
วันนี้ผีน้อยจะมาอัพเดตข่าวคราวแนวใหม่ ที่ว่าใหม่นี้เพราะผมเองไม่ค่อยจะพูดถึงมือถือซักเท่าไหร่นั่นเองครับส่วนมากจะไปขลุกอยู่กับคอมพิวเตอร์ซะมากกว่า แต่ช่วงหลังๆมานี่คอมมันเริ่มนิ่งๆเลยมีเวลาหันไปสนใจมือถือกันซักหน่อย แต่ที่เราจะมาเน้นกันในวันนี้ผมจะเน้นไปที่ OS ของมือถือนะครับ
<center>

อย่างที่หลายๆท่านคงจะทราบกันดีว่าเดิมทีนั้นยักษ์ใหญ่ของมือถือแบบ Smartphone นั้นจะโดนครอบครองอยู่ด้วย OS 2 เจ้านั่นคือ Symbian และ IOs ของไอโฟนนั่นเอง แต่ความน่าสนใจที่เราจะมาพูดถึงนั้นมันไม่ได้อยู่ตรง 2 เจ้านี้ซักเท่าไหร่ครับ แต่เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องของปัจจุบันและอนาคตของ OS มือถือคลื่นลูกใหม่ซะมากกว่า
ซึ่งตอนนี้ก็มีอยู่ 2 ระลอกด้วยกันคือ RIM ของแบล็คเบอร์รี่นั่นเอง และอีกตัวนึงคือ Android ในส่วนของ RIM นั้นแย่งครอบครองเป็น OS ที่ขายดีที่สุดในอเมริกาไปจาก Symbian เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ แต่ส่วนอื่นๆทั่วโลกแล้วนั้น Symbian นั้นยังคงครองความเป็นอันดับ 1 ได้อยู่(แต่จะได้นานซักเท่าไหร่นะ)
ซึ่งต่อไปนี้เป็นความคิดและความเห็นของผมซะ 90% นะครับโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน แต่เขียนขึ้นโดยพื้นฐานของความเป็นกลางเช่นเคย อ้อ ! ขอบอกก่อนนะครับมุมมองของผมนั้นมันมาจากผู้ใช้งานหาใช่ผู้เชี่ยวชาญไม่ฉะนั้นหากมีอะไรที่มันแสลงหูแสลงตาต่อผู้ใดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะเออ
<center>

Symbian OS ที่ป่วยระยะสุดท้าย
..................ทำไมผมว่ามันป่วยระยะสุดท้าย ก็เพราะว่าโนเกียนั้นเคยเป็นเจ้าแห่งมือถือของโลกมาช้านานด้วยยอดขายเป็นอันดับหนึ่งในทั่วทุกภูิมิภาค แต่มาปี 2010 และ 2011 นี้ถ้าเรียกแบบบ้านๆก็พอจะพูดได้ว่าโนเกียนั้นเสียหะมาพอสมควรครับ เพราะส่วนแบ่งของตลาดนั้นโนเกียเสียหายให้ซัมซุงและค่ายอื่นๆไปอยู่มากโขครับ นั่นก็เพราะ Android OS น้องใหม่ไฟแรงนั่นเอง แต่เรายังไม่พูดถึงมันกันตอนนี้ดีกว่า
................. ซึ่งหากมีใครที่ติดตามข่าวสารของโทรศัพท์มือถืออยู่บ้างคงพอจะทราบดีว่าโนเกียที่ขายในบ้านเรานั้นผลิตที่จีนครับ ณ ปัจจุบันนะเพื่อลดต้นทุนในภูมิภาคเรา ซึ่งก็แน่นอนไม่เว้นแม้แต่โนเกียที่ทำให้เสียชื่อเสียงเพราะการต้นการเพิ่มกำไรนี่ล่ะครับ ถามว่าผลิตที่จีนแล้วขายให้ชาวบ้านตาดำๆอย่างเราถูกลงไหม คำตอบคือไม่เลยแม้แต่นิดเดียวครับแต่มันเป็นเพียงการกอบโกยได้มากมายขึ้นก็เท่านั้น ด้วยความคิดที่ว่าแบรนด์ข้าเนี่ยเจ๋ง
