<center>


ข่าวแรกวันนี้ขอไปที่วงการ i Pod กันซักกะหน่อย
หลังจากที่มีข่าวแว่วออกมาว่า Apple i Pod nano จะมีการเพิ่มฟังชั่นกล้องออกมา ซึ่งในวันมหามงคล 9 9 9 ที่ผ่านมา Apple ก็ได้เปิดตัว i Pod nano รุ่นล่าสุดออกมาสู่สายตาประชาชี โดยการเพิ่มฟังชั่นกล้องดิจิตอล การถ่ายวีดีโอ และวิทยุเอฟเอ็ม ซึ่งก็มีราคาตามความจุดังนี้
รุ่นความจุ 8 GB ราคาประมาณ 149 ดอลล่า เป็นเงินไทยก็ตก 5066 บาท
รุ่นความจุ 16 GB ราคาประมาณ 179 ดอลล่า เป็นเงินไทยก็ตก 6086 บาท
และรุ่นความจุ 64 GB ราคาประมาณ 399 ดอลล่า เป็นเงินไทยตก 13566 บาท

สาวก i Pod เตรียมควักกระเป๋าตังค์กันไว้ให้ดีเลยจ้า ส่วนไอ้กระผ๊มก็ ขอใช้แค่ N 72 ดูหนัง ฟังเพลงแทน i Pod ก็พอแล้ว
ที่มา : Pantip
<center>---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------</center>
<center>

ข่าวนี้พลาดไม่ได้สำหรับไอ้จอสกับนังซาร่าทั้งหลาย
ท่านกำลังประสบปัญหาอย่างนี้หรือไม่ เอาโนตบุคไปใช้กลางป่ากลางเขา หรือ เล่น PC ในที่มืด หรือ บ้านท่านอาจไม่ได้ติดมุ้งลวด หรือไม่ว่าท่านจะแอบพ่อแม่เล่นคอมโดยไม่เปิดไฟ(กลัวความแตก) ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปในเมื่อมันมี (USB Ultrasonic Sonic Mosquito Pest Repeller) เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ต่อจากไม้ไล่ยุง ไม้ไล่หนู เทียนหอมกันยุงทั้งหลายแหล่ แต่ช้าก่อน เมื่อท่านใช้เจ้า USB ไล่ยุงนี้ปัญหา กลิ่นฉุน หรือควันรบกวนจะหมดไป เพราะมันเป็นการส่งคลื่นความถี่อัลตร้าโซนิคออกมา ซึ่งว่ากันว่าเป็นคลื่นความถี่ที่มนุษย์เราไม่ได้ยินและไม่เป็นอันตราย หรืออีกเสียงนึงบอกว่ามันเป็นคลื่นความถี่ที่ทำให้ยุงรู้สึกกระพือปีกไม่ขึ้น

ซึ่งสำหรับท่านที่สนใจเจ้า USB ไล่ยุงดังกล่าว ก็มีราคาค่างวดที่ไม่แพงเลย(หากมันใช้งานได้ดังว่า) ราคาเป็นเงินไทยอยู่ที่ 200 บาทเท่านั้นเองครับ รายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.uxsight.com/product/2795/usb ... white.html นะครับ
ที่มา : computer today
<center>---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------</center>
<center>

ต่อกันที่ Sony บริษัท เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับคนยุคดิจิตอล วางแผนในการจำหน่ายทีวี 3D ในปี 2010
นับว่าเป็นอีกก้าวของการรับชมสื่อทางโทรโทรทัศน์ ซึ่งต้องบอกว่าก้าวเข้าสู่ยุคของ 3D แบบเต็มตัวสำหรับโลกเราในปี 2010 นี้ เพราะที่ผ่านมา ตลาดของการแสดงผลแบบ 3D กำลังได้รับความนิยมในทุกแขนง ทำให้ระบบการแสดงภาพซึ่งให้อรรถรสแค่ 2D กลายเป็นอดีตไป
แต่วันนี้มันคุงคามเรามาถึงในบ้านและในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นครับ ซึ่งผมก็ยังไม่ทราบว่ามันมีความเป็นมิติที่ลึกล้ำกว่าการใช้แว่น 3D ช่วยมากน้อยเพียงใด แต่อย่างน้อยในเมื่อมันเป็นโทรทัศน์สี 3D ก็ย่อมให้ภาพทุกภาพออกมาเป็น 3D ในเบื้องต้นแน่นอน
ส่วนราคานั้นทาง Sony เขาขออุบไว้ก่อนแต่ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายคาดการณ์กันว่าราคาตีเป็นเงินไทยในช่วงแรกๆนั้นจะตกอยู่ที่หลักแสนขึ้นไป ซึ่งไม่ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญบอกผมก็จะบอกอยู่แล้วว่า มันไม่ต่ำกว่าแสนแน่ๆครับ เอ้าใครมีหมากกะตังก็เตรียมตัวซื้อเป็นของขวัญให้พ่อให้แม่หรือให้คนที่คุณรักในโอกาสพิเศษกันได้เลย
ที่มา : computer today
<center>---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------</center>
<center>

