เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันบรมกุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความผิดหวังที่ทีมของเขาไม่ได้จุดโทษในเกม พ่ายอาร์เซนอลไป 1-0
ในเกมนี้มีเหตุการณ์ที่น่าจะเป็นจุดโทษอยู่สองครั้ง ครั้งแรกเลยคือจังหวะแฮนด์บอลของเนมันย่า วิดิชในครึ่งแรกและอีกครั้งก็คือจังหวะที่กาแอล กลิชี่ไปสะกิดไมเคิ่ล โอเว่นล้มลงในกรอบเขตโทษช่วงท้ายเกม
“เกมนี้มันสำคัญเกินกว่าที่จะมีการตัดสินที่ผิดพลาดได้นะ” เฟอร์กี้กล่าว
“ผมพูดจริงๆเลยว่าจังหวะของวิดิชน่ะมันยากที่จะมองเห็นได้ชัด แต่อีกจังหวะในช่วงท้ายเกม กลิชี่เขารู้ตัวเองดีว่าทำอะไรลงไป”
“แน่นอน นี่ทำให้เชลซีมีโอกาสขึ้นมาทันทีและมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณได้รับการตัดสินแบบนั้น”
“พวกเขาทำได้ไปครั้งแล้วในเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดเมื่อซีซั่นก่อน ฉะนั้นมันทำให้เรากังวลแล้วล่ะตอนนี้”
“แต่ด้วยการที่เป็นโอลด์ แทรฟฟอร์ดทั้งแฟนบอลของเรารวมทั้งนักเตะก็พร้อมเต็มที่แล้ว”
ป๋ารับหลังผีพ่าย!สิงห์กลับมาลุ้นแชมป์เต็มตัว
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด รับสภาพ ตอนนี้เสียวสันหลังวาบๆ เมื่อ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี กลับมามีลุ้นแชมป์ลีกอีกครั้ง หลังพวกเขาพลาดท่าโดน อาร์เซน่อล เฉือนหวิว 0-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายอมรับว่า ตอนนี้ เชลซี กลับมามีลุ้นแชมป์ลีกอีกครั้งแล้ว หลังจากที่พวกเขาออกไปแพ้ อาร์เซน่อล 0-1 ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ประตูทองของ อารอน แรมซี่ย์ ส่งผลให้ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีแต้มนำ "สิงโตน้ำเงินคราม" แค่ 3 คะแนนเท่านั้น และทั้งสองทีมทีคิวต้องดวลกันที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันอาทิตย์ที่ 8 พ.ค.นี้โดย เซอร์เฟอร์กี้ ให้ความเห็นว่า "แน่นอน ตอนนี้ เชลซี มีโอกาสดีทีเดียว และนั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น"
"พวกเขาเคยได้แต้มที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งตอนนี้เรารู้สึกกังวลพอสมควร แต่ในแง่ของศักยภาพสำหรับเกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แฟนบอลของเราคงจะพร้อมอย่างเต็มที่ และนักเตะของเราด้วยเช่นกัน"
นอกจากนี้ เฟอร์กูสัน เชื่อว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ครองเกมได้หมดหลังจากที่เสียประตู "หลังจากเสียประตู เราก็ครองเกมได้หมด และผมคิดว่า เราสมควรได้แต้ม ผมคิดว่า เราผ่านบอลสะเปะสะปะ แต่ทันทีที่เราเสียประตู เราก็กดดันพวกเขาให้อยู่ในแดนของตัวเอง"
ขณะเดียวกัน กุนซือเลือดสกอตต์ ได้กล่าวถึงจังหวะใช้มือของ เนมานย่า วิดิช รวมทั้งการทำฟาวล์ ไมเคิ่ล โอเว่น ของ กาแอล กลิชี่ ว่า "ผมเห็นว่า มี 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และครั้งแรกมันเป็นการใช้มือจาก (เนมานย่า) วิดิช แต่ผมไม่เห็นจังหวะนั้นเช่นเดียวกับผู้กำกับเส้น และผู้ตัดสิน"
"แต่จังหวะที่ 2 มันเป็นจุดโทษชัดเจน คุณไม่สามารถตัดสินแบบนี้ในเกมสำคัญได้ ผมคิดว่า มือของ วิดิช คงไปโดนบอล แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะมองเห็นจังหวะนั้น มีแต่ (โรบิน) ฟาน เพอร์ซี่ คนเดียวเท่านั้นที่มองเห็น เพราะเขาตะโกนบ่นแค่คนเดียว" กุนซือวัย 69 ปี ระบุ
น้าซาร์รับเคยถามตัวเองทำไมถึงแขวนถุงมือ