..................ผมไม่ได้ให้ร้ายโนเกียนะครับลองไปเซิจหาข้อมูลดูได้ครับว่าโนเกียรุ่นหลังๆเป็นอย่างไรกันบ้าง จากที่เคยน่าเชื่อถือในคุณภาพเรายอมจ่ายแพงกว่า แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เช่นนั้นแล้ว รุ่นที่ทำมาเพื่อจะตีตลาด เช่น N97 X6 ฯลฯ ก็ล้วนแต่มีงานประกอบและคุณภาพที่ต่ำลงอย่างเห็นได้ชัดทั้งนั้น ซึ่งทางผู้บริหารของโนเกียเองก็ยังออกมายอมรับว่า N97 นั้นเป็นรุ่นที่โนเกียผลิตออกมาได้ห่วยแต่ทำยอดได้ทะลุเป้าหมาย เอ้าอะไรฟะเนี่ย


..................แต่เอ้ ทำไมผมว่า Symbian มันเป็น OS ที่กำลังจะตายล่ะ นั่นก็เพราะมือถือแบรนด์ดังๆนั้นเริ่มทิ้ง Symbian ไปคบกับ Android ที่อนาคตสดใสกว่ากันเกือบหมดแล้วนั่นเอง โดยแบรนด์อันดับ 2 อย่างเจ๊ซุงนั้นประกาศอย่างเป็นทางการเลยว่าจะหยุดพัฒนาโทรศัพท์ของตนที่ใช้ระบบ Symbian ทั้งหมดเมื่อปลายปี 2010 นี่เอง รวมถึงอีกหลายๆแบรนด์ที่กำลังจะตามไป HTC เองก็หันไปทาง Android หมดแล้ว ส่วน Sonyฯ นั้นผมก็ยังไม่เห็นรุ่นที่เป็น Symbian ออกมาเลยตัวสุดท้ายนี่คงเป็น Vivaz ถ้าผมจำไม่ผิดนะ(เพราะไม่ค่อยสนใจมือถือค่ายนี้)
................. อะไรที่ทำให้บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่นั้นหันไปคบกับ Android กันล่ะเนี่ยนั่นก็เพราะว่า Symbian นั้นหยุดนิ่งมาอยู่พักนึงแล้วนั่นเองครับไม่มีการพัฒนาที่ชัดเจน ถึงจะมีการเปลี่ยนเวอร์ชั่นแต่โดยเนื้อหาแล้วเหมือนการแกะปกแล้วเอามาขายใหม่มากกว่า อีกทั้งในโลกยุคปัจจุบันที่มือถือแบบทัชโฟนเข้ามาแอบอิงชิดใกล้กับผู้ใช้โทรศัพท์มากขึ้นๆเรื่อยๆ ต้องบอกว่า Symbian นั้นทำมือถือทัชโฟนออกมาแล้วไม่ค่อยน่่ารื่นรมย์เท่าไหร่นั่นเอง ด้วยข้อจำกัดหลายๆด้ายของ OS มันเอง รวมถึงผู้เีขียนแอพพริเคชั่นต่างๆก็ทยอยไปหาทางที่มันสดใสกว่าอย่าง IOS กันหมด ถามว่า Symbian นั้นยังคงน่าใช้งานอยู่ไหม สำหรับผมตอบว่ามันยังคงใช้ได้ล่ะ เพราะแอพพริเคชั่นนั้นยังมีให้ใช้อยู่ รวมถึงสิ่งใหม่ๆที่ทาง Nokia พยามใส่มาล่อเรา ไม่ว่าจะเป็นกล้อง Ovi ฯลฯ แต่ก็นั่นแหละครับ Symbian นั้นจะไม่มีทางสดใสหรือกลับมารุ่งเรืองตลอดจนน่าใช้มากไปกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่นอน (สำหรับผมนะ)
<center>

IOS หรูไฮโซ แต่เหมาะกับเราจริงหรือ
................. ณ ปัจจุบันนี้คงปฏิเสธไม่ได้ครับว่า Apple Iphone นั้นเป็นชื่อที่ไม่มีใครไม่รู้จักในวงการมือถือ(ขนาดเด็กประถมบ้านนอกยังรู้จัก) แต่จะมีซักกี่คนล่ะที่รู้จักและเข้าใจถึงข้อดีและข้อเสียของมัน แน่นอนครับผมไม่ได้บอกว่า Iphone นั้นไม่ดี มันดีแน่ๆด้วยมาตรฐานคุณภาพของงาน แต่มันก็ต้องแลกกับราคาที่แพงระยำ เอ๊ย ระยับครับ
