นิทานเรื่องนี้มีชื่อว่า
*เกรียนเป็ดโสโครก หน้าหิ่ กินขี้ตัวเอง*
มีขอเป็ดทานโสโครกอยู่ตัวหนึ่ง เป็ดเน่าตัวนั้นไม่ได้กินอาหารมาเป็นเวลานานแสน
เนื้อตัวมอมแมม ร่างกายซูบผอม มีแต่หนังหุ้มกระดูก
เป็ดเน่าผู้น่าสงสาร นั่งขอทานที่ทางขึ้นสะพานลอย ท่ามกลางผู้คนเดินผ่านไปมา
ใกล้กันนั้น มีร้านอาหารชั้นเลิศ มีผู้คนเดินเข้าออกร้านอาหารนั้น ด้วยหน้าตายิ้มย่องผ่องใส
ผู้คนที่เดินเข้าออกร้านอาหาร ต่างมีความสุข ที่ได้ลิ้มรสอาหารชั้นเลิศนั้น
แต่...เป็ดเน่าผู้น่าสมเพช อดอยากปากแห้ง หมดเรี่ยวแรงนอนทอดกายกับแผ่นดิน
สายตาของเป็ดเน่านั้น มองผู้คนที่เดินผ่านไปมา ดั่งสายตาของหมาบ้าคลั่ง
แล้วก็ตวาดออกไปว่า
* ไอ้พวกบ้า ตูก็มีอาหารกินเหมือนกัน อาหารหรูๆ ที่เมิงกินน่ะ ตูเคยกินมาทั้งหมดแล้ว นี่ไง อาหารที่ตูเคยกิน เมิงจงดูซะ เห่อๆๆๆ *
เมื่อพูดจบ เป็ดเน่าตัวนั้นก็ออกแรงกล้ามตูดเบ่ง ๆ ๆ แล้วก็ เบ่ง
เป็ดเน่าขอทาน ใช้เรี่ยวแรงไปอย่างมหาศาล ความเจ็บปวดรวดร้าวราน ประหนึ่งร่างกายของมันจะขาดสะบั้นออกเป็นสองท่อน
ในที่สุด ก่อนที่มันจะขาดใจตายไปเสียก่อน ขี้ ของเป็ดเน่านั้นก็เล็ดออกมาจากก้นเน่าๆของมัน
เป็ดเน่าขอทาน เมื่อได้กลิ่นขี้ของตัวเอง ก็มีสีหน้าพึงพอใจยิ่งนัก มันกระหยิ่มยิ้มอย่างลำพอง แล้วพูดออกไปว่า
* เห่อๆๆ นี่ไง อาหารสุดยอดที่ตูเคยกิน พวกเมิงจงดูซะ ดูซะ ดู ดู ดู เห็นกันไหมนี่อาหารชั้นเลิศของตู เห่อๆๆ *
ผู้คนที่ผ่านไปมาพบเห็นเหตุการณ์อันน่าขยะแขยงนั้น ต่างพากันสมเพชเวทนา เบือนหน้าหนีด้วยความสะอิดสะเอียน
เป็ดเน่าขอทานตัวนั้นยังพร่ำเพ้อต่อไปอีกว่า
* พวกเมิงอิจฉาตูเหรองายย เห่อๆๆ แค่มองหน้าตูยังไม่กล้าเลย พวกเมิงจะอิจฉาตูไป
ถึงไหน เห่อๆๆ ก็แน่นอนอยู่แล้ว เพราะตูมานเจ๋ง เห้อๆๆๆ *
แล้วทันใดนั้น สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ภาพที่ปรากฏตรงหน้า มันช่างเป็น
เหตุการณ์ที่น่าสะอิดสะเอียด ขยะแขยง แก่ผู้พบเห็น
เป็ดเน่าตัวนั้น เลียกิน ขี้ ของตัวมันเองอย่างเอร็ดอร่อย เป็ดเน่าตัวนั้น เลียกินขี้ไป ปากก็เพ้อเจ้อไป ว่า
* นี่ไง อาหารชั้นเลิศของตู ตูเคยกินมันเข้าไปตั้งแต่เมื่อเกือบ 20 ปีก่อนโน้นน เห่อๆๆ
อาหารดีๆ ที่พวกเมิงกินกันน่ะ ตูเคยกินมาแล้ว นี่งายย! เห่อๆๆ *
เป็ดเน่านั้น กินขี้ตัวเองพลาง พร่ำเพ้อไปพลาง
* อิจฉาตูล่ะเด่ะพวกเมิง เห้อๆ เห็นตูกินของอร่อยๆ เป็นไม่ได้ เมิงมันพวกขี้อิจฉา เห้อๆๆ
ตูมานเจ๋งเว้ย ตูมานสุดยอดด เห่อๆ เกือบ 20 ปีก่อนโน้น ตูเป็นเศรษฐีนะเว้ยย อิจฉาตูละเด้ะ เห่อๆๆ *
