
คริส สมอลลิ่งปราการหลังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดออกมาบอกว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้คู่ปรับร่วมเมืองนั้นจะทนรับแรงกดดันไม่ไหวแน่นอนหาก"ปีศาจแดง"ทำคะแนนไล่จี้ติดแบบนี้
สมอลลิ่งเพิ่งลงเล่นในเกมที่ยูไนเต็ดเอาชนะอาร์เซน่อลไปได้ 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทำให้สโมสรยังรักษาช่องว่าง 3 คะแนนเท่าเดิมกับทีม"เรือใบสีฟ้า"ที่เพิ่งเอาชนะสเปอร์สไปได้เช่นกันก่อนหน้านี้ซึ่งกองหลังวัย 22 ปีก็เชื่อว่าซิตี้นั้นจะต้องกดดันจนพลาดกันไปเองอย่างแน่นอนหากทีมของเขายังเก็บชัยไปได้เรื่อยๆ
"มันเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของเรา" สมอลลิ่งกล่าวกับ แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์
"ตอนที่สกอร์อยู่ที่ 1-1 พวกเราทุกคนรู้ดีว่าต้องชนะเกมนี้ให้ได้เพราะแมนฯซิตี้เก็บชัยไปได้แล้วก่อนหน้านี้และผมคิดว่าพวกเราได้แสดงบุคลิกที่แท้จริงออกมา"
"เร็วๆนี้แหละหากเรายังชนะไปเรื่อยๆ พวกเขาต้องพลาดแน่นอน"
นอกจากนี้สมอลลิ่งยังได้กล่าวชมแดนนี่ เวลเบคกองหน้าของทีมว่ามีความสามารถที่เจ๋งมากๆ
"ถ้าเขารักษาฟอร์มแบบนี้ไปได้นะผมคิดว่าเขาจะจบซีซั่นนี้ได้อย่างสวยงามและมีเวลาที่ดีในช่วงซัมเมอร์ด้วย"
"เขาแข็งแกร่งขึ้นเพราะถ้าเขาเล่นเป็นหน้าเป้าหรือคู่กับวาซซ่า(รูนี่ย์) เขาต้องแข็งเเกร่งเพราะเราจะเสียบอลไมได้"
"นั่นเป็นสิ่งที่เขาเติบโตขึ้นและเขาทำประตูสำคัญๆได้หลายลูกในปีนี้"
"เมื่อปีที่แล้วเขาทำได้ดีกับซันเดอร์แลนด์และปีนี้เขาก็ได้รับโอกาสมา"
สโคลส์แย้มไม่ปิดโอกาสรีเทิร์นสิงโตลุยยูโร

พอล สโคลส์ กองกลางตัวเก๋าที่เพิ่งยกเลิกการแขวนเกือกก่อนจะกลับมาเล่นให้กับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา อาจจะกลับมาลงรับใช้ชาติอีกครั้ง หลังจากกล่าวแบบแบ่งรับแบ่งสู้สำหรับโอกาสในการตอบรับคำเชิญในการลงสนามให้ "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ ที่จะลงชิงชัยในศึก ยูโร 2012 ในซัมเมอร์นี้
พอล สโคลส์ มิดฟิลด์ประสบการณ์สูงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่ศึกพรีเมียร์ลีก ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าเขาไม่ปิดโอกาสสำหรับการกลับไปเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ ในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 ที่ประเทศโปแลนด์-ยูเครน ในเดือนมิถุนายนนี้
สโคลส์ เพิ่งจะทำเซอร์ไพรส์ด้วยการหวนกลับมาค้าแข้งกับ "ปีศาจแดง" อีกครั้ง เมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากประกาศแขวนสตั๊ดในช่วงจบฤดูกาลที่แล้ว โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับการกลับไปลงรับใช้ชาติอีกครั้งหลังจากที่เลิกเล่นไปตั้งแต่ปี 2004 และปฏิเสธโอกาสจะรีเทิร์นร่วมทีมในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้
"สโคลซี่" กล่าวกับ เดลี่ เอ็กซ์เพรสส์ แท็บลอยด์เมืองผู้ดี ถึงโอกาสในการเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษเมื่อปี 2010 ว่า "ผมชอบอยู่ที่บ้าน แต่ผมก็รู้สึกสนใจมัน ผมเปลี่ยนใจทุกชั่วโมงเลย แต่ในท้ายที่สุด ความคิดที่ว่าต้องอยู่ห่างจากบ้านเป็นเวลา 6 สัปดาห์นั้นทำให้ผมคิดได้ ผมแค่ไม่สนุกกับการต้องอยู่ไกลบ้านเป็นระยะเวลานาน"
"มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมเลิกเล่นทีมชาติหลังจบยูโร 2004 รวมถึงความจริงที่ว่าผมรู้สึกว่าผมเล่นได้ไม่ค่อยดี ผู้คนพูดกันว่ามันเป็นเพราะผมไม่ชอบเล่นทางฝั่งซ้าย แต่ว่ามันไม่ใช่ประเด็นเลย ผมเล่นในตำแหน่งนั้นกับ ยูไนเต็ด และก็ยิงประตูได้มากมาย" ส่วนโอกาสในการไปลุยในศึกยูโร 2012 ที่จะถึงนี้ มิดฟิลด์วัย 37 ปี ให้ความเห็นว่า "ใครจะรู้ได้ล่ะ?"