..................อีกทั้งสำหรับผมแล้วการใช้ไอโฟนทำให้ชีวิตผมค่อนข้างจะยุ่งยากมากขึ้น ไล่ไปตั้งแต่การลงเพลง แปลงไฟล์ การซิงค์ข้อมูล ตลอดจนการเชื่อมต่อต่างๆมากมายที่ค่อนข้างโดนจำกัดให้อยู่แต่กับของเค้า จะด้วยข้ออ้างทางเทคนิคเรื่องความปลอดภัย หรือคุณภาพอะไรก็แล้วแต่ แต่สำหรับผมมันไม่ใช่อ่ะครับ เทคโนโลยีมันต้องทำให้ชีวิตเราสะดวกขึ้นง่ายขึ้น ปรับแต่งให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า Iphone มันห่วยนะครับอย่าเข้าใจผิด เพียงแต่บอกว่ามันไม่เข้ากับผม (ผมมันอาจจะบ้านนอกก็ได้) เด๋วสาวกจะหาว่าผมให้ร้ายผลไม้อันเป็นที่รักซะเปล่าๆ
................ ถ้าจะมีสิ่งไหนที่ทำให้ผมไม่ชอบ Iphone นั่นก็คงจะเป็นผู้บริหารและผู้ใช้ตลอดจนการดำเนินกลยุทธทางตลาดมากกว่า เอาง่ายๆว่าศาสดาจ๊อบนั้นเคยออกมาบอกว่าผู้ใช้ไอโฟนนั้นถือไอโฟนผิดวิธีทำให้คลื่นโทรศัพท์มันหดหายไป แต่ไม่โทษตัวเอง ขอโทษเถอะถ้าผมจะโหนรถเมล์โทรศัพท์นี่ผิดใช่ไหมก็จะถือแบบเนี้ย หรือเพราะท่านเล็งเห็นและเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยพวกกระผมขนาดนั้น เอาล่ะพอเป็นน้ำจิ้มสำหรับศาสดา
............... ต่อมาประเด็นของผู้ใช้นี่แหละที่ทำให้ผมหงุดหงิดที่สุด โอเคคนมีเงิน มีอันจะำกินมีกำลังทรัพย์ คุณจะถือจะซื้อกี่เครื่องจะใช้เป็นไม่เป็นเต็มไม่เต็มประสิทธิภาพกับราคาแพงแสนแพงนั้นผมไม่สน เพราะนั่นเงินพวกคุณคุณหามาได้เยอะก็ย่อมใช้ได้เพื่อหาความสุขและความหรูหราใส่ตัว ไม่ว่าจะใช้ด้วยความชอบ ตามกระแส ฯลฯ ก็ตามสบายผมเฉยๆกับมัน
............... แต่ไอ้ที่ผมไม่ชอบเนี่ยก็คือการสร้างกระแสสังคมกับค่านิยมที่ผิดๆให้กับคนไทยครับ ในวงการมหาลัย ใครไม่ใช้ไอโฟน อร๊ายยเชย อย่าได้มาขอเบอร์ช้านนนน แอะบ้านนอก ฯลฯ ทำให้เกิดปัญหานักศึกษาต้องไปทำงานผิดกฎหมายต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึง Iphone 1 เครื่อง โอ้วพระเจ้ามันเพื่ออะไรกัน ใช้ยังไม่เป็นเลยแต่กุจะเอา หรือพวกที่ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน เก็บหอมรอมริบเพื่อซื้อไอโฟนแต่ไม่มีเงินเก็บเพื่ออนาคตของตัวเอง หรือยอมเป็นหนี้เพื่อให้ได้มาซึ่งมือถือเครื่องนึง แต่นี่ก็ยังไม่พีคที่สุดครับ เพราะพวกคุณบรรลุนิติภาวะแล้วผมก็แค่ตะหงิดๆ จะเอาเงินจะลำบากอะไรแค่ไหนเพื่อให้ได้มาผมยังพอรับได้ แต่ถึงขั้นต้องไปทำงานผิดกฎหมายเพื่อให้ได้มานี่ผมว่ามันทุเรศ อย่าให้เจาะจงเลยว่างานไรบ้าง

