ญี่ปุ่น :: ซามูไรจอมอหังการ์
ญี่ปุ่น แม้จะเป็นชาติในทวีปเอเชีย แต่ก็เป็นทีมที่หลายคนจับตามอง ในอดีตพวกเขาอาจะไม่ใช่ชาติที่มีรูปร่างสูงใหญ่ หรือมีความก้าวหน้าทางฟุตบอลอย่างนี้ แต่นี้คือชาติที่หลายประเทศ ต้องดูเป็นแบบอย่าง จากไอ้ยุ่นในสายตาแฟนบอล กลายเป็นยักษ์ใหญ่ของเอเชีย ทุกวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักพวกเขา ทีมชาติญี่ปุ่น

* การ์ตูน ซิบาสะ ก็มีส่วนทำให้เด็กญี่ปุ่นเริ่มสนใจฟุตบอลมากขึ้น
แม้จะเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามโลก แต่ญี่ปุ่นให้ความสำคัญการกับพัฒนาทรัพยากรในประเทศ โดยเฉพาะตัวบุคคล ญี่ปุ่นจึงเป็นชาติที่ให้ความสำคัญกับแทบทุกเรื่อง โดยเฉพาะเจ-ลีค พวกเขาสร้างมันขึ้นอย่างมีรูปแบบและที่ทำให้ญี่ปุ่นได้เปรียบชาติอื่นในทวีป แถมยังมีรุ่นพี่อย่าง ฮิเดโตชิ นากาตะ ชินจิ โอโนะ เป็นต้นแบบแห่งความสำเร็จ

*บอลโลก2002 คือครั้งที่ดีที่สุดของ ญี่ปุ่น
สำหรับฟุตบอลโลกถือว่าพวกเขามีพัฒนาการอย่างเหลือเชื่อ พวกเขาร่วมศึกฟุตบอลโลกครั้งแรกที่ ฝรั่งเศสในปี 1998 ซึ่งถือว่าทำให้ญี่ปุ่นตื่นตัวเรื่องบอลโลกอย่างมาก แต่โชคร้ายพวกเขาแพ้เรียบ 3 นัด ต่อมาในปี 2002 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพร่วมกับเกาหลีใต้ และนัดแรกพวกเขาสามารถเอาชนะยอดทีมจากยุโรปอย่างรัสเซีย แบ่งแต้มกับเบลเยียม ก่อนจะปิดท้ายด้วยการชนะ ตูนิเชีย ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายพวกเขาพ่ายต่อ ตุรกี จากประตูชัยของ อูมิต ดาวาร่า แต่ในบอลโลกที่เยอรมันครั้งล่าสุด พวกเขากลับทำผลงานน่าผิดหวัง เก็บได้เพียง 1 คะแนนจาก โครเอเชีย ก่อนจะแพ้ ออสเตรเลีย 1-3 และแพ้บราซิล 4-0 ตกรอบอย่างน่าเจ็บใจ
.....

*โอกาสพิสูจน์ฝีมือเต็มๆของโอกาดะ หลังชวดคุมทีมตอน ฟร้องก์ 98 อย่างน่าเจ็บใจ
หลังจากผิดหวังจากครั้งที่แล้ว ญี่ปุ่นเปลี่ยนระบบหันมาใช้ผู้จัดการทีมเป็นชาวญี่ปุ่นแบบเดิม หลังจากซิโก้ และ อิวิก้า โอชิม สองเฮดโค้ชต่างชาติ ทำทีมล้มเหลว และผู้จัดการคนใหม่หน้าเก่าอย่าง ทาเคชิ โอกาดะ ผู้เคยคุมทีมในช่วงปี 97-98 ก่อนที่ฟิลลิปส์ ทรุยซิเยร์ จะรับหน้าที่พาทีมลุยบอลโลก98 แทน โอกาดะ รู้จักบอลญี่ปุ่นดี เขาแทบจะพลิกวงการบอลญี่ปุ่นเลย เขาให้ความสำคัญกับนักเตะในเจ-ลีค เลิกยึดติดนักเตะดัง และให้โอกาสดาวรุ่ง บางคนอายุ 19-20 ก็เคยแวะเวียนขึ้นทีมชุดใหญ่ โอกาดะ ถือเป็นโค้ชจอมอหังการ์ และเขามีความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม และไม่เคยหวั่นกลัวต่อสิ่งใดเลย พร้อมกลับประกาศเลยว่า ทีมชุดนี้ดีพอจะเข้ารอบต่อไปได้

