เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยัน ฟิล โจนส์ เซนเตอร์แบ็กดาวโรจน์ ได้รับอาการบาดเจ็บเอ็นข้อเท้า ทำให้หมดสิทธิ์ลงสนามอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ ในขณะที่ นานี่, เวย์น รูนี่ย์ และ ไมเคิ่ล คาร์ริค ต่างก็ได้รับบาดเจ็บจากเกมที่เป็นฝ่ายคว้าชัยเหนือ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังศึกพรีเมียร์ลีก ออกมาเปิดเผยว่า ฟิล โจนส์ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษ จะต้องพักรักษาตัวราว 2-3 สัปดาห์ หลังจากได้รับอาการบาดเจ็บบริเวณเอ็นข้อเท้าจากเกมที่บุกเชือด อาร์เซน่อล 2-1 ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา
ดาวเตะวัย 19 ปี เพิ่งจะกลับมาลงสนามให้ทัพ "ปีศาจแดง" อีกครั้ง หลังจากพลาดเกมกับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ แต่ก็ได้อยู่ในสนามเพียงแค่ 15 นาทีจากจังหวะที่สะดุดล้มไปเองก่อนจะถูกหามออกจากสนามไป นอกจากนี้ ยูไนเต็ด ยังได้รับข่าวร้ายเพิ่มเติมว่า นานี่ และ เวย์น รูนี่ย์ 2 ขุนพลคนสำคัญในแนวรุกต้องฝืนเล่นในช่วงท้ายเกมที่ผ่านมา รวมทั้ง ไมเคิ่ล คาร์ริค ที่มีอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า
เฟอร์กูสัน ต้องปวดหัวยิ่งกว่าเดิมเนื่องจากก่อนหน้านี้ก็มีนักเตะบาดเจ็บในบัญชีรายชื่อยาวเป็นหางว่าวอยู่แล้วทั้ง ริโอ เฟอร์ดินานด์, อันแดร์สัน, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, แอชลี่ย์ ยัง, ไมเคิ่ล โอเว่น, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ และ เนมันย่า วิดิช กล่าวว่า "มันไม่ใช่ข่าวดีสำหรับเราเลย ผมคิดว่า โจนส์ ต้องพักราว 2-3 สัปดาห์จากอาการบาดเจ็บเอ็นข้อเท้า คาร์ริค รู้สึกเจ็บที่เอ็นหลังหัวเข่าเช่นกันในครึ่งหลัง ทำให้ต้องปักหลักอยู่แต่บริเวณกลางสนามเท่านั้น"
นอกจากนี้ ยอดกุนซือวัย 70 ปี ยอมรับว่าพอใจกับผลการแข่งขันในเกมที่ผ่านมา แต่ก็เชื่อว่า ยูไนเต็ด น่าจะเป็นฝ่ายปิดเกมได้เร็วกว่านี้ "เราสร้างโอกาสยิงประตูได้มากมาย แต่การได้แค่ 2 ประตูนั้นเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังเล็กน้อย เราน่าจะฉวยโอกาสจากความได้เปรียบของเราตั้งแต่ในครึ่งแรก แต่เราก็โชคดีเช่นกันที่พวกเขาพลาดโอกาสทอง 3 ครั้งในช่วง 15 นาทีแรกของครึ่งหลัง"
พร้อมกันนี้ "เฟอร์กี้" ชื่นชมผลงานในแนวรับ โดยเฉพาะ คริส สมอลลิ่ง เซนเตอร์แบ็กวัยกระทง ที่รับมือกับลูกโยนยาวในกรอบเขตโทษในช่วงท้ายเกมได้อย่างยอดเยี่ยม "เมื่อตอนที่พวกเขาดัน (แพร์) แมร์เตซัคเกอร์ ขึ้นมาอยู่ข้างหน้า และโยนบอลเข้าสู่เขตโทษของเราอย่างต่อเนื่อง คุณไม่มีทางรู้เลยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่ว่าเราก็รับมือกับมันได้อย่างยอดเยี่ยม สมอลลิ่ง เล่นได้อย่างมหัศจรรย์ในช่วงเวลานั้น และเราก็เป็นฝ่ายคว้าชัยได้สำเร็จ"
ลือ!น้ามูสนดึงเวลเบ็คเสริมคม
"ราชันชุดขาว" รีล มาดริด เล็งดึงตัว แดนนี่ เวลเบ็ค หัวหอก "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเสริมคมใน ในช่วงเดือนนี้หรือช้าสุดช่วงซัมเมอร์ หลังมีปัญหาไม่ยอมต่อสัญญากับทีม