.............. สุดท้ายที่มันสุดจะทนคือ ทำไมผู้ใช้แต่ล่ะคนต้องคิดว่ามัน(ไอโฟน)คือพระเจ้าใครไม่มี กากว่า จนว่ะ บ้านนอกว่ะ สำหรับผู้ที่ไม่คิดแบบนั้นก็เฉยๆไว้ครับ เพราะคุณก็คงทราบดีว่าที่ผมพูดถึงนี้มันเป็นความคิดของคนส่วนใหญ่ที่ใช้ไอโฟน จะมีมากหรือน้อยแค่นั้นล่ะ แล้วมันยังไงเหรอครับ มันส่งผ่านไปถึงเยาวชนน่ะสิครับ กลายเป็นค่านิยมที่ทำให้เด็กๆอยากได้ ไอโฟน แบล็คเบอร์รี่ ทั้งๆที่ตัวเองหาเงินยังไม่ได้ เอามาก็ใช้ไม่เป็นได้แค่โทรออกกับอวดเพื่อน แม้แต่เด็กโรงเรียนบ้านนอกที่ผมสอนอยู่เนี่ยก็ยังรู้จักและอยากได้ อย่าลืมนะครับโลกปัจจุบันมันไร้พรมแดนเด็กสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ง่ายมาก ถึงบรรทัดนี้หลายคนอาจจะคิด เฮ้ย เมิงสร้างภาพนี่หว่า ถ้าผมสร้างภาพผมไม่ไปสอนเด็กฟรีๆแบบไม่เอาเงินเดือนหรอกครับ และถึงแม้จะจ้างให้ผมสอนเอกชนแพงๆ ผมก็ไม่เอาผมรักเด็กบ้านนอกผมภูิมิใจที่เป็นคนบ้านนอก และผมอยากให้เด็กๆของผมเติบโตด้วยความเป็นอยู่เดิมๆ โตมาเค้าจะได้เป็นคนเต็มคนไม่ใช่อ่อนไหวไปกับกระแสเฮงซวยของสังคมสมัยนี้
จบเรืองไอโฟนกันดีกว่า ผมก็ยังย้ำอยู่ดีครับว่า Iphone นั้นไม่ผิดอะไรเลยมันจะแพงจะหรูจะดีไม่ดียังไงอยู่ที่คนเลือกใช้ แต่ผู้ใช้นั่นแหละครับที่ไปสร้างบรรทัดฐานให้มันเอง ผมไม่เคยโทษที่ัตัวมือถือเลยจริงๆ
อ้อลืมบอกไปครับว่า iphone นั้นเป็นมือถือที่เป็น OS ปิด คืออะไรคือเค้าจะทำขายเองผลิตเองแต่เพียงผู้เดียว เราจะไม่เห็นไอโฟนในเวอร์ชั่นของ Samsung หรือ HTC บลาๆๆ แน่นอน ฮิฮิ นั่นคือข้อดีครับเพราะเค้าควบคุมการผลิตและมาตรฐานของตัวเองได้ แต่ข้อเสียที่ตามมาก็คือมันมีดีไซน์ให้เลือกเพียงแค่แบบเดียว
แอพที่ได้มันก็จะมีคุณภาพครับ เพราะเขียนให้มือถือแค่รุ่นเดียว แถมนักเลงแอพก็หันไปลงทุนกับแอพเปิลแน่นอน เพราะละเมิดลิขสิทธิได้ยาก(นิดนึง) และด้วยระบบแอพสโตร์ทำให้นักเลงแอพมั่นใจหันไปเขียนแอพมาขายกันมากมายนั่นเองครับ ส่วนคุณภาพของ OS และงานประกอบนั้นไม่ต้องพูดถึงของเค้าดีจริง จะมีก็แต่เพียงเรื่องที่ผมบอกไปซึ่งจะไม่ย้ำอีก โอเคนะ ผมไม่ได้เกลียดมือถือ Iphone มันไม่เคยด่าแม่ผม หรือยืมเงินผมแล้วไม่คืน แต่ผมแค่ไม่ชอบคนบางกลุ่มที่ใช้มันก็เท่านั้น
<center>

Andriod คลื่นลูกใหม่ที่น่าสนใจ
............... ต้องบอกก่อนว่าตัวผมเองนั้นใช้แอนดรอยด์อยู่นะครับแต่ไม่ใช่จะมาเขียนเชียร์เขียนอวยให้ทุกท่านหันมาใช้แอนดรอยด์แต่อย่างใด ผมไม่คิดหรอกว่าใช้แอนดรอยด์มันเท่ห์กว่าดีกว่า คนไม่ใช้แล้วโง่ เชย บลาๆๆ แต่มันเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผมครับ เอาล่้ะเรามาทำความรู้จักเจ้าหุ่นเขียวและข้อดีข้อเสียของมันกันดีกว่าครับ
