"เจ้าหล่อนอยู่นั่น" สร้างความงุนงงกับฝ่ายตรงข้าม
2. อินเดียผ่านเข้ารอบคัดเลือกในฟุตบอลโลก 1950 แต่ต้องถอนตัวเนื่องจาก
นักเตะอินเดียไม่ยอมใส่รองเท้าเล่น
3. เวลส์ เป็นแชมปกลุ่มแอฟริกาและเอเชียในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกปี 1958
เพราะหลายทีมถอนตัวออก เนื่องจากไม่อยากแข่งกับอิสราเอล ฟีฟ่าจึงจับสลากแบ่งกลุ่มให้ทีมใหม่ต่างๆ เวลส์แข่งกับอิสราเอล และชนะได้เข้ารอบสุดท้าย
4. การยิงจุดโทษ เกิดขึ้นในปี 1978 เกมฟุตบอลโลกในกลุ่มแอฟริกา
ระหว่างโมร็อกโกกับตูนีเซีย
5. คนที่ครองแชมป์ถ้วยฟุตบอลโลกได้เกิน 4 ปี คือ
ดร. ออตโตรีโน บาราสซี่ รองประธานฟีฟ่า กลัวว่าถ้วยจูลส์ ริเมต์ อาจสูญหายในช่วงฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 ใน ค.ศ. 1939 เขาจึงนำไปเก็บไว้โดยซ่อนไว้ใต้เตียงนอน เมื่อสงครามสงบลงใน ค.ศ. 1945 จึงออกนำมาคืนให้ฟีฟ่า
6. ใน ค.ศ. 1934 โค้ช ทีมชาติ อิตาลี บอกลูกทีมว่า
จะให้ไปเป็นทหาร หากเล่นไม่ได้เรื่อง
ผลปรากฏว่า "อิตาลีเป็นแชมป์โลก" ในปีนั้น
7. เฟเรนซ์ ปุสกัส นักเตะผู้ยิ่งใหญ่ของทีมชาติ ฮังการี
สถิติที่สวยหรู 83 ประตู ใน 84 นัดกับทีมชาติ
เป็นนักเตะถนัดเท้าซ้าย ไม่เคยเล่นบอลด้วยเท้าขวา เพราะในอดีต
พ่อของเขาไม่มีเงินซื้อรองเท้าให้ 2 ข้าง จึงซื้อมาได้แต่ข้างขวา
เวลาเล่นเขาจึงไม่เคยใช้เท้าขวา เพราะกลัวว่ารองเท้าจะขาด
8. บราซิล คือชาติแรก ที่ชนะเลิศฟุตบอลโลกในแผ่นดิน ต่างทวีป
9. นักเตะบราซิลที่ได้เหรียญแชมป์โลกในปี ค.ศ. 1934 คือ แอนฟิโลจิโน กัวราซี่
เป็นไปได้ยังไงในปีนั้นบราซิลตกรอบแรก
เขาไปเล่นให้อิตาลี
10. เอ็ดสัน อารันเตส โด นาสซิเมนโต คือ ชื่อจริงของ เปเล่
11. เปเล่ ติดทีมชาติเมื่ออายุ 16 ปี
12. ตั๋วค่าชมฟุตบอลโลกครั้งแรก มีค่าแค่ 5 เพนนี
13. ผู้เจอถ้วยจูลส์ ริเมต์ที่หายไปในระหว่างการโชว์ที่นิทรรศการแสตมป์ในลอนดอน คือ สุนัข
ชื่อ "พิคเคิลส์" มันได้ร่วมฉลองแชมป์โลกกับทีมชาติอังกฤษ ใน ค.ศ. 1966 ด้วย
แต่น่าเศร่าที่ไม่นานมันก็ตาย เพราะ ปลอกคอของมันรัดจนหายใจไม่ออก
14. แจ๊คกี้ ชาร์ลตัน พี่ชายของบ๊อบบี้
ใช้มือปัดบอลไม่ให้เข้าประตูจนเสียจุดโทษ และโปรตุเกสได้ประตู ใน ค.ศ.1966
เขาไม่โดนแม้แต่ใบเหลือง ถ้าเป็นสมัยนี้เขาอาจถูกไล่ออกและไม่ได้เล่นนัดชิงชนะเลิศ
15. นัดที่อังกฤษเจอกับ เยอรมนีตะวันตก รองชิงชนะเลิศ
เป็นแมตช์ที่น่าจดจำที่สุด เมือ่ เจฟฟ์ เฮิร์ต ยิงชนคานและลูกตกลงพื้น ผู้ตัดสินให้เป็นประตู
เขาบอกว่า
"ที่ผมทำได้คือ มีแรงเท่าไหร่ ซัดให้เต็มที่ ยิงให้แรงที่สุดเท่าที่จะแรงได้
ถ้ามันข้ามคานออกไปนอกสนามก็ช่างมัน เพราะเวลาใกล้หมดแล้ว ระยะนั้นประมาณ 50 หลา
ห่างจากประตูที่เวมบลีย์ จะให้เตะออกไปถึงที่จอดรถก็ต้องทำเพื่อให้หมดเวลา"
16. เดนนิส ลอว์ นักเตะสกอตแลนด์ที่ไม่ชอบทีมชาติอังกฤษมาก
วันชิงชนะเลิศของทีมชาติอังกฤษเขาไม่ได้ชมเกม เพราะไปตีกอล์ฟ
มีคนบอกว่าอังกฤษชนะเขาพูดว่า
"นี่เป็นวันอันมืดมิดจริงๆ"
17. อลัน เชียเรอร์ ดาวยิงทีมชาติ อังกฤษ
เชื่อในสัญลักษณ์นำโชค คือ แม่ยายของเขานั่นเอง!!!
เพราะเธอไปดูเขาเล่นให้ทีมชาติอังกฤษเป็นนัดแรก เขาทำประตูได้
อี 4 นัด ต่อมาเธอไม่ได้ประตู ปรากฏว่าเขาทำประตูไม่ได้เลย
เมื่อเธอมาดูการแข่งขัน เขาจึงมักทำประตูได้
18. Goal !!!!!! (ประตู) เปเล่ตะโกนออกมาเมื่อโหม่งบอลออกจากศีรษะ
เขามั่นใจว่าต้องได้ประตูแน่ๆ แต่แล้ว
กอร์ดอน แบงคส์ ประตูทีมชาติอังกฤษกลับป้องกันได้เสียนี่
จากนั้นเลยมีสำนวนใหม่มาว่า "ปลอดภัยเหมือนกับแบงคส์ของอังกฤษ"
19. อิตาลีกับบราซิลเจอกันเมื่อทั้ง 2 ทีมกำลังแข่งกันเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 3
เพราะจะได้ถ้วยจูลส์ ลิเมต์ไปครอง ผล บราซิลชนะ
แต่ไม่ตลอดไป เขาครองถ้วยได้แค่ปี ค.ศ.1984 แล้วก็ไม่ได้เห็นเลย เนื่องจาก
ถ้วยถูกขโมยและนำไปหลอม ไม่มีถ้วยอันโด่งดังอีกแล้ว
20. บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน
เขาเป็นที่สนใจของแมวมองแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเห็นเขาระหว่างเล่นกับทีมโรงเรียน
และกลับมาเล่าให้แม็ตต์ บัสบี้ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดว่า
"เด็กคนนี้จะเป็นยอดนักเตะของโลก"
เมื่อยแล้ว...นั่งพิมเองเลยนะนี่
เฮ้อ...ไว้คราวหน้ามาลงใหม่
ใครรู้อะไรอีกบ้าง







</center>
</center>






</center>