โชเซ มูรินโญ่ นายใหญ่"ราชันชุดขาว" รีล มาดริด ยักษ์ใหญ่จากศึก ลาลีกา สเปน ตกเป็นข่าวลือว่าอาศัยช่วงชุลมุนที่ แดนนี่ เวลเบ็ค หัวหอกดาวรุ่งยังมีปัญหาไม่ต่อสัญญากับ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าตัวมาเสริมคมในถิ่น ซานติเอโก เบอร์นาบิว ในช่วงเดือนมกราคมนี้หรือ อย่างที่สุดช้าใน ซัมเมอร์
หัวหอกดาวรุงทีมชาตอังกฤษวัย 21 ปี ปฎิเสธที่จะต่อสัญญาฉบับใหม่กับ"ผีแดง" เนื่องจากต้องการให้เพิ่มค่าเหนื่อยเป็น 60,000 ปอนด์ (ราว 3 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ หลังจากปัจจุบันรับเพียง 15,000 ปอนด์ (ราว 750,000 บาท)เท่านั้น
ผีคลั่ง!ทุ่ม2.5พันล้านล่าโมดริชเสริมกลาง
"ปีศาจเเดง"เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมทุ่มงบ 50 ล้านปอนด์(ราว 2,500 ล้านบาท)เพื่อใช้ดึง ลูก้า โมดริช เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งทีม"ไก่เดือยทอง"ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ คู่เเข่งร่วม ลีกเมืองผู้ดี เข้าเสริมทัพ
"เดลี่ เมล"สื่อชั้นนำเเห่งเกาะอังกฤษ ประโคมข่าว!"ปีศาจเเดง"เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรชื่อดังเเห่งศึกพรีเมียร์ ลีก เตรียมทุ่มงบ 50 ล้านปอนด์(ราว 2,500 ล้านบาท)เพื่อใช้ในการกระชาก ลูก้า โมดริช เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งทีม"ไก่เดือยทอง"ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ คู่เเข่งร่วม ลีกเมืองผู้ดี เข้าเสริมทัพช่วงซัมเมอร์นี้
จากรายงานระบุ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่เเล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบจะคว้าตัว เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ จอมทัพคนสำคัญจาก"เจ้างูใหญ่"อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์(ราว 1,500 ล้านบาท)แต่ก็ต้องล้มเลิกไป เพราะตัวนักเตะเองต้องการค่าเหนื่อยสูงถึง 250,000 ปอนด์(ราว 12.5 ล้านบาท)ต่อสัปดาห์
ในขณะที่ปัจจุบัน โมดริช ได้รับค่าเหนื่อยจาก สเปอร์ส เพียงเเค่ 60,000 ปอนด์(ราว 3 ล้านบท)ต่อสัปดาห์เท่านั้น เเละทาง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือเเมนฯ ยูไนเต็ด ก็พร้อมจะจ่ายค่าเเรงเป็น 2 เท่าที่ เเข้งชาวโครเอเชียวัย 26 ปี เคยได้รับ เป็น 120,000 ปอนด์(ราว 6 ล้านบาท)ต่อสัปดาห์อีกด้วย
ลือม้าลายตัวเต็งได้ป๊อกบาร่วมก๊วน
"ซันเดย์ มิร์เรอร์" แท็บลอยด์เมืองผู้ดี ประโคมข่าว ปอล ป๊อกบา มิดฟิลด์ดาวรุ่งเลือดน้ำหอม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่อย้ายไปร่วมทัพ "ม้าลาย" ยูเวนตุส หลังผิดหวังที่ไม่สามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ และกำลังจะหมดสัญญาจบฤดูกาลนี้ แม้จะมี "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้ความสนใจอยู่ด้วยก็ตาม