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ โกล์วัยชราของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมรับ บางครั้งก็รู้สึกสงสัยว่า ทำไมถึงตัดสินใจอำลาวงการลูกหนังหลังจบซีซั่นนี้ แต่เมื่อวิเคราะห์อย่างละเอียด ก็คิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการแขวนถุงมือ
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ผู้รักษาประตูมากประสบการณ์ของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังแห่งวงการฟุตบอลเมืองผู้ดี ออกมาเปิดใจว่า บางครั้งตนก็รู้สึกประหลาดใจว่า ทำไมถึงตัดสินใจแขวนถุงมือหลังจบฤดูกาลนี้
นายทวารวัย 40 ปี ย้ายจาก ฟูแล่ม มาเฝ้าเสาในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2005 และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย, คาร์ลิ่ง คัพ และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ แม้ในฤดูกาลนี้ "น้าซาร์" จะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และสภาพความฟิตยังแข็งแกร่ง แต่เจ้าตัวก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่า จะเลิกเล่นอย่างแน่นอน
อดีตโกล์ทีมชาติฮอลแลนด์ ให้ความเห็นว่า "บางครั้งผมก็ถามตัวเองว่า ทำไมผมถึงตัดสินใจเลิกเล่น มีหลายคนที่คุยกับผมแบบตรงไปตรงมาเกี่ยวกับข้อสงสัยนี้ เรื่องสภาพร่างกาย ผมไม่จำเป็นต้องเลิกเล่น ผมยังฟิตเปรี๊ยะ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถค้าแข้งได้ตลอด ตอนนี้ผมอายุ 40 ปีแล้ว ผมรู้สึกว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะอำลาสนาม"
"การตัดสินใจในครั้งนี้ผมไม่ได้ทำเพียงคนเดียว ผมได้ปรึกษากับ แอนแมรี่ ภรรยาของผม, ร็อบ เจนเซ่น ทนายส่วนตัว และ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม หลังจากที่ได้คุยกับ เฟอร์กูสัน เมื่อปีที่แล้ว เราสองคนได้ข้อสรุปว่า มันคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ถ้านี่เป็นฤดูกาลสุดท้ายของผม" ฟาน เดอร์ ซาร์ กล่าว
สื่อเผยเบิร์บเตรียมคุยสัญญาผี!หลังส่อโดนโละ
เอเยนต์ของ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ศูนย์หน้าสปีดต่ำของทีมแมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมเข้าถกเรื่องการต่อสัญญากับทีมในอีก 3 สัปดาห์ถัดไป หลังมีข่าวจะโดนเลหลัง โดยมี บาเยิร์น มิวนิค พร้อมรับช่วงเซ้งต่อช่วงซัมเมอร์นี้
เอมิล ดันต์เชฟ เอเยนต์ของ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ กองหน้าจอมลีลาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเปิดเผยว่า เดวิด กิลล์ ซีอีโอของ "ปีศาจแดง" ให้สัญญาว่าจะเข้ามาคุยกันถึงเรื่องสัญญาใหม่ของดาวเตะทีมชาติบัลแกเรียใน อีก 3 สัปดาห์ต่อไป
"เบิร์บ" มีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นในช่วงหลังๆ จนไม่ได้เป็นตัวจริงให้ ยูไนเต็ด มาหลายเกม ทำให้การต่อสัญญาใหม่ของเจ้าตัวกับทีมเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก โดยก่อนหน้านี้ เบอร์บาตอฟ ต้องการสัญญาระยะเวลา 2 ปีหลังจากสัญญาฉบับปัจจุบันจะหมดลงในปีหน้า ซึ่งดูเหมือนว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีความต้องการที่จะขยายสัญญาศูนย์หน้าวัย 30 ปีแต่อย่างใด
เบอร์ บาตอฟ มีข่าวว่า ตกเป็นเป้าหมายของ บาเยิร์น มิวนิค ที่พร้อมจะทุ่มเงิน 15 ล้านปอนด์ (ราว 720 ล้านบาท) เพื่อนำไปเสริมความคมในแนวรุกของทีม ซึ่ง "ปีศาจแดง" อาจต้องจำใจยอมขาดทุนแบบครึ่งต่อครึ่ง หลังจากที่ซื้อตัวหัวหอกจอมเทคนิค จาก สเปอร์ส เมื่อปี 2008 ด้วค่าตัว 30.75 ล้านปอนด์ (ราว 1,476 ล้านบาท)