.............. ณ เวลานี้ต้องบอกว่า Android นั้นเป็น OS ที่เติบโตเร็วที่สุดครับในบรรดา OS ทั้งหลายใน 3 โลกถ้านรกกับสวรรค์เค้าใช้มือถือกันอ่ะนะ

1. มันเป็นของพี่เบิ้มอย่าง Google
............ แท้จริงแล้ว Android นั้นพัฒนามาจาก Linux ครับผมซึ่งคงทราบกันดีว่ามันเป็นระบบปฏิบัติการแบบเปิดซึ่งทาง Google นั้นได้เอามาพัฒนาต่อยอดเพื่อใช้กับมือถือนั่นเอง เอ๊ะเป็นของกูเกิลแล้วมีผลยังไงล่ะ หลายๆท่านอาจจะทราบดีครับว่า Google นั้นได้งาบ Youtube ไปแล้วรวมถึงของเก่าๆพี่แกอย่้าง Gmail ด้วย แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้มันน่าตื่นตาตื่นใจเท่าไหร่นัก แต่ที่ Google ให้มานั่นคือการวางระบบ Market ครับ เอาไว้ว่ากันต่อทีหลัง ตลอดจนเซอร์วิสต่างๆของกูเกิลที่ยัดมา ไม่ว่าจะเป็น Map Gtalk ฯลฯ รวมถึงความง่ายและครอบคลุมการใช้งานตามสไตล์กูเกิลเค้าล่ะครับ
2. ระบบ Market
........... ระบบ Market นั้นก็ดูไม่ต่างจาก Appstore เท่าไหร่นักแต่จะว่าต่างมันก็ต่าง หุหุ เพราะแอพของ Android นั้นส่วนมากแล้วจะเป็นแอพฟรีครับ ซึ่งเราสามารถใช้งานได้ตลอดชาติโดยไม่เสียเงินซักกะบาทเดียว แถมเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแล้วดาวน์โหลดได้เลยทุกที่ทุกเวลา ส่วนถ้าใครชอบนั้นก็สามารถจ่ายเงินซื้อได้เลยตามชอบใจครับ (แต่ของไทยยังซื้อแบบวิธีมาตรฐานไม่ได้นะครับ รอกันไป) แต่ต้องบอกว่าถ้าเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้วในส่วนของคุณภาพแอพโดยรวมนั้นยังสู้ของ Iphone ไม่ได้เพราะนั่นเค้ากลั่นกรองก่อนปล่อยออกมาขาย แ่ต่ Android นั้นเป็นระบบเปิดครับให้ผู้พัฒนาได้ทำมาขายหรือให้โหลดได้เต็มที่ แต่ไม่ใช่ แอพของ Android ห่วยนะครับบางตัวดีกว่า Iphone ก็มี อีกทั้งนักเลงแอพทั้งหลายก็เริ่มทยอยมาเปิดตัวกับ Android กันเป็นสายน้ำเลยทีเดียว
........... ในส่วนของเกมนั้น ผู้ที่ไม่รู้จัก Android เลยจริงๆ ผมขอบอกตรงนี้เลยครับว่า Android นั้นก็สามารถเล่นเกมและทำทุกๆอย่างที่ Iphone ทำได้เหมือนกันครับเพียงแต่ตอนนี้เกมยังไม่มากมายเท่า Iphone เท่านั้นแต่ตอนนี้ก็มีรวมๆแล้วหลายร้อยเกมเลยล่ะครับไม่ว่าจะเป็น Angry bird,Spiderman,Need For Speed,Let's Golf,Mega Jump ฯลฯ และอีกเพียบที่ไอโฟนมีแล้วแอนดรอยด์ก็มี รวมถึงค่ายใหญ่ๆที่ผลิตเกมก็ทยอยกันมาคบ Android อีกเหมือนกัน แต่เค้าไม่ทิ้งไิอโฟนนะครับอย่าเข้าใจผิด เค้าไม่ได้มีแฟนใหม่แต่เค้าหาแฟนเพิ่ม ซะงั้น

3. เป็นระบบเปิดจึงมีความหลากหลายของผู้ผลิตให้เลือก