เป็ดเน่าคว้าเอา ขี้ ของตัวเองขึ้นมา แล้วประกาศออกไปอย่างภาคภูมิใจว่า
* นี่ไง อาหารระดับเทพที่ตูกินเข้าไปเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน นี่ไง! อยู่ในมือของตูนี่ไง
ตูจะกินโชว์ให้พวกเมิงดู ฉ่วบๆๆ! เห่อๆ อาหร่อยจังเลยยย เห่อๆๆ อาหารสุดยอด เห่อๆๆ
ไอ้พวกขี้อิจฉา เห็นตูกินของดี ได้แต่มองตาปริบๆ เห้ออๆๆ *
ผู้คนทั้งหลาย ที่เดินขวักไขว่ผ่านไปมา ต่างมีชีวิตความเป็นอยู่สุขสบาย
ต่างดำรงชีวิตอยู่ ด้วยอาหารอันใหม่สด รสเลิส ที่พวกเค้าแสวงหา และไขว่คว้ามาได้ในวันนี้
ข้าวปลาอาหารต่าง ๆ ที่พวกเค้าสามารถบริโภคมันได้ ในขณะที่อาหารนั้นยังใหม่ สด รสอร่อย
แต่..เป็ดเน่าผู้น่าขยะแขยง ดำรงชีวิตอยู่ด้วยการกิน ขี้ ของตัวมันเอง
วันแล้ว วันเล่า คืนแล้ว คืนเล่า จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี
จาก 1 ปี เป็น เกือบ 20 ปี
และ ไม่มีใครจะสามารถกำหนด หรือ ล่วงรู้ได้ว่า
ชะตาชีวิตของเป็ดเน่าตัวนี้ จะดำเนินต่อไปอย่างนี้ อีกนานเท่าใด
*******************
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า บุคคลควรจะแสวงหา ทุ่มเท และชื่นชม โสมนัส ภาคภูมิใจกับสิ่งที่ได้มาในวันนี้
มากกว่าที่จะไปหลงโง่มจมปลักอยู่กับอดีตที่ผ่านมาแล้ว
เพราะสิ่งที่ผ่านมาแล้ว แม้มันจะสดชื่นหอมหวานสักปานใด
มันก็จะไม่มีวันย้อนกลับมาให้เราได้ชื่นชมโสมนัสกับอย่างเต็มที่ได้อีกในปัจจุบัน
สิ่งที่ผ่านไปแล้ว มันเป็นเหมือนดั่งสายลมที่พัดผ่าน ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นได้
แต่ มันทำให้ท้องอิ่มไม่ได้
ก็เหมือนอาหารที่กินเข้าไปแล้ว เมื่อขับถ่ายออกมา มันก็กลายเป็นสิ่งปฏิกูล โสโครก
ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะนำมาบริโภคได้อีกในปัจจุบัน
นึกถึงมันได้ พูดถึงมันได้ รู้สึกถึงมันได้ ว่าเมื่อก่อนเราเคยลิ้มรส เราเคยมีความสุขที่ทุ่มกับมัน และได้มันมา
แต่เมื่อขับถ่ายออกมาแล้ว ไม่พึงนำมันมากิน เพราะมันกลายเป็น ขี้ ไปเสียแล้ว
ตราบใดที่เราทำเพียงแค่ นึกถึงมัน
นึกถึงรสชาด นึกถึงสีสัน
นึกถึงวันที่ทุ่มเทไขว่คว้า นึกถึงวันที่ได้มันมา
ตราบนั้น
มันก็ยังคงเป็นอาหารที่เลิศหรู คงอยู่ในความทรงจำของเรา
แต่..หากเรานำมันกลับมากินอีกแล้วไซร์
มันก็คือ ขี้ ดีๆนี่เอง
*****************
นิทานเรื่องนี้ มิได้มีเจตนาจะเหยีดหยามบุคคลหนึ่งบุคคลใดให้เจ็บช้ำ
แต่ปรารถนาอยากให้ใครบางคน ที่ทำตัวเป็นเหมือนเป็ดเน่า ในนิทานเรื่องนี้
ให้ได้รู้สำนึก และยอมรับ รับรู้ ความเป็นจริงที่กำลังเป็นไปในปัจจุบัน
ป.ล. ขออภัยครับ ถ้าเคยอ่านแล้ว