ล่าสุด "เบิร์บ" น่าจะกลับมามีชื่อเป็นหนึ่งในตัวจริงของทีมอีกครั้งในเกมกับ อาร์เซน่อล ในวันอาทิตย์นี้ แต่ก็เป็นเพราะ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือเลือดสกอตต์ ต้องการพักตัวจริงไว้สำหรับเกมกับ ชาลเก้ ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 4 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 ในวันพุธหน้า
คำนวณแล้ว!ผีวอดวาย 85 ลป.หากเซ็นสไนจ์เดอร์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องคิดหนักหลังมีการคาดการณ์ถึงเม็ดเงินที่ต้องใช้จ่ายหากคิดลงทุน ดึงเวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์เพลย์เมคเกอร์ตัวเทพของอินเตอร์ มิลานมาร่วมทีมว่ามากถึง 85 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
จอม ทัพแห่งทัพอัศวินสีส้มมีแนวโน้มว่าอาจอำลาถิ่นจูเซ็ปเป้ เมอัซซ่าหลังจบฤดูกาลนี้หลังชีวิตในทีม"เนรัซซูรี่"ไม่สู้มีความสุขมากมาย ดังเช่นสมัยโจเซ่ มูรินโญ่เทรนเนอร์สเปเชี่ยลวันเรืองอำนาจ
ด้วยเหตุนี้สไนจ์เดอร์จึงมีความสนใจที่จะย้ายไปร่วมทัพ"ปีศาจแดง"เพื่อรับ บทบาทแม่ทัพในแดนกลางแทนที่ของพอล สโคลส์ตามคำชักจูงของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันกุนซือวัตถุโบราณ
ทว่าอุปสรรคหนึ่งที่อาจขัดขวางไม่ให้แมนฯยูคว้าตัวสไนจ์เดอร์มาได้คือการที่ ทีมต้องจ่ายค่าตัวให้ตามที่อินเตอร์เรียกร้อง 35 ล้านปอนด์แในขณะที่ปัจจุบันนักเตะรับค่าเหนื่อยอยู่ที่ 10 ล้านปอนด์ต่อปีนั้นหมายความว่า"ปีศาจแดง"ต้องใช้เงินลงทุนทั้งหมดกับสตาร์ ชาวดัตช์สูงถึง 85 ล้านปอนด์กับระยะเวลาในสัญญานาน 5 ปี
นอยเออร์ย้ำชัดปัดผี!ขอเอาดีในลีกเบียร์เท่านั้น
มานูเอล นอยเออร์ โกล์มือหนึ่งของ "ราชันสีน้ำเงิน" ชาลเก้ 04 ออกมาเปิดปากสยบข่าวลือ ย้ายไปเล่นให้ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยยืนยัน หากต้องย้ายทีมก็ขอค้าแข้งในลีกเมืองเบียร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูทีมชาติเยอรมันของ ชาลเก้ 04 สโมสรในศึกบุนเดสลีกา จัดการยุติข่าวลือเตรียมย้ายไปเฝ้าเสาให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเจ้าตัวประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจน หากจะย้ายทีม ก็ต้องการค้าแข้งในลีกบ้านเกิดเท่านั้น
ช่วงที่ผ่านมา นายทวารวัย 25 ปี ตกเป็นข่าวหนาหูว่า แมนฯ ยูไนเต็ด อยากได้ตัวไปร่วมทีม เพื่อทดแทน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายทวารเลือดดัตช์ ที่ประกาศอย่างชัดเจนว่า จะแขวนถุงมือหลังจบซีซั่นนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องทั้งหมดน่าจะยุติได้แล้ว เมื่อเจ้าตัวยืนยัน ไม่ต้องการย้ายไปค้าแข้งต่างแดน "เป้าหมายของผมคือ การย้ายเล่นกับสโมสรในเยอรมัน"
สำหรับตอนนี้มีความเป็นไปได้สูงที่ บาเยิร์น มิวนิค จะคว้าตัว นอยเออร์ ไปร่วมทีม เพราะพวกเขามีกำลังเงินมากพอที่จะทุ่มซื้อนายทวารจอมหนึบรายนี้ ขณะเดียวกัน แฟนสาวคนปัจจุบันของโกล์ "ราชันสีน้ำเงิน" ก็อาศัยอยู่ในมิวนิค ยิ่งเป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้นักเตะอยากไปค้าแข้งกับ "เสือใต้" มากยิ่งขึ้น
ด้าน ฮอร์สท์ เฮลด์ท ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของ ชาลเก้ กล่าวว่า "ผมอ่านหนังสือพิมพ์ของทั้งอังกฤษ และเยอรมันมาแล้ว สิ่งที่ผมสามารถบอกได้คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้ติดต่อ ชาลเก้ เรื่องของ มานูเอล นอยเออร์ เข้ามาเลยนะ"
Credit : www.soccersuck.com , www.siamsport.co.th







</CENTER>
</CENTER>
</center>

</center>