*เอ็นโดะ จอมทัพตัวจริงๆๆในยุคนี้
ซุปเปอร์สตาร์ ในอดีตพวกเขามี นากาตะ โอโนะ ทาคาฮาร่า แต่ยุคนี้ต้อง ยาซุฮิโตะ เอ็นโดะ มิลฟิลด์จอมทัพแห่งกัมบะ โอซะก้า ผู้เคยทะลวงตะข่ายแมนยูไนเต็ดมาแล้ว รวมไปถึง มาร์คัส ตูลิโอ ทานากะ กองหลังลูกครึ่งบราซิล-ญี่ปุ่น มาโกโตะ ฮาซาเบ้ มิลฟิลด์จากโวล์ฟบวร์ก . ยังมีจอมเก๋าอย่าง ซุนซึเกะ นากามูระ จุนอิชิ อินาโมโต ยูริ นากาซาว่า กัปตันทีม บวกด้วยสองพลังหนุ่มกับ เคซึเกะ ฮอนด้า และทาคายูริ โมริโมโตะ ยอดกองหน้าจาก คาตาเนีย น่าจะทำให้ญี่ปุ่นมีทีมดูน่ากลัวมากขึ้น

*ฮอนด้า น่าจะแผลงฤทธิ์ในบอลโลกหนนี้
ดาวรุ่งที่น่าจับตามอง .... คนแรกคือ เคซึเกะ ฮอนด้า มิลฟิลด์ตัวเก่งเจ้าของเสื้อเบอร์ 7 ทีมซีเอสเคเอ มอสโกว์ ยอมทีมดังจากรัสเซีย ด้วยวัยเพียง 23 ปี แต่ฮอนด้า สามารถก้าวขึ้นมานักเตะที่ทีมชาติขาดไม่ได้ เขาเป็นมิลฟิลด์ที่เล่นบอลได้ฉลาด ทักษะดี ไว และยิงฟรีคิกได้มีประสิทธิภาพ อีกคนคงหนีไม่พ้น ทาคายูริ โมริโมโตะ กองหน้าคาตาเนีย ที่แมนยูไนเต็ด สนใจตัว เขามีความเร็วมาก บวกจากจบสกอร์ที่ดี ทั้งที่เพิ่งอายุแค่ 22 ปี แม้แต่ยอดดาวรุ่งอย่าง อเล็กซ์ ปาโต้ กองหน้าทีมเอซี มิลาน ยังทำนายว่า โมริโมโตะ จะกลายเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในเซเรียอา เทียบเท่า โรนัลโด้ ตำนานชาวบราซิลได้เลยทีเดียว
รูปแบบการเล่น... ญี่ปุ่น ในชุดนี้น้อยคนที่จะสูง 185 ซม. ขึ้นไป รูปแบบการเล่นญี่ปุ่น จึงเป็นสไตล์การแบบต่อบอลเท้าต่อเท้า Step-By-Step เน้นการส่งต่อบอลอย่างแม่นยำ แถมยังเทคนิคดีอีกด้วย ญี่ปุ่นชุดนี้มีดาวรุ่งขึ้นมาหลายคน และที่สำคัญเป็นไม้เด็ดของญี่ปุ่น ที่ทุกชาติต้องระวังคือ ฟรีคิก และลูกยิงไกล ญี่ปุ่นน่าจะติดท็อปไฟว์ของโลก ที่มีมือฟรีคิกชั้นเทพอยู่หลายคนไม่ว่าจะเป็น นากามูระ เอ็นโดะ ฮอนด้า ทั้งสามคนไม่ว่าจะใครยิง อันตรายพอกัน พวกเขายังมีแดนกลางจอมทะลวงอย่าง เคนโกะ นากามูระ และจอมยิงไกลสุดอันตราย อย่าง ฮาซาบะ และจอมเทคนิคขั้นเทพอย่าง ไดสุเกะ มาซุอิ จาก เกรอน็อบ

โปรแกรมอุ่นเครื่อง ของญี่ปุ่น
24 พฤษภาคม VS เกาหลีใต้
30 พฤษภาคม VS อังกฤษ
04 มิถุนายน VS ไอวอรีโคสต์
โปรแกรมบอลโลกของ ญี่ปุ่น
14 มิถุนายน VS แคมเมอรูน
20 มิถุนายน VS เนเธอร์แลนด์
24 มิถุนายน VS เดนมาร์ก

