หรือ Bulllen Arenaใน Salzburg ออสเตรีย สนามนี้สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.2007 จุคนดูได้ 30,000 คน เป็นสนามหญ้าเทียม

======================================================================
สนามที่ 2 Tivoli stadium ใน Innsbruck ออสเตรีย
เป็นสนามเก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.2000 แต่มีความจุเพียง 17,400 ที่นั่ง จึงมาสร้างใหม่ ให้จุคนดูได้ถึง 30,000 คนและปรับปรุงเพิ่มส่วนบริการอื่นๆอีกหลายอย่างในปี ค.ศ.2006 เพื่อให้รองรับการแข่งขันฟุตบอล UEFA Euro 2008 ครั้งนี้

======================================================================
สนามที่ 3 สนาม St.Jacob Park ใน Basel สวิสเซอร์แลนด์
สนามนี้สร้างขึ้นใหม่ มีความจุมากถึง 42,500 คน (ที่นั่ง 33,200 คน ตั๋วยืน 9,000 คน) เพียบพร้อมด้วยส่วนบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จัดเป็นสนามระดับ 4 ดาวที่รับรองโดย UEFA นับเป็นสนามมาตรฐานแห่งแรกของสวิสเซอร์แลนด์ ใช้ทุนสร้างถึง 220 ล้านฟรังส์สวิส (ประมาณ 6,600 ล้านบาท) และเป็นต้นแบบของสนาม Hypo Arena ในออสเตรียอีกด้วย จะใช้เป็นสนามที่เปิดการแข่งขันระหว่างสวิสเซอร์แลนด์ เจ้าภาพ กับเยอรมัน ในวันที่ 7 มิถุนายน 2

======================================================================
สนามที่ 4 Letzigrund stadium ใน Zurich สวิสเซอร์แลนด์
สนามนี้เพิ่งสร้างเสร็จไปหมาดๆ เมื่อเดือนสิงหาคมปีนี้ นี่เองและจะใช้แข่งขัน ในวันที่ 9 , 13 และ 17 มิถุนายน ของทีมจาก 3 กลุ่ม สนามเดิมนั้น ใช้งานมาตั้งแต่ปีค.ศ.1925 และปรับปรุงมาเรื่อย จนมารื้อสร้างใหม่เพื่องานนี้ หมดงบประมาณไปประมาณ 3,480 ล้านบาท จุคนดูได้ 30,000 ที่ ตามมาตรฐาน แต่ไม่ได้ใช้เป็นสนามฟุตบอลเพียงอย่างเดียว ยังใช้แข่งขันกรีฑาอีกด้วย

======================================================================
สนามที่ 5 สนาม Stade de Geneva ใน Geneva สวิสเซอร์แลนด์
เป็นสนามกีฬาอเนกประสงค์ ใช้แข่งขันในวันที่ 7 , 11 และ 15 มิถุนายน ของทีมในกลุ่ม A สนามนี้สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.2003 จุคนดูได้ 30,000 คน นอกจากจะเป็นสนามกีฬาอเนกประสงค์แล้วยังมีศูนย์การค้า โรงแรม สำนักงาน ห้องส่งสถานีโทรทัศน์ และศูนย์วัฒนธรรม อีกด้วย

======================================================================
สนามที่ 6 Stade de Suisse arena ใน Berne สวิสเซอร์แลนด์
สนามแห่งนี้ ใช้เป็นสนามแข่งขัน ในวันที่ 9 , 13 และ 17 มิถุนายน เดิมเรียก Wankdorf stadium เคยใช้แข่งฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศเมื่อปีค.ศ.1954 มาแล้ว จึงไม่น่าสงสัยเลยว่าควรจะถึงเวลาทุบทิ้งสร้างใหม่ กลายเป็นสนาม Stade de Suisse เมื่อปีค.ศ. 2001 ด้วยงบประมาณการก่อสร้างที่สูงถึง 17,500 ล้านบาท เปิดใช้เป็นทางการเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2005 มีความจุ 32,000 ที่นั่ง และยังประกอบด้วยศูนย์การค้า โรงเรียน สำนักงาน และอพาร์ทเมนท์

======================================================================
สนามที่ 7 Hypo Arena ใน Klagenfurt ออสเตรีย
สนามนี้ใช้แข่งขัน ในวันที่ 8 , 12 และ 16 มิถุนายน เป็นสนามเก่าที่สร้างตั้งแต่ปีค.ศ.1960 แต่มีความจุเพียง 10,900 ที่นั่ง ได้สร้างใหม่เพื่อให้เป็นสนามแข่งขันฟุตบอล Euro 2008 โดยใช้แบบแปลนของ St. Jakob-Park Stadium ของสวิสฯ แต่การออกแบบส่วนอาคารและหลังคาจะทันสมัย และสวยกว่ามากจึงแพงกว่ามากด้วย ใช้งบประมาณไปทั้งสิ้น 3,325 ล้านบาท มีความจุถึง 32,000 ที่นั่ง และยังประกอบไปด้วยศูนย์การค้า โรงแรมและสำนักงานอีกด้วย เปิดประเดิมใช้งานไปเมื่อเดือนกันยายนนี้ โดยแข่งฟุตบอลกระชับมิตร ระหว่างออสเตรียและญี่ปุ่น ท่ามกลางคนดูกว่า 26,500 คน

======================================================================
สนามที่ 8 Ernst Happel Stadium ในเวียนนา ออสเตรีย
สนามนี้ตั้งอยู่ในกรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย ได้ขยายความจุของสนามให้รองรับการแข่งขัน นัดชิงชนะเลิศของ Euro 2008 ครั้งนี้ ด้วยความจุ 50,000 ที่นั่ง และปรับปรุงให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อมจนได้มาตรฐาน 5 ดาวจาก EUFA เป็นศูนย์กีฬาอเนกประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรีย ประกอบด้วยสนามแข่งขันอื่นๆอีกเช่น จักรยาน กรีฑา เทนนิส ชกมวย ว่ายน้ำ นอกจากนี้ยังเคยใช้จัดแสดงคอนเสริทใหญ่ๆมามากมาย เช่น Pink Floyd และ the Rolling Stones สนามนี้ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่นักฟุตบอลดังของออสเตรีย คือ Ernst Happel ที่ตายด้วยโรคมะเร็งเมื่อปีค.ศ.1992

======================================================================