ถึงแม้ว่า สโคลส์ จะเป็นนักเตะมากประสบการณ์ในทัพ "ปีศาจแดง" แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่ายังคงมีความรู้สึกหวั่นกลัวเมื่อครั้งต้องเข้าไปพบ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือชาวสกอตติช เพื่อพูดคุยถึงเรื่องการกลับมาเล่นให้กับต้นสังกัดอีกครั้ง
"หลังจากใช้เวลา 2 เดือนในการฝึกซ้อมร่วมกับทีมเยาวชน ผมรู้สึกว่าตัวเองยังคงเล่นได้อยู่ ผมลงเอยด้วยการลงเล่นในเกมฝึกซ้อม และก็รู้สึกฟิตมากขึ้นเรื่อยๆ ผมจึงเข้าไปหาผู้จัดการทีม ผมรู้สึกยังไงหรือ? กลัวน่ะสิ ผมไม่แน่ใจว่าจะต้องเจอกับปฏิกิริยาตอบโต้แบบไหน"
"ผมบอกเจ้านายว่าผมอยากลงเล่นอีกครั้ง ไม่จำเป็นว่าต้องกับ ยูไนเต็ด ขอเพียงแค่ได้ลงสนามก็เป็นพอ เขาก็ยอดเยี่ยมจริงๆ หลังจากนั้น การบอกข่าวดังกล่าวกับเพื่อนร่วมทีมหรือการกลับไปเล่นในสนามจริงๆก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมอีกต่อไป" สโคลส์ กล่าวทิ้งท้าย
ป๋าวอนแฟนผีอย่าก่อเรื่องเกมเอฟเอคัพกับหงส์

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด อยากเห็นสันติภาพสุดๆ หลังออกมาวิงวอนให้พลพรรค "เร้ด อาร์มี่" ที่จะเดินทางไปเชียร์ทีมรัก ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 ที่ต้องออกไปเยือน ลิเวอร์พูล ในวันเสาร์นี้ อย่าก่อเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น และขอให้แฟนๆ "ปีศาจแดง" เดินหน้าเชียร์ในแบบที่ดีงามต่อไป หลังหลายฝ่ายกังวลในเรื่องที่คดีเหยียดผิวของ หลุยส์ ซัวเรซ ศูนย์หน้า "หงส์แดง" อาจทำให้เกมนี้เกิดเรื่องวุ่นได้
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาร้องขอให้บรรดา "เร้ด อาร์มี่" ทั้งหลาย เชียร์อย่างมีสติ และไม่ก่อเรื่องอื้อฉาว ในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 4 ที่พลพรรค "ปีศาจแดง" ต้องออกไปเยือน ลิเวอร์พูล คู่ปรับตัวฉกาจ ในวันเสาร์ที่ 28 มกราคมนี้
"ศึกแดงเดือด" ในวันเสาร์นี้ จะเป็นการกลับมาพบกันครั้งแรกของทั้ง 2 ทีม นับตั้งแต่เกิดเรื่องวุ่นด้านเหยียดผิวที่ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิง "หงส์แดง" ถูกตั้งข้อหาว่า ไปดูหมิ่นสีผิวของ ปาทริซ เอวร่า แบ็กจอมบุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จนทำให้แข้งชาวอุรุกวัยโดนแบนถึง 8 เกม
ทั้งนี้เรื่องราวของ ซัวเรซ ก็ได้เพิ่มดีกรีความเผ็ดร้อนให้กับหนึ่งในคู่อริที่ดุเดือดที่สุดคู่หนึ่งบนเกาะอังกฤษ ให้มากขึ้นไปอีกเป็นที่เรียบร้อย ถึงแม้ "เซอร์เฟอร์กี้" จะเคยออกมายืนยันว่า เรื่องดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบกับสายสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 สโมสรก็ตาม
