ศึกเวิลด์ คัพ ปี 1974 ประเทศเยอรมันตะวันตก (ในขณะนั้น) รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ มีการรักษาความปลอดภัยกันอย่างเข้มงวดกว่าที่เคย เนื่องจากเกิดเหตุสลดใจ เมื่อมีนักกรีฑายิว 11 รายถูกผู้ก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์ฆ่าตายในระหว่างการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ เมื่อ 2 ปีก่อน
เกมเปิดสนามมีขึ้นที่สังเวียนแข้ง วัลด์ สเตเดี้ยม ในเมืองแฟร้งค์เฟิร์ต โดย บราซิล ทำได้เพียงแค่เสมอกับทัพลูกหนังยูโกสลาเวีย ไปแบบไร้สกอร์ ขณะเดียวกัน เกมที่แฟนบอลทั่วโลกต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอย ก็คือ การปะทะกันครั้งแรกระหว่างเยอรมันตะวันตก กับ "เดเดแอร์" หรือ เยอรมันตะวันออก ในรอบแรก กลุ่ม 1 ที่สนาม โฟล์ค ปาร์ค สเตเดี้ยม ของ ฮัมบูร์ก (ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น เอโอแอล อารีน่า) ท่ามกลางแฟนบอลแน่นขนัดกว่า 60,200 คน นั้น เกมจบลงด้วยชัยชนะของทีมชาติเยอรมันตะวันออก จากการยิงประตูโทนของ เจอร์เก้น สปาร์วาสเซอร์ ก่อนหมดเวลาเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ทีมต่างก็กอดคอผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 2 ได้สำเร็จ
ขณะที่ทีมที่อันตรายที่สุดในทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้ก็คือ "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ ที่เพิ่งมีโอกาสผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งทีม "ฟลายอิ้ง ดัตช์แมน" ในยุคนั้นเต็มไปด้วยขุนพลฝีเท้าเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น"นักเตะเทวดา" โยฮัน ครัฟฟ์ ที่เป็นหัวใจคอยบัญชาเกมในแดนกลางได้อย่างอัศจรรย์พันลึก นอกจากนั้น ยังมีนักเตะที่โชว์ฟอร์มระดับโลกหลายคนอาทิเช่น โยฮัน นีสเก้นส์, วิม ฟาน ฮาเนเก้น, รุด ครอลล์, จอห์นนี่ เร็ป และร็อบ เรนเซ่นบริ๊งค์ โดยมี "ท่านนายพล" ไรนุส มิเชลส์ เป็นกุนซือคอยบงการเกมอยู่ข้างสนาม
ฮอลแลนด์ จับติ้วมาอยู่กลุ่ม 3 ร่วมกับ สวีเดน, บัลแกเรีย และอุรุกวัย ซึ่งก็ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับพวกเขาแต่อย่างใด เมื่อเก็บชัยชนะเป็นที่ 1 ของกลุ่ม ส่วนในรอบ 2 นักเตะดัตช์ เปลี่ยนเพื่อนร่วมกลุ่มมาเป็น อาร์เจนตินา, บราซิล และเยอรมันตะวันออก แต่ก็ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างสะเด่า ด้วยการเก็บชัยชนะรวดทั้ง 3 นัด ร่ายเพลงเตะฟุตบอลในสไตล์ที่เรียกว่า "โททั่ล ฟุตบอล" คือนักเตะทุกตำแหน่งสามารถเล่นทดแทนกันได้ทุกคน พร้อมกับเข้าไปรอชิงชนะเลิศอย่างองอาจ โดยในรอบชิงชนะเลิศ อัศวินสีส้ม เจอศึกหนักพบ "เจ้าภาพ" เยอรมันตะวันตก หลังจากทัพ "อินทรีเหล็ก" เฉือนเอาชนะทีมชาติโปแลนด์ ในนัดตัดเชือกไปได้ชนิดเสียวหัวใจคนทั้งประเทศ 1-0
รอบชิงชนะเลิศ มีขึ้นที่สนาม โอลิมปิก สเตเดี้ยม เมืองมิวนิค วันที่ 7 กรกฎาคม 1974 ท่ามกลางผู้ชมเข้ามาเป็นสักขีพยานกว่า 77,833 คน ทัพลูกหนัง "อินทรีเหล็ก" มี ฟร้านซ์ เบ๊คเค่นเบาเออร์ เดินนำลูกทีมออกสู่สนามด้วยเสื้อสีขาว กางเกงดำ และถุงเท้าขาว ขณะที่แข้ง "ดัตช์แมน" อยู่ในชุดเก่งเสื้อสี้ส้ม กางเกงขาว ถุงเท้าส้ม
เริ่มเกมไปได้เพียงแค่ไม่ถึงนาที สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นหลังจากที่ ฮอลแลนด์ เป็นฝ่ายเริ่มเขี่ยบอลก่อนก็บุกตะลุยเข้าไปในเขตโทษทันทีกระทั่ง ครัฟฟ์ ถูก อูลี่ เฮอเนส เสียบคว่ำลงในเขตโทษ แจ๊ค เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินชาวอังกฤษ ไม่รีรอเป่านกหวีดให้เป็นลูกจุดโทษทันที และเป็น โยฮัน นีสเก้นส์ ที่บรรจงยิงเล่นทางหลอก เซปป์ ไมเออร์ นายทวารเมืองเบียร์ ให้หลงทาง ทำให้ ฮอลแลนด์ ออกนำไปก่อน 1-0 ทั้งๆ ที่นักเตะเยอรมันตะวันตกยังไม่ได้สัมผัสบอลเลยสักคนด้วยซ้ำ นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่มีการยิงจุดโทษเกิดขึ้นในศึกเวิลด์ คัพ รอบชิงชนะเลิศอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แฟนบอลชาวด๊อยท์ซ ก็ได้เฮกันบ้าง เมื่อเยอรมันตะวันตกเป็นฝ่ายได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ วิลเล่ม แจนเซ่น ไปเกี่ยว แบร์น โฮลเซ่นบายน์ ล้มลงในเขตโทษ และก็เป็น พอล ไบร์ทเนอร์ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปอย่างเลือดเย็นให้ทัพเมืองเบียร์ ตามตีเสมอเป็น 1-1 ก่อนที่การตัดสินแชมป์จะมาเกิดขึ้นในช่วงก่อนหมดเวลาครึ่งแรกเพียงแค่ 2 นาที เมื่อ "ไอ้ลูกดินระเบิด" เกิร์ด มุลเลอร์ ได้บอลจาก ไรเนอร์ บอนโฮฟ เอี้ยวตัว 180 องศา ซัดบอลเข้าไปกองในก้นตาข่ายอย่างงดงาม ช่วยให้ เยอรมัน พลิกขึ้นมานำ 2-1 จนกระทั่งหมดครึ่งแรก