"ซันเดย์ มิร์เรอร์" หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ของอังกฤษ รายงานว่า ยูเวนตุส สโมสรชั้นนำศึกกัลโช่ เซเรีย อา เป็นทีมเต็งที่จะคว้าตัว ปอล ป๊อกบา กองกลางอนาคตไกลชาวฝรั่งเศสของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าศึกพรีเมียร์ลีก ไปร่วมทีม หลังจากนักเตะกำลังจะหมดสัญญาค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้
มิดฟิลด์วัย 18 ปี ย้ายจาก เลอ อาฟร์ มายังถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2009 ภายใต้สถานการณ์ความขัดแย้ง แต่ทัพ "ปีศาจแดง" รอดพ้นจากข้อกล่าวหาได้ หลังจากนักเตะไม่มีสัญญาผูกพันกับอดีตต้นสังกัดแล้ว อย่างไรก็ตาม ป๊อกบา ค่อนข้างผิดหวังที่ไม่สามารถสอดแทรกขึ้นทีมชุดใหญ่ได้ และเชื่อว่ากำลังพิจารณาทางเลือกของเขา
ซันเดย์ มิร์เรอร์ รายงานว่า ยูเวนตุส มีโอกาสมากที่สุดที่จะได้ ป๊อกบา ไปร่วมทีม ขณะที่ "โกล์ ดอท คอม" เว็บไซต์ฟุตบอลชื่อดัง เปิดเผยข้อมูลวงในว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมมหาเศรษฐีศึกพรีเมียร์ลีก แอบวางแผนจะดึงตัวนักเตะเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ สกาย สปอร์ตส์ รายงานว่า ทัพ "เรือใบสีฟ้า" เพิ่งปฏิเสธข้อเสนอของ ยูเวนตุส และกาลาตาซาราย ที่จะขอซื้อตัว ไนเจล เด ยองก์ ห้องเครื่องชาวดัตช์ แม้นักเตะจะหลุดเป็นตัวสำรองภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือชาวอิตาเลียน โดยเสียตำแหน่งตัวจริงให้นักเตะอย่าง แกเร็ธ แบร์รี่, ยาย่า ตูเร่ และ เจมส์ มิลเนอร์
มิดฟิลด์พันธุ์ระห่ำวัย 27 ปี เหลือสัญญาในถิ่นอิติฮัด สเตเดี้ยม อีก 18 เดือน และยังไม่ได้เจรจาสัญญาฉบับใหม่ ทำให้ทัพ "ม้าลาย" และ กาลาตาซาราย เข้ามาติดต่อขอซื้อตัว แต่ แมนฯ ซิตี้ ตัดสินใจบอกปัดไป ขณะที่ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส เป็นอีกทีมที่ตกเป็นข่าวว่าสนใจรับช่วงต่อ ห้องเครื่องทีมชาติฮอลแลนด์ ชุดรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2010
ทั้งนี้ เด ยองก์ ย้ายจาก ฮัมบูร์ก ในลีกเมืองเบียร์ มาร่วมทีม แมนฯ ซิตี้ เมื่อปี 2009 แต่เพิ่งลงสนามในพรีเมียร์ลีกไปเพียง 8 นัดในฤดูกาลนี้ และเป็นเพียงตัวสำรองที่ไม่ถูกใช้งานในเกมที่เปิดบ้านเฉือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา
ผีย้ำแค้น!บุกส่องปืนดับคาถิ่น 2-1 จี้เรือ3แต้ม
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2555
อาร์เซน่อล 1-2 แมนฯ ยูไนเต็ด
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ทำศึกซูเปอร์ซันเดย์ ต้อนรับการมาเยือนของ "ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด โดยเกมนี้เจ้าถิ่นไม่มีชื่อของ เธียร์รี่ อองรี ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยกองหน้าใช้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ เป็นหัวหอกคนเดียว ขณะที่ แมนฯยูฯ พอล สโคลล์ มีชื่อเพียงสำรองเท่านั้น
เริ่มเกมมา8นาที เป็นฝ่ายทีมปืนใหญ่ได้ยิงทักทายก่อน จากการพาบอลลุยขึ้นมาของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ ก่อนจ่ายให้ อารอน แรมซี่ย์ ยิงด้วยเท้าซ้าย แต่บอลเบาและตรงตัว อันเดอร์ส ลินเดการ์ด รับเข้าซองสบาย
