ดาวเตะซูเปอร์สตาร์ เล คอง วิน ซึ่งย้ายไปเล่นในลีกสูงสุดของโปรตุเกสกับทีม ไลซอส เมื่อ4 เดือนก่อน ได้กลับมายังเวียดนามแล้ว
เขาจะใช้เวลาช่วงสั้นๆเพื่ออยู่กับครอบครัว ก่อนที่จะกลับไปซ้อมกับต้นสังกัดที แอนด์ ที ฮานอย และทีมชาติ
"ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เล่นแมทช์สำคัญในเกมลีกให้กับ ไลซอส มากนัก แต่ผมก็พยายามอย่างดีที่สุดแล้วในการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทีมและยิงประตูให้กับทีม ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะผิดหวังในตัวเอง การเดินไปค้าแข้งหนนี้ ช่วยให้ผมได้พัฒนาทักษะและได้รับประสบการณ์อย่างมากมาย เพื่อที่จะได้นำมาใช้ในเกมการแข่งขันต่อไปของผม" ดาวเตะวัย 24 ปีที่เกิดในจังหวัดเฮ อันกล่าว
อนึ่ง ไลซอส เคยถุกคุมทีมโดย เฮนริเก้ คาริสโต้ โค้ชทีมชาติเวียดนามคนปัจจุบัน ในช่วงปี 1990-91 และ 1993-1994
ปีที่แล้ว เล คอง วิน ได้ย้ายจากทีม ซอง ลัม เฮ อัน ไปยังทีม ที แอนด์ ที ฮานอย ด้วยสัญญา 4 ปี ค่าตัวประมาณ 400,000 ดอลล่าสหรัฐ
http://www.vietnamnews.com.vn/showartic ... 1NAT291209
สำหรับ เล คอง วิน นั้น เขาได้รับโอกาสให้ไปเล่นยังลีกสูงสุดของโปรตุเกสผ่านการติดต่อของ คาลิสโต้ ซึ่งเป็นอดีตกุนซือไลซอส โดยให้ไปเล่นเป็นระยะเวลาสั้นๆในช่วงที่ลีกเวียดนามปิดฤดูกาล พอตอนนี้ครบตามสัญญา เล คอง วิน จึงได้กลับมาเวียดนามเพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมการแข่งขัน วี-ลีก ในฤดูกาลต่อไปทันที อย่างไรก็ตาม หากมีสโมสรในโปรตุเกสให้ความสนใจและติดต่อเข้ามา เล คอง วิน ก็อาจจะกลับไปเล่นในยุโรปอีก
โดยส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้อยากที่จะชื่นชมอะไรในตัวของ เล คอง วิน มากนัก แต่ผมก็ยอมรับโดยสดุดีว่า เขาเป็นนักเตะที่มีความสามารถระดับสตาร์ในละแวกแถบนี้ การได้รับโอกาสให้ไปเล่นที่ลีกระดับสูงพอสมควรในยุโรปและสามารถพิสูจน์ตัวเองได้นั้น บ่งบอกได้เลยว่านักเตะรายนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ในทางกลับกัน นักเตะไทยในยุคหลังๆก็แทบไม่มีใครได้รับโอกาสหรือได้รับแล้วแต่ก็พิสูจน์ตัวเองไม่ได้อย่างเขา ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่าคิดเหมือนกัน
ส่วนการที่มีคนไปโพสในเว็บ thailandsusu ว่า เล คอง วิน ไปเล่นตั้ง 4 เดือน แต่ดันยิงไม่ได้สักลูก จนทำให้ใครหลายคนปรามาสเขาว่าไร้น้ำยานั้น ในความเป็นจริงแล้ว ผมได้ไปเช็คข้อมูลในเว็บนอก ผลปรากฏว่า เล คอง วิน ได้รับโอกาสในการลงสนามพอสมควร บ้างนัดก็ได้เล่นจนครบ 90 นาที ที่สำคัญเขาสามารถยิงประตูในแมทช์อย่างเป็นทางการให้กับทีมได้อีกด้วย
ดังนั้น ผมจึงคิดว่าเราไม่ควรตั้งตนอยู่บนความประมาท และเลิกหยามนักเตะชาติอื่นว่าไม่เก่งเลยครับ เพราะไม่อย่างนั้นของมันอาจจะย้อนเข้าตัวได้ ลองคิดดูว่า ไทยเป็นเต้ยด้านฟุตบอลแถบนี้มานานนับ 10 ปี แต่เราดันย่ำอยู่กับที่ ปล่อยให้เวียดนาม และสิงคโปร์ เบียดตัวเองขึ้นมาไล่จี้เราได้ แทนที่จะถีบตัวเองให้ไปไกลในอีกระดับ ขณะที่ฟุตบอลลีกเราบูมแล้วก็จริง แต่ก็เพิ่งยืนได้อย่างมั่นคงเท่านั้น ส่วนของเวียดนามนั้น ต้องยอมรับว่าเขาจัดการแข่งขันได้ดีและมีหลายฝ่ายช่วยสนับสนุนมาก คิดดูว่า ดัสดร มาเมืองทอง ค่าตัวยังได้แค่ครึ่งของ เล คอง วิน
อย่างไรก็ตาม ผมยังเชื่อว่านักเตะไทยยังมีดีอีกเยอะ รอแค่ใส่ความเป็นมืออาชีพลงไปในทุกๆด้าน ไทยเราก็จะไปได้อีกไกลครับ