Nokia อยู่ไม่ไหวงัดไม้เด็ด ชูทัชโฟนราคาต่ำกว่าหลักหมื่นสู้มือถือราคาถูกจากแดนกิมจิ
ต้องบอกว่าตลาดมือถือแบบ ทัชโฟน เติบโตเร็วมากๆในปีที่แล้ว คือกว่า 300% ทีเดียว ซึ่งก็แน่นอนว่าเป็นมูลค่าทางตลาดที่มหาศาลทีเดียว ครั้น Nokia ยักษ์ใหญ่มือถือของโลกจากฟินแลนด์ จะอยู่เฉยนั่งกินนอนกินกับชื่อเสียงเก่าๆด้วยราคาที่แพง(แต่คุ้ม)เหมือนเดิมคงจะไม่ได้การ
ว่าแล้วทาง Nokia ก็กระโดดลงสู้ราคาในตลาด ทัชโฟน อย่างจริงๆจัง โดยการส่งมือถือรุ่น 5530 ลงชิมลางในตลาด ทั้ชโฟน เป็นรุ่นแรก ซึ่งราคานั้นจะต่ำกว่าหลักหมื่นบาทแต่ไม่ทราบว่าจะต่ำแค่ไหน ซึ่งผมก็ลงไปลุยในตลาดมือถือ(ราคาบนอินเตอร์เน็ตนะครับ) ก็ได้ความว่าราคาเปิดตัวนั้นอยู่ที่ 9500 บาท แต่ราคาตามตลาดจริงคาดว่าน่าจะประมาณ 9150 - 9400
แต่ทางด้าน ซัมซุง ก็ออกมาตอบโต้ทันควันด้วยการส่ง Samsung Candy ซึ่งเป็น ทัชโฟน เช่นกัน โดยราคาจะต่ำกว่า 6 พันบาท โอ้พระเจ้าจอสมันยอดมาก
ในขณะที่อีกฝาก LG ก็มีรุ่น Cookie สนนราคาอยู่ที่ 7000 และ GT 505 ซึ่งมีราคา 8900 บาทเอาไว้ทำสงครามกับ 2 ค่ายข้างต้นเช่นกัน
พระเจ้าช่วย ตลาดทัชโฟนนับวันยิ่งจะดุเดือดขึ้นทุกวันครับ แข่งกันพัฒนาแข่งกันลดราคา ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อผู้บริโภคอย่างเราๆยิ่งนัก แต่ขอเถิดว่าอย่าปรับคุณภาพลดลงตามราคาและบริการหลังการขายให้ยอดเยี่ยมเหมือนบริการก่อนการขาย
ที่มา : หนังสือพิมประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ที่มาของข่าวทั้งหลายผมขอให้เครดิตกับแหล่งที่มาที่จุดประกายให้ผมนะครับ เนื่องจากจริงๆแล้วกว่าจะออกมาเป็นรูปแบบข่าวของผมให้ทุกท่านได้อ่าน ผมทำการหาข้อมูล และรายละเอียดจากหลายๆที่บวกกับความคิดเห็นและประสบการณ์ของผมลงไปบ้างเล็กน้อย จะไปบอกทั้งหมดก็ไม่ไหวครับผมจำไม่ได้ว่าเจอที่ไหนบ้าง
<center>---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------</center>
สำหรับวันนี้คงพอแค่นี้ก่อนดีกว่า เด๋วท่านผู้อ่านจะขี้เกียจกันซะเปล่าๆ ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านครับ และขอบคุณทุกกำลังใจและคำติชมครับ อย่าลืมนะครับ ใครมีความรู้ความสนใจอะไรนำมาแบ่งปันพี่น้อง RAFC ของเราเพื่อสร้างสังคมน้อยๆของเราให้แข็งแกร่งเหนียวแน่นครับ