[เปลี่ยนตัว] เกมผ่านไปเพียง15นาที ทางฝั่งแมนฯยูไนเต็ด ก็ได้รับข่าวร้าย เมื่อ ฟิล โจนส์ บาดเจ็บข้อเท้า เล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนส่ง ราฟาเอล ลงมาแทนตั้งแต่ต้นเกม
นาทีที่23 เป็นฝ่ายทีมเยือนปีศาจแดง ครองเกมบุกกดดัน อาร์เซน่อล ได้มากขึ้น ก่อนมีจังหวะได้เสียว จากจังหวะแทงบอลทะลุช่องของ วาเลนเซีย ให้ ไรอัน กิ๊กส์ หลุดไปถึงเส้นหลัง เปิดเข้ามา แต่บอลเข้ามือ วอยเชียค เชสนี่ รับสบาย
3นาทีต่อมา แมนฯยูฯ ได้ลุ้นอีกเมื่อ อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปิดบอลให้ แดนนี่ เวลเบ็ค หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษ แต่บอลกระดอนสูง ประกอบกับโดน โทมัส แฟร์มาเลน ตามกดดัน ส่งผลให้หัวหอกผิวหมึกจึงยิงข้ามคานออกไป
นาทีที่33 แมนฯยูฯ บุกกดดันต่อเนื่อง ก่อน นานี่ จะแทงบอลทะลุช่องให้ ปาทริซ เอวร่า หลุดไปถึงเส้นหลัง ก่อนหักเข้ากลาง เป้าหมายหวังให้ แดนนี่ เวลเบ็ค เข้าฮอต แต่ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ตามมาสไลด์ออกหลังได้ทัน
นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ด พลาดได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ปาทริซ เอวร่า กระชากบอลหนี อเล็กซ์ ซง ไปถึงเส้นหลัง ก่อนหักกลับมาให้ นานี่ แปด้วยเท้าขวาหวังให้บอลเสียบเสาแรกแต่ วอยเชียค เชสนี่ ล้มตัวรับเซฟช่วยอาร์เซน่อล ไว้ได้
ก่อนหมดเวลา5นาที นานี่ ใช้ความเร็วถึงบอลก่อน โยฮัน ฌูรู ก่อนหลุดเข้าในกรอบเขตโทษ ก่อนปีกโปรตุกีส พยายามปั่นบอลด้วยเท้าขวา แต่กลายเป็นยิงออกหลังแบบไม่มีลุ้นไป
[ใบเหลือง] ท้ายครึ่งแรก อาร์เซน่อล ก็เสียใบเหลืองจนได้ เมื่อ อารอน แรมซี่ย์ ไปทำฟาวส์ใส่ ไรอัน กิ๊กส์ ขณะที่ แมนฯยูฯ ก็โดนบ้างเมื่อ ราฟาเอล ไปดึง อเล็กซ์ เชมเบอร์เลน
[ทำประตู] เกมทำท่าจะจบลงด้วยการเสมอในครึ่งแรก แต่แล้วในช่วงทดเจ็บของครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ด ก็ได้ประตูนำ จากการเติมเกมขึ้นมาทางฝั่งซ้ายของ ไรอัน กิ๊กส์ ก่อนจะเปิดยาวมาที่หน้าประตูเสาสอง ให้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ขึ้นโขกย้อนเสาแรก ปีศาจแดง บุกนำ 1-0
ช่วงเวลาที่เหลือทำประตูเพิ่มกันไม่ได้ แมนฯยูไนเต็ด จึงบุกนำ อาร์เซน่อล ก่อนในครึ่งแรก 1-0
เริ่มครึ่งหลังมา5นาที เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ชวดโอกาสตีเสมออย่างไม่น่าให้อภัย เมื่อ โทมัส โรซิคกี้ ฉกบอลจากความผิดพลาดของ คริส สมอลลิ่ง ก่อนพาบอลเข้าเขตโทษจ่ายให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ ดึงบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนซัดด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดระยะ6หลา แต่บอลหลุดกรอบเหลือเชื่อ
นาทีที่60 อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายบุกขึ้นมาบ้าง ก่อนได้จบโดย โทมัส แฟร์มาเลน แต่บอลหลุดกรอบออกหลังไป
2นาทีต่อมา ทีมปืนใหญ่มีโอกาสใกล้เคียงได้ประตู เมื่อ อเล็กซ์ เชมเบอร์เลน ได้โอกาสกดเต็มข้อด้วยเท้าขวาตรงหัวกะโหลก บอลพุ่งเฉียดเสาไปอย่างมีลุ้น
