราอูลตัวทีเด็ดชี้ขาดผล
โมลเลอร์ กล่าวต่อโดยเชื่อว่า ราอูล กอนซาเลซ หัวหอกอดีตกัปตันทีมชาติสเปน จะเป็นตัวแปรสำคัญของเกมตัดเชือก และยังคงสงสัยว่า ทำไม เรอัล มาดริด ถึงยอมปล่อยตัวออกมาง่ายๆ
"ชาลเก้ คงเน้นเหนียวแน่นในเกมแรก ทีมน่าจะเล่นกองหน้าคนเดียว คือ ราอูล แล้ววางกลางรุกยืนข้างหลัง จากนั้นก็ใช้ประโยชน์จากนักเตะริมเส้น ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของ ชาลเก้ และ ราอูล จะเป็นตัวแปร"
"เขาปฏิเสธ ยูไนเต็ด เพราะรับปาก ชาลเก้ เอาไว้แล้วว่าจะย้ายมา ตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไม เรอัล มาดริด ถึงปล่อยเขาออกมา"
แต่ยันชาลเก้ไม่ได้มีแค่ราอูล
กระนั้น โมลเลอร์ ยังมั่นใจว่า นอกเหนือจาก ราอูล แล้ว ตัวที่จะสร้างความเจ็บแสบให้กับ "ปีศาจแดง" ได้ก็มีอีกหลายคน
"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชื่อนี้ไม่มีใครในโลกไม่รู้จัก พวกเขาเป็นทีมที่น่าจะมีทุกอย่าง พวกเขาซื้อนักเตะคนไหนก็ได้ และมีนักเตะเก่งๆ เยอะแยะ ฟังดูแล้วน่ากลัว แต่นอกจาก ราอูล แล้ว ชาลเก้ ยังมี มานูเอล นอยเออร์, คริสโตฟ เม็ตเซลเดอร์ และเจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน ที่ล้วนเป็นนักเตะมากประสบการณ์ ฝีเท้าระดับโลก ที่จะเป็นหลักให้นักเตะคนอื่นในทีม"
ยกนิ้วกิ๊กส์ยืนระยะข้ามทศวรรษ
นอกจากนั้น โมลเลอร์ ยกย่อง ไรอัน กิ๊กส์ มิดฟิลด์ตัวเก๋าของ แมนฯ ยูไนเต็ด รักษามาตรฐานเอาไว้ได้อย่างน่าชื่นชม และตนยังเคยปะทะแข้งมาแล้วด้วยซ้ำเมื่อ 14 ปีก่อน
"มันทำเอาผมทึ่งมากที่นักเตะคนหนึ่งที่จะเล่นบทบาทเดิมให้ ยูไนเต็ด คือ ไรอัน กิ๊กส์ ผมสู้กับเขา, เดวิด เบ็คแฮม และพอล สโคลส์ ในรอบรองชนะเลิศ ปี 1997"
"กิ๊กส์ สร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ เขาเป็นหนึ่งในสุดยอดนักเตะแห่งยุคของเรา เขาคว้าแชมป์ทุกอย่างมาตลอด 20 ปี และตอนนี้เขาก็ยังมีอิทธิพลต่อเกมอยู่ เขาเป็นนักเตะที่ ชาลเก้ ต้องดูให้ดี"
"ผมไม่ได้ดูยูไนเต็ดเล่นมากนัก นอกจากบอลถ้วยใหญ่ๆ และผมได้ยินมาว่าพวกเขาเล่นไม่ดีเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาเป็นจ่าฝูงลีก พวกเขาเข้าถึงรอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง และดูไม่มีจุดอ่อนมากนัก"
"พวกเขายังเป็นทีมที่น่าเกรงขาม แต่ความกดดันจะตกอยู่กับพวกเขา ชาลเก้ พิสูจน์แล้วว่าสามารถชนะทีมใหญ่ๆ ได้อย่างในเกมกับ อินเตอร์ มิลาน ผมมองว่ากับ ยูไนเต็ด พวกเขามีโอกาส 50-50 ถ้าพวกเขาเล่นดีในเกมแรกที่เยอรมนี ก็หวังว่าจะมีคนเชียร์ให้พวกเขาเป็นฝ่ายได้เปรียบ" โมลเลอร์ ร่ายยาว
นอยเออร์กร้าวไม่เคยกลัวผี
มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูของ ชาลเก้ 04 รอคอยการลงเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศไม่ไหวแล้ว และหวังว่าเพื่อนร่วมทีมจะโชว์ฟอร์มเทพเหมือนกับที่แสดงให้เห็นด้วยการน็อค อินเตอร์ มิลาน ในรอบที่ผ่านมา ย้ำ ไม่เคยคิดกลัวทีมปีศาจแดงแม้รู้ดีทีมตนจะเป็นรองก็ตาม
นายทวารทีมชาติเยอรมนี กล่าวถึงเกมกับ อินเตอร์ ในเว็บไซท์ ยูฟ่า ว่า "มันเป็นเรื่องสุดเซอร์ไพรซ์ หลังจากที่เราถูกนำอย่างรวดเร็วแค่ 20 วินาทีแรกของเกมเท่านั้น จากนั้นเราก็โดนนำอีกครั้ง 2-1 ไม่มีใครคิดหรอกว่าเราจะยิงได้ถึง 5 ลูกในสนาม ซาน ซิโร่ แต่แฟนๆ ต่างเชื่อมั่นในพวกเรา แต่ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะเชื่อว่าเรามาไกลได้ขนาดนี้"
"ผมไม่ได้กังวลว่าพวกเราเป็นทีมรองบ่อนเมื่อเทียบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เราจะลงสนามแล้วเล่นแบบเดียวกับที่เราเล่นกับ อินเตอร์"
นอยเออร์ ยังได้กล่าวเพิ่มด้วยว่า "ผมให้ความเคารพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ผมไม่ได้กลัวพวกเขาหรอกนะ ผมเคยเล่นกับ เวย์น รูนี่ย์ มาแล้วครั้งหนึ่ง ในฟุตบอลโลก เกมนั้นจบด้วยชัยชนะของเยอรมนี และผมหวังว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้งในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"
"พวกเขามีผู้เล่นชั้นยอดมากมาย มีนักเตะประสบการณ์สูงอย่าง ไรอัน กิ๊กส์ และ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ผมเป็นแฟนตัวยงของ ฟาน เดอร์ ซาร์ ตั้งแต่ผมยังเด็ก แต่คุณไม่สามารถเจาะจงไปที่ผู้เล่นเพียงคนเดียวเมื่อคุณต้องเล่นกับทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ผมจะพูดคือผมชื่นชอบแนวทางฟุตบอลของพวกเขามากๆ"
Credit : www.siamsport.co.th










</center>