............. ไม่ว่าจะเป็น Samsung,HTC,Sony Ericson,Dell,Asus,Motorola,Wellcom,imobile ฯลฯ แน่นอนครับส่วนนี้ผมว่าเป็นข้อดีสำหรับผู้บริโภคอย่างเราโอเคมันจะเสียเปรียบเรื่องของคุณภาพที่แตกต่างกันไป ทำให้การควบคุมมาตรฐานทำได้ลำบาก แต่ผมว่ามันก็มีข้อดีที่มากกว่าในตัวของมันเอง คือเราสามารถเลือกรูปทรงตลอดถึงดีไซน์ต่างๆของมือถือได้มากมายจากผู้ผลิตที่แห่กันมาแข่งขันกันเพื่อส่วนแบ่งของตลาดครับ ตลอดจนโปรโมชั่นและของแถมต่างๆที่บริษัทต่างๆขนกันออกมาเอาใจลูกค้าด้วยเช่นกัน
4. ความง่ายของการใช้งาน
............. ตรงนี้ก็เป็นจุดเด่นที่ผมชอบมากๆครับ สำหรับใครที่เคยใช้ Symbian นั้นก็คงคุ้นชินกับการลากวางๆไฟล์ต่างๆ ใน Android นั้นก็ทำได้ง่ายๆเช่นเดียวกันครับ ไม่ต้องผ่าน itune เหมือนของ Iphone ในการเชื่อมต่อต่างๆก็ผ่าน micro usb และช่องต่อหูฟังก็เป็น 3.5 มม เปลี่ยนแบตได้เพิ่มเมมโมรี่การ์ดได้ตามต้องการ มีการใช้งานที่ง่ายสำหรับคนเพิ่งใช้สมาร์ทโฟนก็ทำความเข้าใจแค่ไม่กี่ชั่วโมงใช้เป็นชัวร์ๆครับ อีกทั้งสามารถปรับแต่ง Widget ต่างๆให้เหมาะสมกับการใช้งานของเราได้ง่ายๆอีกด้วย
5. ราคาที่คุณเลือกได้
............ นี่ก็จัดเป็นข้อดีอีกประการครับ ในเมื่อมีผู้ขายหลายบริษัทมันก็จะมีข้อดีคือ ถ้าคุณมีเงินหน่อยและมีความชำนาญก็อาจจะใช้ Samsung Galaxy S ตัวเทพของปีที่แล้วในราคาที่ 22000 บาท(แต่ของหมดแล้วนะจ๊ะ ต้องไปดูที่งาน TME 2011 ที่กำลังจะมาเค้าจะมีขายใครที่หาตัวนี้อยู่ไปดูกันครับ แต่เป็นเวอร์ชั่นเปลี่ยนจอนะ) หรืองบปานกลางแต่อยากได้คุ้มๆก็อาจจะสอย LG Optimus one ในราคาที่ 9900 มาใช้ หรือในระดับน้อยลงไปอีกอาจหันไปคบ Spriiing Phone ของพี่ไทยที่เพิ่งออกมาใหม่ด้วยราคา 6000 บาททอน 10 บาทก็ได้ เหล่านี้ล้วนเป็นมือถือระบบปฏิบัติการ Android ทั้งสิ้นและแน่นอนมันใช้ Google Service ได้รวมถึงลงแอพต่างๆได้เหมือนๆกัน เพียงแต่สเป็คของเครื่องก็ตามกำลังทรัพย์เท่านั้นเองครับ
ข้อเสียของมัน
1. เป็นระบบเปิดควบคุมมาตรฐานบางอย่างได้ยากเช่น ขนาดของหน้าจอ มัลติทัช เซนเซอร์ต่างๆ ทำใ้ห้การใช้งานแอพบางแอพไม่สามารถทำได้
2.มันไม่หรูไม่ไฮโซ
3. คุณภาพของแอพโดยรวมยังสู้ไอโฟนไม่ได้ ณ ปัจจุบัน หรือแม้แต่ในอนาคต เพราะแอพฟรีนั้นสามารถขึ้น Market ได้่ง่ายๆ แต่ทางกูเกิลกำลังหาทางจัดระบบใหม่อยู่ครับ
4. การจัดการทรัพยากรของเครื่องนั้นยังทำได้ไม่ดีเท่ากับ Iphone นั่นก็เพราะมันไม่ได้มีอุปกรณ์เพียงแค่ตัวเดียวที่ใช้มัน ในสเป็คที่เท่าๆกัน iphone นั้นบริหารทรัพยากรได้เหลื่อมกว่านิดหน่อย