กระทั่งล่าสุด ดูเหมือนกุนซือวัย 70 ปี ก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นขึ้นระหว่างทั้งคู่ หลังออกมาส่งจดหมายไปยังแฟนๆ ของ "ปีศาจแดง" ที่มีตั๋วเข้าชมเกมที่สนาม แอนฟิลด์ ในวันเสาร์นี้ว่า อยากให้ "เร้ด อาร์มี่" ประพฤติตัวให้ดีที่สุด และเชียร์ไปในแนวทางที่ดีงาม พร้อมตะโกนเชียร์อย่างมีสติด้วยเสียงอันดังลั่นด้วย
จดหมายของนายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งไม่กล่าวถึงกรณีของ ซัวเรซ เลยนั้น เผยว่า "เกม เอฟเอ คัพ ก็เป็นเกมที่มีความตึงเครียดมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อยู่แล้ว รวมถึงการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เจอกับ ลิเวอร์พูล ก็เป็นเกมที่ใหญ่ที่สุดแล้วนั้น ก็ยิ่งทำให้มันเป็นเกมที่ตึงเครียดมากขึ้นด้วยซ้ำ"
"ใช่ แรงสนับสนุนจากพวกคุณคือสิ่งที่สำคัญมากๆ ต่อทีมของเรา และตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า เรื่องนั้นเป็นความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับเกมที่ แอนฟิลด์ แต่ได้โปรด เราอยากให้คุณให้ความสำคัญกับการที่พาเราเข้าไปสู่รอบต่อไป และช่วยสนับสนุนในแบบที่พวกคุณขึ้นชื่อลือชา ด้วยการเชียร์ไปในทางที่ดี, มีสติปัญญา และไหวพริบในการเชียร์ รวมถึงตะโกนเชียร์ให้สุดเสียงเพื่อเรา" จอมคนชาวสกอตต์ ระบุ
สื่อปูดเวลเบ็คจ่อเซ็นสัญญาผียาว5ปี

เดอะ ซัน สื่อจอมแฉแห่งเกาะอังกฤษ ตีข่าว แดนนี่ เวลเบ็ค ศูนย์หน้าดาวโรจน์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด จ่อสลัดน้ำหมึกในสัญญาฉบับใหม่กับ "เร้ด เดวิลส์" ยาวไปอีก 5 ปี พร้อมค่าเหนื่อยเบ็ดเสร็จสัปดาห์ละ 42,000 ปอนด์
เดอะ ซัน หนังสือพิมพ์ชื่อดังของอังกฤษ รายงาน เมื่อวันอังคารที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมาว่า แดนนี่ เวลเบ็ค หัวหอกดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ใกล้จะเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรเป็นเวลา 5 ปี ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า พร้อมค่าเหนื่อยคราวๆ 42,000 ปอนด์ (ราว 2.1 ล้านบาท) ซึ่งน้อยกว่าที่เรียกร้องไปก็ตาม
ดาวเตะวัย 21 ปี ซึ่ง "ปีศาจแดง" ปล่อยไปให้ ซันเดอร์แลนด์ ยืมตัว เมื่อฤดูกาลที่แล้ว กลับมาเป็นกำลังสำคัญของต้นสังกัดในซีซั่นนี้ ด้วยการซัดประตูอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่งสวมบทฮีโร่ ยิงประตูชัยในเกมที่บุกชนะ อาร์เซน่อล 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ด้วยผลงานแบบนี้ทำให้ เวลเบ็ค มีแต้มต่อในการเจรจาสัญญาฉบับใหม่มากขึ้น โดยเป็นที่เข้าใจว่า สโมสรได้ยื่นข้อเสนอขอลดค่าเหนื่อย แต่เพิ่มโบนัส