อย่างไรก็ตามนาทีต่อมา อาร์เซน่อล ก็เกือบเสียประตูที่สองเหมือนกัน จากจังหวะหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษของ แดนนี่ เวลเบ็ค ก่อนจะแตะบอลหลบตัว วอยเชียค เชสนี่ ไป แต่ก่อนที่บอลจะผ่านข้ามเส้นประตู แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ได้วิ่งตามมาสไลด์ออกไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
[ทำประตู] แต่แล้วนาทีที่71 แฟนๆเดอะกันเนอร์ส ก็ได้เฮทั้งสนาม จากการได้จังหวะโต้กลับ โทมัส โรซิคกี้ วางบอลให้ เชมเบอร์เลน ทางฝั่งซ้ายของสนาม ก่อนพาบอลเลี้ยงตัดเข้ามาตรงกลางพร้อมกับจ่ายให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ วิ่งฉีกมายิงด้วยเท้าซ้าย บอลพุ่งเสียบโคนเสาไกล สุดปัญญาที่ อันเดอร์ส ลินเดการ์ด จะเซฟได้ อาร์เซน่อล ตามตีเสมอ 1-1
[เปลี่ยนตัว] 3นาทีต่อมา แฟน อาร์เซน่อล ก็ต้องงงทั้งสนาม เมื่อ เชมเบอร์เลน ที่โชว์ฟอร์มดีทั้งเกม โดนเปลี่ยนตัวออก โดยส่งเอา อังเดร อาร์ชาวิน มาแทน ส่วน แมนฯยูฯ เปลี่ยนทีเดียว2คนรวด โดยส่ง พาร์ค ชี ซอง กับ พอล สโคลล์ ลงมาแทน นานี่ กับ ราฟาเอล
[ทำประตู] และแล้วก็เห็นผลในบัดดล ในนาทีที่81 อันโตนิโอ วาเลนเซีย ใช้ความสามารถเฉพาะตัว พาบอลหนี อังเดร อาร์ชาวิน เข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนคืนบอลถวายพานทองให้ แดนนี่ เวลเบ็ค แปด้วยเท้าขวาเต็มๆ เป็นประตูให้ แมนฯยูไนเต็ด ขึ้นนำ 2-1
[เปลี่ยนตัว] 2นาทีต่อมา อาร์เซน่อล เปลี่ยนตัวอีกครั้ง โดยส่ง พาร์ค ชู ยอง ลงมาแทน อารอน แรมซี่ย์
[ใบเหลือง] ก่อนหมดเวลา5นาที โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ ก็สังเวยใบเหลืองไปอีกคน ก่อนเวลาใกล้กัน โทมัส โรซิคกี้ ก็รับไปอีกคน หลังไปพุ่งเสียบด้านหลังใส่ เวย์น รูนี่ย์ ขณะที่ แมนฯยูฯ ก็โดนเช่นกัน เมื่อ ปาทริซ เอวร่า มาเสียบทั้งตัวใส่ ธีโอ วัลค็อตต์
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำประตูเพิ่มกันไม่ได้ หมดเวลา แมนฯยูไนเต็ด จึงบุกเอาชนะ อาร์เซน่อล ได้ถึงถิ่น 2-1 เก็บสามคะแนนสุดล้ำค่า พร้อมกับตามหลัง แมนฯซิตี้ เหลือ3คะแนนเท่าเดิม
11นักเตะของทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล(4-2-3-1):วอยเชียค เชสนี่,โยฮัน ฌูรู,แพร์ แมร์เตซัคเกอร์,โลร็องต์ กอสซิแอลนี่,โทมัส แฟร์มาเลน,อารอน แรมซี่ย์,อเล็กซ์ ซง,โทมัส โรซิคกี้,ธีโอ วัลค็อตต์,อเล็กซ์ เชมเบอร์เลน,โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์
สำรอง:มานูเอล อัลมูเนีย,เซบาเตียน สกิลลาชี่,นิโก้ เยนนาริส,อิ๊กนาซี่ มิเกล,ยอสซี่ เบนายูน,อังเดร อาร์ชาวิน,พาร์ค ชู ยอง
แมนฯยู(4-4-2):อันเดอร์ส ลินเดการ์ด,คริส สมอลลิ่ง,จอนนี่ อีแวนส์,ฟิล โจนส์,ปาทริซ เอวร่า,ไรอัน กิ๊กส์,ไมเคิ่ล คาร์ริค,อันโตนิโอ วาเลนเซีย,นานี่,เวย์น รูนี่ย์,แดนนี่ เวลเบ็ค
สำรอง:ดาบิด เด เคอา,ฟาบิโอ,พาร์ค ชี ซอง,พอล สโคลล์,ราฟาเอล,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ,ฮสเวียร์ เอร์นานเดซ ชิชาริโต้
ผู้ตัดสิน:ไมค์ ดีน
รับชมไฮไลท์ จาก clip.hotscore ได้ที่นี่
http://clip.hotscore.net/arsenal-1-2-manchester-united-highlights-epl-22-jan-2012.html