เล็กๆน้อยกับญี่ปุ่น
1. พวกมีแรงกิ้ง อยู่ในอันดับที่ 45
2 .แม้จะเป็นยอดทีมแห่งเอเชีย แต่ญี่ปุ่นกลับไม่เคยได้แชมป์ฟุตบอล ชิงแชมป์แห่งเอเชียใต้ ที่มีทีมอย่าง จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ โดย 4 ครั้งที่เข้าร่วมพวกเขาได้รองแชมป์ใน 3 ครั้งแรก แต่ครั้งล่าสุด กลับได้ที่สาม
3. สถิติการแพ้ที่เละที่สุด เกิดขึ้นยุคพระเจ้าเหา พวกเขาแพ้คาบ้านต่อ ฟิลิปปินส์ 2-15 แต่ 50 ปีให้หลัง พวกเขาก็ล้างแค้นได้สำเร็จ ด้วยการยัดเยียด สถิติแพ้มากที่สุดคืนให้ฟิลิปปินส์ ถึง 15-0 แต่ถ้ามาเจอกันตอนนี้ อาจจะมีสถิติใหม่ก็ได้ 555+
4. พวกเขาไม่เคยชนะในบอลโลกนอกบ้านเลย
5. ก่อนบอลโลกปี 98 พวกเขามีแรงกิ้งถึงอันดับ 9 ของโลก !!!
6.เดิมที ญี่ปุ่น เป็นชาติที่ไม่มีชื่อเล่นฟุตบอล แต่ อิวิก้า โอซิม เป็นคนตั้งชื่อเล่นฟุตบอลให้ญี่ปุ่นว่า "Samurai Blue" แถมชาวญี่ปุ่นก็เรียกโอซิมว่า Oshimu
7.เจลีค ลีคที่ว่ากันว่า มีระบบจัดการที่ดียอดเยี่ยมของทวีป แท้จริงเพิ่งก่อตั้งมาแค่ 17 ปี
8. 23 คนที่ติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดลุยบอลโลก มีเพียง 4 คนที่ค้าแข้งต่างประเทศ ที่เหลือเป็นนักเตะในเจลีค

23 ผู้เล่น ชุดลุยบอลโลก 2010 (อย่างเป็นทางการ)
ผู้รักษาประตู ไซโกะ นาราซากิ . ไอจิ คาวาชิม่า . โยชิคัตซึ คาวางูจิ วาตะ
กองหลัง มาร์คัส ตูลิโอ ทานากะ . ยูจิ นากาซาว่า (C) , ยาซูยูกิ คอนโนะ , ไดกิ อิวามาซะ , ยูอิชิ โคมาโนะ ,ยูโตะ นากาโตโม่ ,อัตซูโตะ อูชิดะ
กองกลาง ชุนซุเกะ นากามูระ . ยาซุชิโตะ เอ็นโดะ ,เคนโกะ นากามูระ,จูนิชิ อินาโมโตะ , ยูกิ อาเบะ . มาโกโตะ ฮาเซเบ้ , เคซูเกะ ฮอนดะ ,ไดสุเกะ มัตซึอิ
กองหน้า ชินจิ โอกาซากิ , ไคจิ ทามาดะ . โยชิโตะ โอคุโบะ . ทาคายูกิ โมริโมโตะ . คิโช ยาโน่
ฟันธง!!! ..... แม้เพื่อนร่วมสาย จะดูน่ากลัวนิดๆ แต่ทั้ง แคมมารูน เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก ถ้าพูดตามเนื้อผ้า เกมเจอกับ เนเธอร์แลนด์ ไม่น่าจะรอด ส่วนแคมมารูน ก็ไม่แน่เหมือนกัน เพราะญี่ปุ่นก็เคยชนะมาแล้ว และเดนมาร์ก ทีมที่รูปร่างสูงใหญ่ แต่เจอบอลที่เล่นบอลกับพื้นได้ดีอย่างญี่ปุ่นก็มีลุ้นเหมือนกัน แม้จะอุ่นเครื่องแพ้เซอร์เบียยับเยินคาบ้าน 0-3 แต่ญี่ปุ่น ชุดนี้ดูแล้ว โอกาสเข้ารอบพอมี ญี่ปุ่นได้เปรียบตรงที่นักเตะส่วนใหญ่เล่นเจลีค ทำให้เข้าขากันอย่างดี ไม่เหมือน แคมมารูน ที่แข้งส่งออกซะส่วนใหญ่ แม้จะผิดหวังจะครั้งที่แล้ว แต่ก็ใช่ว่าครั้งนี้ พวกเขาไม่มีโอกาส อยู่ที่ว่าจะทำออกมาได้แค่ไหน
ข้อมูลโดย...ผีอิคคิล
++++++++บทความย้อนหลัง +++++++++++++
ตอนที่ 1... กาน่า
http://www.soccersuck.com/soccer/viewto ... dca2346c92
ตอนที่ 2 ปารากวัย
http://www.soccersuck.com/soccer/viewto ... de199f6500
+++++++++++++++++++++++