ไปให้ศูนย์หน้าผิวสีพิจารณา แลกกับการได้ร่วมงานกันต่อไป แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็มีรายงานว่า การเจรจาระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายเกิดติดขัด เนื่องจากนักเตะอยากได้ค่าเหนื่อยที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากรายงานล่าสุด ระบุว่า แข้งเลือดผู้ดีจะยอมรับค่าเหนื่อยที่สัปดาห์ละ 37,000 ปอนด์ (ราว 1,850,000 บาท) ต่อสัปดาห์ พร้อมด้วยเงินอีกก้อนหนึ่งซึ่งน้อยกว่า 10,000 ปอนด์ (ราว 500,000 บาท) แต่จะไม่ได้ โบนัส
แฟนผีหนาวนานี่เจ็บอาจชวดดวลหงส์เกมเอฟเอคัพ

สื่อผู้ดีปูด แมนฯ ยูไนเต็ด อาจชวดใช้งาน หลุยส์ นานี่ ในแมตช์ "แดงเดือด" นอกรอบ พบ ลิเวอร์พูล ศึกเอฟเอ คัพ วันเสาร์นี้ หลังนักเตะมีปัญหาเจ็บเท้าจากเกมชนะ อาร์เซน่อล เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่มีข่าวดี ฟิล โจนส์ กองหลังดาวรุ่ง ไม่เจ็บหนัก และมีลุ้นได้ลงเล่นเกมสำคัญที่ แอนฟิลด์
เดลี่ เมล์ สื่อดังเมืองผู้ดี ตีข่าว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาจชวดใช้งาน หลุยส์ นานี่ ปีกทีมชาติโปรตุเกส ในแมตช์ดวล ลิเวอร์พูล ศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 ที่สนาม แอนฟิลด์ วันเสาร์ที่ 28 มกราคมนี้ เนื่องจากนักเตะมีปัญหาบาดเจ็บเท้า จากเกมเฉือน อาร์เซน่อล 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
นานี่ ต้องเดินกระโผลกกระเผลกออกจากสนาม หลังโดน โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ กองหลัง "เดอะ กันเนอร์ส" เสียบหนัก โดยมีการคาดกันว่า นักเตะคงต้องพักรักษาอาการเจ็บที่เท้าเบาะๆ 2 สัปดาห์ ซึ่งตอนนี้ "ผีแดง" คงต้องรอให้อาการบวมทุเลาลง เพื่อที่ส่งนักเตะเข้ารับการสแกนเท้าแล้วรอผลการยืนยันว่า แข้งเลือดฝอยทองเจ็บหนักแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม เดอะ ไทม์ส สื่ออีกฉบับ ระบุว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ผีแดง" พอจะมีข่าวดีให้ชื่นใจบ้าง เมื่อมีรายงานว่า ฟิล โจนส์ กองหลังสารพัดประโยชน์ มีลุ้นหายเจ็บที่ข้อเท้า ซึ่งเกิดขึ้นในแมตช์กับ "ไอ้ปืนใหญ่" กลับมาช่วยต้นสังกัดในศึก "แดงเดือด" นอกรอบได้
สำหรับตอนแรกมีข่าวว่า โจนส์ ซึ่งโดนหามออกจากเกมดังกล่าวในนาทีที่ 17 อาจจะเส้นเอ็นเสียหายที่ข้อเท้า อย่างไรก็ตาม หลังจบแมตช์เจ้าตัวกลับไม่มีอาการเจ็บให้เห็น และมีความเป็นไปได้ว่า น่าจะพร้อมสำหรับเกมลีก พบ สโต๊ค ซิตี้ หากเจ้าตัวไม่ได้ลงสนามในเกมกับ ลิเวอร์พูล วันเสาร์นี้