5. การก้าวกระโดดของแอนดรอยด์ันั้นทำให้ผู้ผลิตทั้งหลายหันมาทำอุปกรณ์ให้มันสเป็คเกินจริงกันไป ส่งผลให้กลไกของการพัฒนามันไปรวดเร็วเกินกว่าที่ควรจะเป็น แน่นอนราคาย่อมสูงตาม แต่ก็มีข้อดีคือสเป็คที่มันเคยดี(ซึ่งยังดีอยู่)ราคาก็ลดต่ำลงมาด้วย (อย่าไปเร็วนักบ้านเรา 3G จะได้ใช้ชาติไหน มาเล สิงคโปร์เค้าไป 4G แล้ว เรายังจะตามตูดเค้าไปที่ 3G กว่าจะได้เค้าไป 5G แล้ว ศึกษาซะ 4G มาช้ายังจะไปตามตูดเ้ค้าอีกกินกันเข้าไปภาษีน่ะ)

คงพอหอมปากหอมคอกันแล้วนะครับสำหรับสงคราม OS ของโลกมือถือ แน่นอนว่าเป็นมุมมองของผมล้วนๆไม่เอี่ยวใคร ไม่ถูกใจใครก็ขออภัยด้วย ซึ่งสิ่งที่ผมอยากฝากคือ ไม่ว่าจะ OS ไหนก็มีส่วนดีด้วยกันทั้งนั้นครับ เพียงแต่อยากให้ทุกคนเลือกให้มันเหมาะสมกับเราจริงๆ ส่วนทิศทางในอนาคตนั้นผมมองว่า Android นั้นยังไปได้อีกไกลโข ส่วน Apple ก็จะยังคงรักษามาตฐานของตัวเองไว้ได้ RIM นั้นก็มีขอบเขตการขายที่เฉพาะกลุ่ม ส่วน Windows Mobile ที่ผมไม่ได้เอ่ยถึงนั้นผมว่าคงเดินไปได้อีกไม่ไกลนักเมื่อเทียบกับตัวก่อนหน้า ทางด้าน Symbian เองก็จะลดความนิยมลงไปในที่สุดสรุปแล้วในด้าน OS นั้นผมว่า Android จะมาครองตลาด Smartphone ในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน ด้วยขอบเขตที่กว้างกว่าชาวบ้านเค้าเหมือน Symbian ตอนแรกๆนั่นแหละครับ
แต่ที่ขอไว้คือมาช่วยกันสร้างค่านิยมที่ถูกต้องให้เยาวชนของเรากันดีกว่าครับ ประเทศชาติในอนาคตจะได้ไม่อิ๊อ๋ายอย่างทุกวันนี้ สำหรับผู้ที่ใช้ Android อยู่ผมก็อยากฝากว่ากรุณาอย่าสร้างค่านิยมที่ผิดๆเดินตามรอยเก่าของ Iphone นะครับเด็กๆเค้าซึมซับไวจริงๆนะ ฝากไว้ด้วยแล้วกันครับ
ถ้าพี่น้อง RAFC เราต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมือถือ Android หรือมือถือเครื่องใหม่ก็ PM มาหรือโพสต์ลงกระทู้ไว้หรือจะแอด MSN มาคุยกันเช่นเดิมได้แต่ก็ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าเช่นเดิมครับ เนื่องจากภาระกิจที่โรงเรียนค่อนข้างหนัก รวมถึงสุขภาพผมก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก อาจตอบได้ล่าช้า หรือไม่ละเอียดยิบเหมือนแต่ก่อนก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ ส่วนถ้ามีกระแสตอบรับ Android อยาได้รีวิวผมก็จะจัดหามาให้ตามสไตล์ของผีน้อยเอง (แต่อาจช้าหน่อยอีกแหละ แหะๆ

เอาล่ะครับลากันตรงนี้แต่ไม่ลาขาด ขอให้พี่น้อง RAFC ทุกๆท่านมีความสุขสุขภาพแข็งแรงร่ำรวยเงินทอง เชียร์บอลอย่างสนุก แมนยูเป็นแชมป์ครับ ฮิ๊วววววววววว
<center>ปิดท้ายด้วยทำไม Galaxy S ถึงน่าใช้ครับ ฮิฮิ