ครึ่งหลัง ฮอลแลนด์ โหมบุกเป็นพายุบุแคม หมายตีเสมอให้สำเร็จ แต่แนวรับ "อินทรีเหล็ก" ที่มี ฟร้านซ์ เบ๊คเค่นเบาเออร์ คอยบัญชาการเกมอยู่นั้น ทำให้ขุนพลดัตช์ หมดโอกาสเจาะตาข่ายตีเสมอไปโดยปริยาย ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดยาวหมดเวลาการแข่งขัน ส่งผลให้เยอรมันตะวันตก ประกาศศักดากลายเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ หลังจากที่เคยได้แชมป์มาก่อนหน้านี้เมื่อปี 1954
เอาละคับ ที่นี้ก้อมา ถึง แทคติค ที่จะให้เพื่อนๆได้ ทดลองกันซะที


ผลงาน


รูปแบบระบบ ขึ้นสุด ลงสุด แบบ รด. เลย อิอิ
บทสรุป ที่ควรอ่าน
คุณจะได้อะไรจาก แทคติกนี้ : คุณจะได้ความสะใจในเกมส์บุก การเคลือนที่สลับต่ำแหน่ง และคุณก้อต้องเสียเกมส์รับ ที่เหนียวแน่นไปแน่นอน
แล้วแทคติกนี้เหมาะกับทีมแบบไหน : แน่นอน ต้องทีมใหญ่ นักเตะที่ดี เพราะลอกแบบมาจาก ฮอนแลนด์ ในปี 1974 (ย้ำฮอนแลนด์นะไม่ใช่ อันดอร่า^^) กองหลังชั้นดี สิ่งที่ต้องการจากกองหลัง คือ ความไว แข็งแกร่ง คาดเดาเหตุกราณ์ และ ทางบอล เล่นลูกกลางอากาศ ดี สรุป กองหลังชั้นดีนั่นเอง
แล้วทำไมไม่ปรับให้กองหลังแน่นๆละ ? : ก้อเพราะต้องการความเหมือนต้นแบบมากที่สุด คือ บุกทั้งทีม กองหลังดันสูง
total_football_holland_1974
ต้องขอขอบคุณ คุณ POR_POR +10 ผู้ศึกษา ระบบการเล่นดีๆ แบบนี้