ในส่วนของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังมากประสบการณ์ ยังต้องลุ้นว่าจะได้ลงเล่นที่ แอนฟิลด์ หรือไม่เนื่องจากอาการบาดเจ็บหลังกำเริบ สำหรับ เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกเลือดเดือด คาดว่าคงไม่มีปัญหากับอาการเจ็บเล็กน้อยที่ข้อเท้า และพร้อมสำหรับแมตช์สำคัญนี้
ไบรท์ตันลุ้นคว้าเบบี้โกล์ช่วยเลื่อนชั้น

"เดอะซัน"แท็บลอยด์สื่อดังประจำเมืองผู้ดี ตีข่าว!ไบรท์ตัน สโมสรประจำเวทีเดอะแชมเปี้ยนชิป เตรียมลุ้นคว้า ไมเคิ่ล โอเว่น กองหน้าสำรอง"ผีแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบสองเปิดทำการในเดือนมกราคมนี้
แม้ ไมเคิ่ล โอเว่น อดีตศูนย์หน้า"หงส์แดง"ลิเวอร์พูล และ"ราชันชุดขาว"รีล มาดริด ไม่ต้องการลดชั้นไปเล่นกับลีกที่ต่ำกว่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่อาจต้องคำนึงถึงโอกาสเป็นตัวจริง เนื่องจากอายุอานามก็ปาเข้าไปแล้ว 32 ปี และช่วงซัมเมอร์นี้เป็นที่แน่นอนว่า"ผีแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่ยื่นข้อเสนอสัญญาฉบับใหม่ให้ หลังโยกมาจาก"สาลิกาดง"นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แบบไม่มีค่าตัวเมื่อปี 2009 อีกทั้งซีซั่นนี้ได้ลงเล่นในลีกไปเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น
เวลานี้ ไบรท์ตัน สโมสรประจำเวทีเดอะแชมเปี้ยนชิป รั้งอันดับอยู่ที่ 10 มี 41 แต้ม จากการลงเล่นไปแล้ว 27 นัด ห่างจากการคว้าสิทธิ์เพลย์ออฟเลื่อนชั้นสู่ศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี อยู่ที่ 6 เพียง 2 แต้ม ทำให้ กุสตาโว โปเยต์ อดีตนักเตะทีมชาติอุรุกวัย นายใหญ่ของทีมต้องการคว้าตัว"เบบี้โกล์"มาสู่รังเพราะมองว่าทีมยิงได้น้อยเกินไปแค่ 30 ประตูเท่านั้นและหวังว่าจะช่วยให้ ไบรท์ตัน เลื่อนชั้นไปเตะพรีเมียร์ลีกได้ในปีหน้า
สโคลส์ยันผีฟอร์มแจ่มขึ้นไม่ใช่เพราะเขากลับมา

พอล สโคลส์ด้ออกมายืนยันว่า เขาไม่ได้มีอิทธิพลอะไรมากนัก ต่อฟอร์มการเล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่กลับมาเข้าร่องเข้ารอยมากขึ้นในฤดูกาลนี้
สโคลส์กำลังสุขีกับช่วงเวลาที่คัมแบ็คกลับมาสวมสตั๊ดลงเล่นอีกครั้งหนึง หลังจากเจ้าตัวประกาศแขวนสตั๊ดไปเมื่อช่วงจบฤดูกาลก่อน
แข้งวัย 37 ปีมีส่วนร่วมในสามเกมที่ทีมได้รับชัยชนะ หลังจาก "ปีศาจแดง" ฟอร์มตุปัดตุเป๋ไปในช่วงคาบเกี่ยวปีใหม่
"ผมไม่คิดว่าตัวเองจะมีอิทธิพลอะไรมากขนาดนั้นนะ" เขากล่าว
"แน่นอนว่าคุณต้องปรับเรื่องสภาพร่างกาย แต่ผมคิดว่าต้องปรับเรื่องสภาพจิตใจด้วยเหมือนกัน"
"มันก็ต้องใช้เวลาให้คุ้นเคยกับมันหน่อยและผมก็ใช้ประโยชน์จากการที่ผมอยู่กับสโมสรมาตลอดแม้จะแขวนสตั๊ดไปแล้วในฐานะโค้ช ตอนกลับมาเล่นมันเลยไม่ใช่เรื่องยากมากเท่าไหร่"
เสาร์ที่ 28 มกราคม THE RED FIGHT MATCH @ Manchester United Restaurant & Bar

